รู้ไว้ใช่ว่า 6 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น "โรคลมแดด" ภาวะฮีทสโตรก (Heatstroke) ภัยอันตรายที่มาพร้อมฤดูร้อน ยอดผู้เสียชีวิตพุ่ง 43 รายต่อปี
ข่าวที่น่าสนใจ
“โรคลมแดด” ฮี ท ส โตรก เกิดจากอะไร
- เกิดจากร่างกายไม่สามารถจัดการลดอุณหภูมิที่สูงมากลงให้เป็นปกติได้ ทำให้เกิดอันตรายต่อระบบการทำงานของร่างกายตามมา
- โดยเริ่มจากการอยู่ในสถานที่ที่มีความร้อน โดยไม่จำเป็นว่าต้องอยู่กลางแจ้ง อาจจะเป็นในห้องหรือสรานที่ที่ไม่ระบายความร้อนก็ได้เช่นในรถ หรือมีการออกกำลังกายทำให้ร่างกายมีการผลิตความร้อนมากขึ้น
- พอโดนแดดร้อนมาก ๆ ร่างกายระบายความร้อนไม่ทัน ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ พอสูงมากเกินไปก็ทำให้
- อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติไป
- เซลล์และปฏิกิริยาต่าง ๆ ก็หยุดทำงานไป
- ตับไตสมองเสียหาย
- โดยปกติร่างกายเราก็พยายามปรับตัวระบายความร้อนด้วยกลไกต่าง ๆ ให้เหมาะสมต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
- โดยอุณหภูมิของร่างกายปกติอยู่ที่ 36 – 37.5 ดีกรีเซลเซียส
- เส้นเลือดที่บริเวณผิวหนังจะมีการขยายตัว
- หัวใจจะเพิ่มการสูบฉีดเลือด
- ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น
- เหงื่อออกเยอะก็จะเพิ่มการระบายความร้อน
- แต่เมื่อเหงื่อออกมากก็จะทำให้ร่างกายเกิดการขาดน้ำ พอร่างกายเรารู้ตัวว่ามีการขาดน้ำร่างกายก็จะปรับตัวเพื่อความอยู่รอดโดยเลือกที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไตมากกว่าส่งไปที่ผิวหนัง ทำให้มีการระบายเหงื่อลดลง
- ในคนปกติก็จะสามารถจัดการควบคุมความร้อนได้ แต่ในคนที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว ก็จะมีการปรับตัวตรงนี้ได้ไม่ดีจึงทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรค ลมแดดมากกว่าคนอื่น
โรค ลม แดด อาการ
- อ่อนเพลีย
- กระหายน้ำ
- มีเหงื่อออกมาก
- หัวใจเต้นเร็ว
- ปวดมึนศีรษะ หน้าแดง
- ไปจนถึงมีอาการมากและเป็นอันตรายอัน ได้แก่
- อาการกระสับกระส่าย
- มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
- ไม่มีเหงื่อ เนื่องจากร่างกายขาดน้ำมาก จนนำไปสู่อาการหมดสติ ชัก
- ความดันโลหิตต่ำในขั้นสุดท้าย อาจเกิด ไตวายและเสียชีวิตได้ หากวินิจฉัยและรักษาได้ไม่ทันท่วงที
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค
- ผู้ป่วยที่มีไข้หรือมีการติดเชื้อในร่างกายมาก่อน
- ผู้สูงอายุและเด็ก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคผิวหนังแข็ง
- ผู้ที่กินยาบางชนิด เช่น
- ยาขับปัสสาวะ
- ยาจิตเวช
- ยาโรคสมอง
ซึ่งยาบางชนิดที่ใช้ในการรักษาโรคนี้ทำให้มีเหงื่อออกน้อยลง ในคนไข้ที่รับประทานยาประเภทนี้อยู่แนะนำ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุก ครั้งที่จะต้องทำกิจกรรม กลางแจ้งหรือออกแดดจัด ๆ หรือเป็นเวลานานและไม่ควรปรับเปลี่ยนยาเอง
- ผู้ที่ใช้สารเสพติดโคเคน ยาบ้าหรือดื่มสุรา
- อดนอน
- ผู้ที่ใส่เสื้อผ้าหนาระบายอากาศไม่ดี เสื้อผ้ามีสีเข้มซึ่งทำให้ดูดความร้อนมากขึ้น
การวินิจฉัย
ในรายที่สงสัยจะเป็น “โรคลมแดด” ส่วนมากจะมีอาการ ดังต่อไปนี้
- ต้องอยู่ในที่ร้อน ๆ หรือมีการออกแดด
- ตัวร้อนมาก วัดอุณหภูมิร่างกายได้มากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส
- มีอาการหน้ามืด เป็นลม เวียนศีรษะ เดินไม่ตรง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
เราจะแยกคนเป็นลมแดดกับเป็นลมจากสาเหตุอื่นได้อย่างไร
- อยู่กลางแดดหรือในที่ที่ร้อนจัด
- ตัวร้อนจัด ผิวแห้ง ไม่มีเหงื่อ
6 วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากโรค ลมแดด ภาวะฮีทสโตรก
- พาออกมาจากสถานที่นั้น มาอยู่ในที่ร่มและมีอากาศเย็นถ่ายเทความร้อนได้ดี
- หากคนไข้ใส่เสื้อผ้าที่หนาและไม่ระบายความร้อน ควรปลดเสื้อผ้าออก เพื่อเพิ่มการระบายความร้อน
- ทำการจัดท่าคนไข้โดยยกขาสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและความดันโลหิต
- หากคนไข้พอรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำมาก ๆ จะเป็นน้ำธรรมดา หรือน้ำเย็น ก็ได้แต่ห้ามใช้น้ำร้อน
- ใช้ผ้าชุบน้ำอาจจะเป็นน้ำเย็นหรือน้ำธรรมดา เช็ดตัวตามข้อพับ แขน ขา ซอกคอ ใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
- ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการมาก เช่น
- เป็นลม
- หมดสติ
- ความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลงให้รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วน
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนเป็นเวลานานโดยเฉพาะคนที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น โดยในกลุ่มนี้ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและมีการเตรียมตัวทั้งก่อนออกแดดและในช่วงที่อยู่กลางแดดด้วย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อน คนปกติควรดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรหรือ 6-8 แก้วต่อวัน
- ในระหว่างที่ออกแดดควรเตรียมน้ำดื่มไปด้วย โ
- ควรใส่เสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย และมีสีอ่อน ควรมีอุปกรณ์ป้องกันแสงแดด เช่น หมวก และ ร่ม
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์
ข้อมูล : mahidol
ข่าวที่เกี่ยวข้อง