นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดใจลุยต่อสนามใหญ่เลือกตั้งชลบุรีเขต 9

นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดใจลุยต่อสนามใหญ่เลือกตั้งชลบุรีเขต 9 ท้าชนลูกทีม สนธยา คุณปลื้มที่ ส่งนายแมน อินทร์ทิพักษ์ อดีต สจ.ชลบุรี และเป็นพี่ชายนายกเทศบาลเมืองหนองปรือ ลงสมัครในนาม พรรคเพื่อไทย ขณะที่เขต 9 ยังมีผู้สมัครอีก 8 พรรคลงชิงชัย

นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ที่ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ในนาม “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “ลุงตู่” พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคว่าให้ความสนใจปัญ หาการบ้าน การเมืองมาโดยตลอด ด้วยทุกวันนี้เมืองพัทยามีปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมากมาย โดยแม้ที่ผ่านมาทางกลุ่มจะไม่ได้รับโอกาสในการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ส่วนตัวก็มองว่าการลงสมัคร ส.ส.ก็จะเป็นอีกทาง เลือกหนึ่งที่ดี ด้วยจะมีการประสานฝ่ายรัฐบาลในการเสนอโครงการหรือแก้ไขปัญหาโดยตรงในการดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างเมืองพัทยา จึงได้มีการหารือกันว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการนำพัทยามาสู่เมืองท่อง เที่ยวระดับโลกเหมือนในอดีต จึงมีความตั้งใจมากที่ได้ตัดสินใจลงสมัครเพื่อทำหน้าที่เป็นปาก เป็นเสียงให้กับประชาชนและบ้านเกิดในช่วงชีวิตที่เหลืออย่างเต็มที่แน่นอน

โดยหลังจากที่มีการลงรับสมัครรับเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตไปแล้ว นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่จับได้หมายเลข 4 ได้ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งจากประชาชนในเขตพื้นที่หนองปรือทันที โดยลงพื้นที่แนะนำตัวและนโยบายพรรคกับพี่น้อง ประชาชน ที่บริเวณตลาดM ภายในซอยชัยพฤกษ์ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสิ้นค้าที่ตลาด
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีการลงคะแนน 2 ใบ เป็นการเลือก ส.ส.1 ใบ และเลือกพรรค 1 ใบ ซึ่งส่วน ตัวแล้วในพื้นที่เขต 9 นั้นได้หมายเลข 4 ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้หมายเลข 22 ซึ่งการลงพื้นที่หาเสียงครั้งนี้จะเริ่มทำงานเป็นทีมโดยทันที เนื่องจากมีการสนับสนุนความช่วยเหลือในการเดินทางเข้าพบปะพี่น้องประชาชนร่วมกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพื่อแจ้งนโยบายของพรรคทั้งเรื่องสวัสดิการ แรงงาน และอื่นๆอีกมากมาย โดยยืนยันว่าเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริง

จากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอย่าง “พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา” ที่รู้ถึงสภาพปัญหาและวิธีการแก้ไขที่กำลังดำเนินการอยู่ และต้องการกลับไปสานต่องานให้เกิดผลสำเร็จในอนาคต โดยสิ่งแรกที่มองและต้องเร่งดำเนินการคือเรื่องของการศึกษา เนื่องจากในเขตหนองปรือไม่มีโรงเรียนระดับมัธยมในการรองรับจึงทำให้โรงเรียนที่มีอยู่เฉพาะในเขตเมืองพัทยาไม่เพียงพอต่อความต้องการ อีกเรื่องคือการหารือที่จะร่วมกับเทศบาลข้างเคียงในการรวมเป็นผืนเดียวกันในลักษณะ “มหานคร” เพื่อที่จะพัฒนาร่วมกัน หรือการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้การพัฒนาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมไปถึงปัญหาน้ำท่วมขังที่ต้องรวมมือกันเพราะน้ำส่วนใหญ่ไหลบ่ามาจากพื้นที่หนองปรือเข้าสู่เมืองพัทยา โดยถ้าหากมีโอกาสก็จะมีการเจรจากันอย่างจริงจังเพื่อให้แก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วยังมีความรัก ความจริงใจให้กับทุกคนและสังคมบ้านเกิดอย่างเต็มที่ตามสโลแกนที่ว่า “อบอุ่น เข้าถึง พึ่งได้” พร้อมขอฝากเบอร์ 4 ไว้พิจารณาด้วย

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าวภูมิภาคประจำเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนพัดถล่มปากพนังเมืองคอนอ่วมอรทัย น้ำท่วมต้นไม้หักโค่นขวางถนน ฝนตกน้ำท่วมและคลื่นลมแรงพัดพัดหอบหอยกาบเกลื่อนชายหาดชาวบ้าน แห่เก็บขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว
รวบแล้ว “พี่สาวเมียทนายตั้ม” หลังตกเป็นผู้ต้องหา “ร่วมกันฟอกเงิน” เร่งสอบปม 39 ล้าน
"ดร.ทันกวินท์" เล่านาที "ไอซ์ รักชนก" โดดเดี่ยว มาศาลฟังไต่สวนถอนประกันสส. ดูไม่มั่นใจเหมือนอยู่สภาฯ
‘สามารถ’ ห่วงแม่อายุมาก มอบทีมทนายยื่นโฉนดมูลค่า 1.2 ล้าน ขอประกันตัว
เยอรมนีจ่อเปลี่ยนสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่หลบระเบิด
จีนเตือนไม่มีใครชนะในสงครามการค้า
อัยการนัดฟังคำสั่งคดี "เชน ธนา-ภรรยา" ถูกกล่าวหาฉ้อโกง 29 พ.ย.นี้
“ลุงป้อม” ปัดตอบปม “สิระ” อ้างคนในป่าต่อสายช่วย “สามารถ”
"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น