วานนี้ ( 5 เม.ย.2566) ที่ธันเดอร์โดม สเตเดียม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย จัดงานปราศรัยใหญ่ ภายใต้แนวคิด “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” โดยทำการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีอะไรเซอไพรซ์แต่อย่างใด เพราะเป็น 3 ชื่อที่รู้กันอยู่แล้วว่ามีความภักดีต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของพรรคตัวจริงขนาดไหน โดย 3 คนที่ว่าก็คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลูกสาวคนสุดท้องของทักษิณ อายุ 36 ปี “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อดีตบิ๊กบอสแสนสิริ อายุ 60 ปี และ ชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย อดีตรมว.ยุติธรรมและอัยการสูงสุด อายุ 74 ปี
งานนี้แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยทั้ง 3 คน ได้โอกาสขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ให้ชาวบ้านได้ฟัง ชัยเกษมพุ่งเป้าโจมตีหลักนิติรัฐ นิติธรรมของประเทศว่าไม่หลงเหลือชิ้นดีไร้ซึ่งศักดิ์ศรี อัดตำรวจ อัยการ และศาลทำงานโดยไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจ สร้างอำนาจมืดเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวกตัวเอง ” 8 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่อย่างไร้ขื่อแป กฎหมายถูกใช้เป็นเครื่องมือรัฐ ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว รัฐธรรมนูญ 2560 คือเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาโดยไม่มีประชาชนเป็นหัวใจ คณะรัฐประหารจัดทำเองอย่างจอมปลอมเป็นวิกฤตของชาติที่พรรค พท.จะไม่ยอมอีกต่อไป” ชัยเกษมระบุ ก่อนประกาศว่าทันทีที่เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง จะรื้อกระบวนการยุติธรรมปรับปรุงยกเลิกกฎหมายที่ล้าสมัย ปฏิรูประบบราชการทั้งระบบ ด้านแพทองธารที่อุ้มท้องแก่เต็มทน กล่าวบนเวทีในทำนองพรรคตระกูลชินถูกปล้นอำนาจจากการรัฐประหาร ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร แต่รอบนี้มั่นใจเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ ส.ว.ไม่สามารถหยุดยั้งประชาชนได้ พร้อมชูนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ จะเติมเงินให้ทุกครอบครัวมีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ปรับเงินเดือนป.ตรีและข้าราชการให้ได้เงินเดือน 25,000 บาท ขยับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท
แต่ที่มาแรงสุดๆคือเศรษฐา ที่ประกาศว่า 3 ความตั้งใจที่จะทำ คือ ความตั้งใจแรกคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องเห็นความไม่เท่าเทียมตั้งแต่วัยเด็กและยังเกิดขึ้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยตัวเองตั้งใจจะยกระดับเศรษฐกิจทั้งประเทศ ด้วยนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลเติมเงิน 10,000 บาทให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินทั้งระบบตั้งแต่ระดับครัวเรือนถึงระดับประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ความตั้งใจที่สองคือการเปิดประตูการค้ากับทั่วโลก ความตั้งใจที่สาม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แข่งขันได้ในระดับโลก ทำให้ไทยเป็นฮับของสายการบิน ขยายโครงข่ายรถไฟเชื่อมเหนือจรดใต้ บริหารทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ท่วมไม่แล้ง ผลักดันพระราชบัญญัติ อากาศสะอาด เป็นต้น
ฟังแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยทั้ง 3 คน อาจเคลิ้ม เพราะพูดชวนเชื่อชวนลิงหลับทั้งนั้น แต่ถามว่าที่พูดทำได้จริงไหม อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป เริ่มต้นที่ชัยเกษม อดีตรมว.ยุติธรรมยุคยิ่งลักษณ์ เปิดชื่อมาก็รู้กันอยู่ว่า เป็นเบี้ยในกระดานของตระกูลชินวัตรมาแต่ไหนแต่ไร คราวก่อนเมื่อเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ก็เป็นแคนดิเดตนายกฯมาครั้งหนึ่งแล้ว เข้ามาเป็นพระอันดับจัดคนให้ครบ 3 ตามโควต้า แต่ไม่มีโอกาสเป็นนายกฯอยู่แล้วที่เจ้าตัวก็รู้เลยพูดออกมาต่อหน้าลูกสาวนายใหญ่ให้รู้กันไปเลย อดีตตอนเป็นอัยการสูงสุดก็เป่าคดีทักษิณ สะสางคดีที่จะเข้าถึงตัวนายใหญ่นายหญิง แบบสะอาดหมดจด เก่งเรื่องกฎหมายขั้นเทพเเข็งเรื่องจุดยืนต้านรัฐประหาร สายชินวัตรขนาดแท้บริวารแม้วตัวพ่อ ผลงานสร้างชื่อสุดๆคือ สมัยเป็นอสส.มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ฟ้องร้องทักษิณ อ เป็นหนึ่งในกรรมการกฤษฎีกาที่ได้ร่วมทำคำวินิจฉัยเรื่องหวย 2 ตัว 3 ตัว สั่งไม่ฟ้องการทุจริตในโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมัยเป็นรมว.ยุติธรรม จึงไม่แปลกที่จะได้รับการอวยยศจากทักษิณและรุ่งเรืองสุดๆในยุคยิ่งลักษณ์ อาทิ เคยเป็นประธานกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ชนิดเป็นประธาน ก.ล.ต.คนแรกที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงเศรษฐกิจ ประธานกรรมการบริหาร ธ.อาคารสงเคราะห์ สารพัดบอร์ดรัฐวิสาหกิจ การบินไทย การรถไฟ ฯลฯ และเป็นรมว.ยุติธรรมยุคเจ๊ปูว์ครองอำนาจ
มาถึงตัวอุ๊งอิ๊งความจริง ถ้าพูดกันแบบชาวบ้านก็เรียกว่า ไม่มีผลงานอะไรจับต้องออกมาให้ชาวบ้านเห็น ที่พ่อออกมาสร้างสตอรี่ว่าตามการเมืองตั้งแต่เด็ก 8 ขวบก็ขี้โม้ทั้งเพ เพราะคนที่ตามแม้วจริงๆตอนนั้นคือโอ๊คอ๊าค ชินวัตร ตัวเธอไม่เคยบริหารบริษัท ไม่มีเคยมีประสบการณ์บริหารคนหรือองค์กรเลย เทียบกับเจ๊ปูว์ดูอ่อนด้อยกว่าเยอะ เพราะเจ๊ปูว์ก่อนมาเป็นนายกฯ อย่างน้อยยังเคยเป็นซีอีโอของ บ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ “เอไอเอส” และ บ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเลขามูลนิธิไทยคม อย่างน้อยก็เคยผ่านการบริหารคน แก้ปัญหา จัดการองค์กรมาบ้าง แถมอายุอานามตอนนั้นก็ 44 ปีมีวุฒิภาวะพอสมควรแล้ว แต่อุ๊งอิ๊งไม่มีพื้นด้านนี้เลยขึ้นลิฟท์มาเพราะพ่อแท้ๆ อดีตก็เคยมีประวัติเสียเรื่องลอกข้อสอบ แต่ก็ไม่เคยยอมรับไม่เคยพูดความจริงออกมาเลย ตอนมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็พูดแต่จะเอาพ่อกลับบ้าน โฟกัสแต่เรื่องพานักโทษหนีคดีกลับไทย ไม่ได้สนใจปากท้องชาวบ้านชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยเลย เป็นลูกนายใหญ่เป็นทายาทแม้วเป็นลูกสาวคุณหญิงพจมานมีนามสกุลห้อยท้ายว่าชินวัตร เพียงแค่นั้นจริงๆถึงได้ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย เป็นทายาทคนที่ 4 ของตระกูลชินวัตร ต่อจาก พ่อแม้ว อาสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ ยิ่งลักษณ์ ที่เตรียมเข้ามาเป็นนายกฯบริหารประเทศ ดูถูกคนไทยเกินไปไหม เห็นคนไทยเป็นวัวเป็นควายหรืออย่างไร จะเสือกไสชื่อใครมาใส่ในราง จะโยนชื่อใครมาในกะบะนายกฯ คนไทยต้องเลือกคนไทยต้องก้มหัวคนไทยต้องสยบยอมกับคนในตระกูลชิน ที่ถูกทักษิณกับคุณหญิงพจมานมัดมือชกมาให้แบบนี้เหรอ ทุเรศสิ้นดีสำหรับทักษิณมองคนไทยเป็นอะไรมองประเทศไทยเป็นแบบไหน ถึงอยากส่งใครมาเป็นนายกฯบริหารประเทศก็ได้
มาถึงแคนดิเดตคนสุดท้ายคือเศรษฐา มาแรก ๆก็ดูดีแต่ไปๆมาๆอาจเข้าอีหรอบ ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่แต่พอลงท้ายเป็นบ้องกัญชา ก่อนหน้านี้คนไทยรู้จักดีก็ตอนเป็นที่ปรึกษาลับๆให้ยิ่งลักษณ์ตอนเป็นนายกฯ จากนั้นก็โด่งดังตอนเป็นข่าวคาวเรื่อง ว. 5 ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่น แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธไม่มีอะไรในก่อไผ่กับเจ๊ปูว์ จากนั้นก็เก็บตัวทำธุรกิจ ก่อนโผล่มาคอมเมนต์การเมืองเป็นระยะๆ สุดท้ายก็ถึงบางอ้อว่าโดดมาเล่นการเมืองเต็มตัวกับเพื่อไทยในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ล่าสุดก็มีปัญหาเรื่องเก็บเงินค่าผ่านทางชาวบ้านของแสนสิริ จากนั้นก็มีประเด็นเรื่องลูกชายยังไม่ได้เกณฑ์ทหารแต่คิดว่าผ่านการคัดเลือกทหารแล้ว ล่าสุดก็เสนอนโยบายประชานิยมใส่เงินในกระเป๋าตังค์ดิจิตอลให้คนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 1 หมื่นบาท ใช้จ่ายภายใน 6 เดือนในร้านค้าระยะทางไม่เกิน 4 ก.ม. งานนี้มีการถามว่าเศรษฐาจะเอาเงินจากที่ไหนมาจ่ายให้คนไทย คนอายุ 16 ปีขึ้นไปมี 53 ล้านคน ต้องใช้งบประมาณราว 555,000 ล้านบาทในการดำเนินโครงการ พูดแบบนี้ก็เหมือนขายฟันกลางวัน ประกาศนโยบายประชานิยมแบบชุ่ยๆ เหมือนทุกครั้งที่พรรคตระกูลชินใช้หาเสียงเลือกตั้ง ขายฝัน ชวนเชื้อ ไม่ได้คำนึงถึงภาระงบประมาณ หนี้ของประเทศ เรียกว่าพูดเอามันส์ คิดเพ้อฟัน ตามสไตล์เศรษฐีขายบ้าน อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ดูตามทรงนี้ถ้าได้มาบริหารประเทศมีหวังสร้างหนี้ให้คนไทยต้องตามชดขี้เช็ดเยี่ยมอีกบาน เหมือนโครงการจำนำข้าวของนายกฯน้องสาวคนสนิทที่ชื่อยิ่งลักษณ์ จนถึงตอนนี้ใช้หนี้ยังไม่เสร็จจ่ายค่าปรับยังไม่ครบ เพราะขาดทุนก่อหนี้ไว้หลายแสนล้านบาท ชาตินี้ชาติหน้าก็ล้างหนี้ไม่ครบ ปากก็บอกอาสามาเป็นนายกฯของคนไทย แต่แคนดิเดตที่ออกมา 3 คนก็ชัดเจนว่าล้วนเป็น “ลูกสาวทูนหัว-นักธุรกิจคนสนิท-อัยการประจำบ้าน” เป็น 3 รายชื่อที่ “ทักษิณ-พจมาน” ไว้วางใจ ไม่มีเลยที่จะเอาคนเก่ง คนดี คนซื่อสัตย์ เข้ามาบริหารประเทศไทย แถมที่เคยประกาศป่าวๆว่านายกฯต้องเป็นส.ส. ต้องยึดโยงกับชาวบ้าน ถึงเวลา “แพทองธารกับเศรษฐา” ก็ไม่ได้เป็นส.ส. ลงพื้นที่เจอชาวบ้านก็แบบแว่บๆ นั่งกินข้าวกับชาวนาก็แค่หลอกๆ สร้างดราม่าเอาใจคนรากหญ้ารากแก้วไปแบบนั้นแหละ ถ่ายรูปลงข่าววันเดียวก็จบ แท้จริงไม่ได้สนใจชาวบ้านไม่ได้เห็นอกคนยากจนตาดำๆ หรอก แค่อยากได้คะแนนเสียงช่วงเลือกตั้งแล้วจากไป ปรากฎการณ์คนเสื้อแดงมาตะโกนด่าวันรับสมัคร “ประชาธิปไตยของปลอม พรรคของปลอม แกนนำไม่เคยต่อสู้ แกนนำไม่เคยติดคุก แกนนำทิ้งประชาชน ” มันชัดเจน มันทิ่มแทง มันเบียดเข้าไปถึงกระดูก เพื่อไทยทักษิณตระกูลชิน เห็นคนไทยเป็นแค่เครื่องมือกระโจนเข้าสู่อำนาจ ตั้งใจเป็นนายกฯได้เป็นรัฐบาลคราวนี้เป้าหมายก็อย่างที่ทุกคนรู้ เอาพ่อกลับบ้านเอาแม้วเข้าฝั่งเอานักโทษหนีคดีกลับไทย เล่นละครตบตาคนไทยยังไม่เนียนอย่าคิดว่าคนไทยตามไม่ทัน
/////////////