“สนธิ” อธิบายย้ำคำพูดมัดตัว “ชูวิทย์” ฟันธงที่ดินบาร์เบียร์ คือสาธารณะสมบัติกทม.

“สนธิ” อธิบายชัด ๆ คำให้การ “ชูวิทย์” ต่อศาลฏีกา ตอกย้ำ “สวนชูวิทย์” เป็นสาธารณะสมบัติของกทม.แล้ว ถามถ้ามั่นใจที่ดินยังเป็นของตัวเองหยุดก่อสร้างทำไม เย้ย “ทนายอนันตชัย” ไม่เคยแพ้ แต่จะแพ้คดีนี้เป็นคดีแรก

7 เม.ย.2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้กล่าวในไลฟ์สด “SONDHI TALK” EP.184 เปิดเอกสารลับ ตอกฝาโลง “สวนชูวิทย์” ว่า ตนได้รับทราบคำชี้แจงปมที่ดินสวนชูวิทย์จากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายเชาว์ มีขวด และนายอนันตชัย ไชยเดช ตนอดขำไม่ได้

 

 

 

เพราะต่างคนต่างให้สัมภาษณ์กันไปคนละทิศคนละทาง เป็นมหกรรมการแถอย่างหน้าด้าน ๆ ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่ามีความพยายามหาช่องทางแก้เกมใช้เทคนิคทางกฎหมาย แต่คลิปเสียงคำให้สัมภาษณ์ คำให้การของนายชูวิทย์ต่อศาลฏีกาเรื่องที่ดิน เพื่อขอลดโทษ ที่นายชูวิทย์ระบุชัดเจนว่าทิ้งโครงการก่อสร้างสุขุมวิท 10 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ดั่งเช่น สวนสาธารณะทั่วไปและเป็นปอดใจกลางกรุงเทพฯ โดยไม่ได้พูดว่าชะลอโครงการ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าสวนชูวิทย์เป็นสาธารณะสมบัติของพลเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นการสละเพื่อพลเมืองกรุงเทพมหานคร ที่ไม่สามารถกำหนดเวลาเอาคืนได้แล้ว

 

นายสนธิ กล่าวอีกว่า ยังมีคำให้การของนายชูวิทย์ต่อศาลฏีกา เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2548 ที่นายชูวิทย์ให้การว่า ปัจจุบันยังให้ประชาชนใช้ประโยชน์สาธารณะจากสาวนชูวิทย์และจะทำต่อไป เพื่อแสดงความสำนึกผิดของตนเองที่กระทำต่อผู้อื่น ฉะนั้นนายชูวิทย์ ทนายอนันตชัย นายเชาว์ และปลัดกรุงเทพมหานคร นี่คือสิ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าชัดเจน ว่าเป็นการสละให้เป็นสวนสาธารณะต่อไปในอนาคต โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา อีกทั้งปัจจุบันที่มีการไปตัดต้นไม้ในสวนสาธารณะเพื่อทำโครงการมิกยูสก็เข้าข่ายผิดกฏหมาย โดยตัดต้นไม้ 1 ต้นในที่สาธารณะ โทษจำคุก 5 ปี

 

นายชูวิทย์และลูกหลานติดคุกหัวโตแน่ พร้อมฝากไปยังทนายอนันตชัยว่าควรเรียกค่าทนายจากนายชูวิทย์แพงๆ และทนายอนันตชัยที่บอกว่าตัวเองเป็นทนายอรหันต์ ไม่เคยแพ้ แต่คุณจะแพ้คดีนี้เป็นคดีแรก ขณะเดียวกันหากคิดว่าที่ดินยังเป็นของนายชูวิทย์ ก็ต้องดำเนินการก่อสร้างต่อ ไม่ต้องฟังคำสั่งกทม. แต่วันนี้กลับหยุดก่อสร้าง

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าก่อนหน้านี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวถึง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ที่ได้ยื่นหนังสื่อให้ตรวจสอบ “สวนชูวิทย์” ของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถึงความชัดเจนในการยกที่ดินเป็นสาธารณสมบัติว่า ได้รับรายงานจาก นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. เมื่อช่วงเช้า เบื้องต้นข้อมูลที่เป็นเอกสารจากกรุงเทพมหานคร พบว่า โฉนดที่ดินดังกล่าว ยังไม่ได้เป็นที่สาธารณะ กรุงเทพมหานคร ไม่ได้มีส่วนร่วมเข้าไปปรับปรุงให้เป็นพื้นที่สาธารณะแต่อย่างใด ยังเป็นที่ดินเอกชนอยู่ และมีการจ่ายภาษีที่ดินต่อเนื่องตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมา การจ่ายภาษีรวมประมาณ 3,000,000 บาทนั้น

ทางด้านดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฎฐ์” นักกฎหมายมหาชน ก็ได้อธิบายถึงประเด็นนี้ด้วยว่า ว่าการอุทิศที่ดินให้ใช้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน อาจกระทำโดยแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือปริยาย ที่ดินนั้นย่อมตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทันทีที่แสดงเจตนาอุทิศ ตาม ป.พ.พ.1304 ไม่จำต้องจดทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องแสดงเจตนารับ มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2555,4377/2549 วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11089/2556 เมื่อที่ดินตกเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว ผู้ยกให้จะทำหนังสือยกเลิกการยกให้ จึงไม่ทำให้ที่ดินนั้นกลับคืนมาเป็นของผู้ยกให้อีก

 

 

 

 

การที่นายชูวิทย์ มีเจตนาอุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินในคดีรื้อบาร์เบียร์ โดยนายชูวิทย์ สร้างสวนชูวิทย์เพื่อประชาชนในการออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้ศาลฎีกาลงโทษสถานเบา วิธีการอุทิศที่ดินเพื่อให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304(2) จะด้วยวาจาหรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อศาล ถือเป็นการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสมบูรณ์แล้ว ตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

เมื่อการอุทิศที่ดินให้เป็นประโยชน์สาธารณะ แม้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้อุทิศ หรือใช้ประโยชน์ไม่ได้ ที่ดินนั้นยังคงสภาพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2004/2544 5112/2538 3008/2535 วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน กรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์พิจารณาเพียงว่า กทม.ไม่ได้มีส่วนร่วมเข้าไปปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ ยังเป็นที่ดินเอกชนอยู่ และมีการจ่ายภาษีที่ดินอย่างต่อเนื่องตามกฎหมายที่ผ่านมา สรุปภาษาชาวบ้าน คือที่ดินยังเป็นของนายชูวิทย์ ถามว่าก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายชัชชาติ ปรึกษานิติกรกทม.หรือฝ่ายกฎหมายหรือยัง

 

 

 

“ผมจะสอนมวยให้จะได้มีความรู้กฎหมายในการทำหน้าที่ผู้ว่า กทม.จะต้องยึดหลักกฎหมาย เน้นความถูกต้อง ไม่เน้นถูกใจ ผมไม่ได้รู้จักกับนายชูวิทย์ จอมแฉ หรือนายศรีสุวรรณ แต่จะให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชน จะได้เป็นทางออกของบ้านเมือง แม้จะเป็นเรื่องที่ดินส่วนตัวของนายชูวิทย์ แต่นายชูวิทย์ อุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณสมบัติที่ดินแล้ว เพื่อลดโทษคดีอาญาในชั้นฎีกาสถานเบา ถือเป็นเรื่องสาธารณะ ผมสามารถติชมด้วยความสุจริตได้ ให้นายชัชชาติไปอ่านแนวคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยได้ชัดแจ้งเพื่อสำเหนียกในการรักษาผลประโยชน์สาธารณะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจ้าคณะอำเภอสั่งนิมนต์  “พระอาจารย์ชิน” พ้นสำนักสงฆ์ใน 7 วัน หลังปลุกเสก “หมูเด้ง” ลูกศิษย์เศร้าพระอาจารย์เป็นพระสายปฏิบัติ
ผบ.ทร.ชื่นชมนักรบ 356 นาย เสียสละช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่เชียงราย
"ผบ.ทร" ตรวจเยี่ยม หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ยกระดับกำลังพล-เครื่องมือ ทุกมิติ ย้ำรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่
"เจ้าอาวาสวัดดัง" พิษณุโลก เครียดหนัก เจ้าภาพกฐินเทงาน ซ้ำจ้างลิเกคณะดังมาแสดง กลับไม่จ่ายเงิน
“ชูศักดิ์” เผยเพื่อไทยตั้งวงวาง 3 สถานการณ์เร่งแก้ รธน. ย้ำยังเป็นเรื่องที่อยู่ในเป้าหมาย
"บิ๊กเต่า" เผยกองปราบเร่งสอบปม "ทนายตั้ม" รีดเงินบอสพอล 7.5 ล้าน
Ripley's Believe It or Not! Pattaya เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ตัวที่ 9 THE LOST PYRAMID การผจญภัย ล่าสมบัติในพีระมิดที่สูญหาย
"ทนายเจ๊อ้อย" เผยเหตุสอบปากคำนานเ ชี้ตร.เก็บทุกประเด็น ลั่นไม่มียอมความ
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
วัดหนองฆ้อ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พุทธาภิเษกพระผงเหนือดวงเศรษฐี หลวงพ่อทองสุข รุ่นที่ระลึกงานทอดกฐิน เปิดให้บูชาเนื่องในวันทอดกฐินสามัคคีประจำปีของวัด รายได้นำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น