ตร.ไซเบอร์ ทลายโกดังค้าอาวุธออนไลน์ ยึดของกลางมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

ตำรวจไซเบอร์ทลายโกดัง ขายปืนออนไลน์ พบอาวุธปืนเถื่อนกว่า 2,000 กระบอก ลูกกระสุนปืนกว่า 1,000,000 นัด รวมมูลค่ามากกว่า 50,000,000 บาท

วันนี้ (12 ส.ค. 2564) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาญชกรรมทางเทคโนโลยี 3 จังหวัดขอนแก่น พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3, ร่วมกับกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค4, กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีตรวจยึดอาวุธปืนของกลางจำนวนมาก ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.เชียงราย

 

พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายให้กับประชาชนทั่วไปผ่านแพลตฟอร์มในช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.สอท. จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้ออาวุธปืนประเภทอัดลม เบอร์ 1 และเบอร์ 2 จากผู้ค้ารายใหญ่ 2 ราย ประกอบกับผลการตรวจสอบจากกองพิสูจน์หลักฐานพบว่า อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว เป็นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ที่นายทะเบียนสามารถออกใบอนุญาตให้ได้ กระทั่งได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้นสถานที่ที่น่าเชื่อว่าเป็นแหล่งที่เก็บอาวุธปืนของกลางไว้สำหรับรอจำหน่าย ต่อมาเมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.สอท. ได้ร่วมกันตรวจค้นในพื้นที่ จ.ขอนแก่น 3 จุด และพื้นที่ จ.เชียงราย 2 จุด ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนรายหลายการ

โดยที่จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ร่วมกับ บก.สส.ภ.4 และ สภ.เมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันตรวจค้นทลายโกดังซุกช่อนอาวุธปืนเถื่อน เพื่อเตรียมนำไปจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย บ้านทาวเฮ้าส์แห่งหนึ่งซึ่งขัดทำเป็นโกดังเก็บของ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 1,114 กระบอก, อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 30 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 400,000 นัด บ้านทาวเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ซึ่งจัดทำเป็นโกดังเก็บของ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 258 กระบอก , อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 84 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 320,010 นัด บ้านพัก ภายในหมู่บันวราศิริ หนองไผ่ ต.ศิลา อเมือง ง ขอนแก่น พบอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 42 กระบอก ,อาวุธปืนสั้นไม่มีทะเบียน 8 กระบอก และกระสุนปืนประมาณ 200,000 นัด รวมของกลางอาวุธปืนยาวไม่มีทะเบียน 1,414 กระบอก อาวุปืนสั้นไม่มีทะเบียน 122 กระบอก กระสุนปืนตะกั่ว 920,010 นัค สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือ นายดนุนัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

สำหรับผู้ต้องหามีพฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. ได้ทำการสืบสวนผู้ค้าอาวุธปืนเถื่อนทางออนไลน์ กระทั่งพบผู้ค้ารายใหญ่จำนวน 2 ราย ทำการเสนอจำหน่ายอาวุธปืนผ่านช่องทางเว็บไชค์เพจเฟซบุ๊ค และช่องYouTube ใช้รีวิว จึงได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล และสถานที่ที่ใช้สำหรับซุกช่อนอาวุธปืนเพื่อรอจำหน่าย กระทั่งในวันที่ 11 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาข้างดัน พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก

จากการสอบสวนนายดนุนัย ทราบว่า ได้สั่งซื้ออาวุธปืนมาจาก ผู้ค้าในพื้นที่ กทม. และพื้นที่ภาคใด้ โดยปืนดังกล่าวนำเข้ามาจากต่างประเทศ ประกอบด้วย ประเทศอินโดนีเซีย, สวีเดน, สหรัฐอเมริกา, ตุรกี , สเปน และจีน โดยไม่ผ่านวิธีการทางศุลกากร ผ่านทางช่องขนส่งทางเรือ จากนั้นผู้ค้าจะทำการส่งของให้ผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีการชำระเงินกันผ่านวิธีการทางธนาการ ในส่วนอุปกรณ์ส่วนควบ และกระสุนปืนนั้น จะสั่งซื้อมาจากร้านค้าในเขตพื้นที่ กทม. เมื่อได้รับของมาแล้วจะนำมาซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ที่ถูกตรวจค้นข้างต้น เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อไป โดยได้สร้างเว็บไชต์ชื่อ ปืนอัดลม.com เพื่อโพสต์แสดงโชว์สินค้า เมื่อมีลูกค้าสนใจจะทำการติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และให้ลูกค้าทำการชำระเงินผ่านวิธีการทางธนาคาร ก่อนที่จะทำการจัดส่งสินค้าให้ทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศไทย รวมทั้งประเทศกัมพูชา ประเทศพม่า และประเทศลาว อีกด้วย โดยได้ทำการค้าขายดังกล่าวมาแล้ว ประมาณ 5 ปี มีลูกค้ามากกว่า 50,000 ราย มี รายได้เฉลี่ยประมาณ 300,000 บาทต่อเดือน

ผู้ถูกจับที่จังหวัดเชียงราย 2 คน ได้สั่งซื้ออาวุธปืนมาจาก ผู้ถูกจับที่จังหวัดขอนแก่น จากนั้นจะนำมาซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ที่ถูกตรวจค้นข้างต้น เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าต่อไป โดยได้สร้างเว็บไชด์ เพจเฟซบุ๊ค และช่องYouTube เพื่อใช้รีวิว เมื่อมีลูกค้าสนใจจะทำการติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ และให้ถูกค้าทำการชำระเงินผ่านวิธีการทางธนาคาร ก่อนที่จะทำการจัดส่งสินค้าให้ทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งได้ทำการค้าขายดังกล่าวมาแล้ว ประมาณ 4 ปี มีลูกค้ามากกว่า 20,000 ราย มี รายได้เฉลี่ยประมาณ 100,000 บาทต่อเดือน.

 

ภาพ/ข่าว นิติกรณ์ ฝางมาลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดขอนแก่น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมฯ เตรียมจัดมหกรรม "ไทยแลนด์ เอ็กซ์ตรีม เฟส 2025" คัดยอดฝีมือเสริมทีมชาติ
"อนุทิน" ถึงน้ำตาคลอตาม มอบเงินเยียวยาทายาทผู้เสียชีวิต เหตุตึกสตง.ถล่ม
"ดร.พิชาย"สวนคำ"อดีตผู้ว่าสตง."เหตุอาคารถล่ม ไม่เกี่ยวฮวงจุ้ย แต่มันคือความพังทลายจริยธรรมการใช้อำนาจ
"ผบ.ตร." ลั่นผมไม่มีญาติแบบนี้ ซัด"ลูกนายกเบี้ยว" โอ้อวดโชว์สนิทเรียก "อาต่าย"
เปิดใจญาติห่วง "ลุงประจักษ์" เหยื่อ BMW หวั่นอาการแย่ เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจโต
"เพจดังชมรม STRONG ต้านทุจริต" แฉสภาพเพดาน-คาน-ปล่องลิฟท์ตึก สตง. เทคอนกรีตไม่เต็ม รูโบ๋
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเร่งปฏิรูปวงการประกันภัยและธนาคารด้วย AI .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนสร้างสถิติ 'ชาอัดก้อน' หนักสุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนผลักดันเกษตรทันสมัยด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยี .
"ดีเอสไอ-โยธาฯ" ประชุมลับ ตรวจเอกสารหลังเข้าค้น กิจการร่วมค้า 4 บริษัท ด้านวิศวกร 2 คน ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น