วันที่ 6 เม.ย. 66 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมงานทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีพรรคภูมิใจไทย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต และบัญชีรายชื่อทั่วประเทศ ว่า ขอบคุณที่พรรคพลังประชารัฐส่งตัวแทนคือ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค และ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค มาร่วมยินดี และอวยพรวันคล้ายวันเกิดพรรคภูมิใจไทย ส่วนหลังเลือกตั้งจะได้กลับมาร่วมรัฐบาลเดียวกันหรือไม่นั้น ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐก็ทำงานร่วมกัน อย่างนายชัยวุฒิ ถือเป็นคนที่มีไฟในการทำงานเหมือนกับตน แต่ที่มาวันนี้ก็มาในนามตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ อาจสื่อได้ว่า ทั้งสองพรรคมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ร่วมรัฐบาลกันมา 4 ปีแล้ว ไม่มีความขัดแย้งใดๆ มองหลังจากนี้หากจะเป็นรัฐบาลอยากให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ ศาลแพ่งมีคำสั่งให้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ยุติการกล่าวร้ายโจมตีพรรคภูมิใจไทย และนโยบายกัญชา ในระหว่างช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่า หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยไปสมัครรับเลือกตั้ง และได้หมายเลขพรรค และผู้สมัครทุกคนได้หมายเลขสำหรับลงเลือกตั้งในแต่ละเขต ความวิตกกังวลก็หายไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นสิทธิของใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หน่วยงาน องค์กร ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย รวมถึงเรื่องไหนที่มีวิพากษ์วิจารณ์แล้วสร้างความเสียหาย และผลกระทบ หรือด้อยค่าให้ประชาชน สร้างความเข้าใจที่ผิดให้พรรคภูมิใจไทย เราก็ไม่สามารถไปห้ามให้ใครเขาพูดได้ คงต้องอาศัยบารมีของกฎหมาย และศาลที่ให้ความคุ้มครองพรรคภูมิใจไทย
แต่ในช่วง 37 วันก่อนจะมีการเลือกตั้ง กฎหมายจะสามารถควบคุม นายชูวิทย์ อยู่หรือไม่นั้น ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอให้ทำตามกฎหมาย เพราะศาลก็บอกแล้วว่า การออกคำสั่งเมื่อวานไม่ได้คุ้มครองการห้ามพูดไม่ดีต่อพรรคภูมิใจไทย เพราะมีกฎหมายของ กกต. อยู่แล้วว่าห้ามให้บุคคลใดด้อยค่า หรือชักจูงให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อพรรคการเมือง โดยเฉพาะผู้ใดที่ไม่ได้หมายถึงผู้สมัคร และใครก็ได้จะไปด้อยค่ากับคนหรือพูดไม่ดีทำให้คนเข้าใจผิด มันก็เข้าข่ายทำผิดกฎหมายหมิ่นประมาท