“เศรษฐา” โต้รัว ปัดประชานิยมสุดโต่ง “เพื่อไทย” แจกดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น ย้ำใช้เงินภาษี ตัดงบกระทรวง

“เศรษฐา” โต้รัว ปัดประชานิยมสุดโต่ง “เพื่อไทย” แจกดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น ย้ำใช้เงินภาษี ตัดงบกระทรวง

หลังจากเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทย จัดงานปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพมหานครครั้งแรก กับงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais โดยมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ นั้น

โดยประเด็นที่น่าจับตามอง คือการที่ นายเศรษฐา ประกาศว่าเพื่อไทยจะทำนโยบายเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่เคยประกาศไว้ในงาน คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่บอกตัวเลขว่าเท่าไร และนโยบายการต่างประเทศเพื่อหาตลาดส่งออกสินค้าไทย อย่างแรก การนำเทคโนโลยีการเงินมาใช้เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล พร้อมเติมเงินให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้ใช้ซื้อของในชีวิตประจำวันได้จากร้านค้าในชุมชน ให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเงินที่จะเติมให้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลมีมูลค่าถึง 10,000 บาท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ สร้างความเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจไทย และลดช่องว่างรายได้ ในขณะที่รัฐบาลจะได้รายได้กลับคืนมาในรูปแบบของภาษี และการยกระดับเศรษฐกิจทั้งระดับ

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรค พท. และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค แถลงกรณีมีการตั้งข้อสงสัยกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
หลังจากเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2566 พรรคเพื่อไทย จัดงานปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพมหานครครั้งแรก กับงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais โดยมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 คน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และนายชัยเกษม นิติสิริ นั้น

 

 

โดยประเด็นที่น่าจับตามอง คือการที่ นายเศรษฐา ประกาศว่าเพื่อไทยจะทำนโยบายเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่เคยประกาศไว้ในงาน คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่บอกตัวเลขว่าเท่าไร และนโยบายการต่างประเทศเพื่อหาตลาดส่งออกสินค้าไทย อย่างแรก การนำเทคโนโลยีการเงินมาใช้เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัล พร้อมเติมเงินให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้ใช้ซื้อของในชีวิตประจำวันได้จากร้านค้าในชุมชน ให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเงินที่จะเติมให้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลมีมูลค่าถึง 10,000 บาท เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ สร้างความเจริญเติบโตให้เศรษฐกิจไทย และลดช่องว่างรายได้ ในขณะที่รัฐบาลจะได้รายได้กลับคืนมาในรูปแบบของภาษี และการยกระดับเศรษฐกิจทั้งระดับ

 

นายเศรษฐา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ (5 เม.ย.) ที่ผ่านมา พรรค พท.มีการแถลงนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเงินมาจากไหน ช่วงเวลา 8 ปีที่ผ่านมาประเทศเราบอบซ้ำมาเยอะโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนมีรายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม จนกระทั่งอยู่ในภาวะที่เรียกว่าซึมลึก ซึมนาน ซึมยาว รัฐบาลปัจจุบันก็ค่อย ๆ หยอดน้ำข้าวต้มมาเรื่อย ๆ เป็นจำนวนเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและไม่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจที่เหมาะสมที่ถูกต้อง

นายเศรษฐา กล่าวว่า เราคิดใหญ่ทำเป็น จำนวนเงิน 10,000 บาทนั้น เราจะให้เป็นเงินดิจิทัล 10,000 บาทเลย ที่ต้องให้เป็นกระเป๋าตังค์ดิจิทัลไม่ให้เป็นเงินสด เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่เราสามารถจำกัดวิธีการใช้ได้ หากให้เป็นเงินสดก็อาจจะใช้ไปในทางอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องของการพนัน ยาเสพติด การใช้หนี้นอกระบบ เทคโนโลยีจะสามารถบอกได้ว่าไปใช้อะไรบ้าง ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าหากเป็นหนี้สถาบันการเงินจะสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่เราต้องลงพื้นที่เพื่อสอบถามความต้องการ หากเป็นความต้องการเราก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง

ส่วนระยะเวลาที่เราให้ใช้ภายใน 6 เดือนนั้น เพราะเราต้องการให้มีกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายใช้สอยอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องให้ความสำคัญ อีกเรื่องคือระยะรัศมีในการใช้ตามบัตรประชาชน 4 กิโลเมตรนั้น หากพื้นที่ไหนที่ไม่มีร้านค้า ก็สามารถขยายระยะทางออกไปได้ ส่วนคนที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ แต่บัตรประชาชนอยู่ต่างจังหวัดจะสามารถใช้ได้หรือไม่นั้น เราตอบชัดเจนว่าไม่ได้ เพราะเราอยากให้กลับไปใช้เงินที่บ้านเพื่อที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่ใช่ให้มีการมากระจุกตัวที่หัวเมืองอย่างเดียว หากภายใน 6 เดือนนั้นไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเลย เงินก็จะหายไป ฉะนั้นคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ให้พี่น้องได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ภูมิลำเนาและไปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนด้วย

 

 

เมื่อถามว่า มีนักวิชาการมองว่าเป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้ว พร้อมตั้งคำถามว่าเงินมาจากไหน และจะกระทบหนี้สาธารณะของประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายนี้จะทำให้ภาครัฐเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น นี่จะตอบคำถามได้ว่าเงินมาจากไหน ยืนยันว่าเม็ดเงินมาจากการจัดสรรงบประมาณ การจัดเก็บภาษี VAT ที่ได้เพิ่มมากขึ้น และการจัดเก็บภาษีนิติบุคคล รวมทั้งสวัสดิการรัฐที่ลดน้อยลง

“ผมไม่อยากให้ใช้คำว่าประชานิยมสุดโต่ง แต่เป็นความจำเป็นและความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการการช่วยเหลือเวลานี้” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า งบประมาณปี 67 ที่ตั้งไว้ 3.35 ล้านล้านบาท ถ้าเป็นรัฐบาลและนำเสนอนโยบายนี้ จำเป็นต้องปรับลดงบประมาณกระทรวงอื่น ๆ อย่างเช่นกระทรวงกลาโหม หรืองบประมาณลงทุนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีจะได้เพิ่มมากขึ้นกว่า 2 แสนล้าน ส่วนงบประมาณอื่น ๆ นั้น จะต้องดูงบประมาณในส่วนอื่น ๆ ไม่ใช่งบประมาณกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ว่าอะไรเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เมื่อถามว่า จำนวนเงินที่ได้สามารถนำไปใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าน้ำมันได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ได้ทั้งหมด ยกเว้นซื้อบุหรี่หรือใช้หนี้นอกระบบ

เมื่อถามอีกว่า หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปร่วมโครงการได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทั้งหมด ไม่ได้กีดกั้นใครคนใดคนหนึ่ง เราเสมอภาคเท่าเทียม

เมื่อถามว่า คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปสามารถใช้ได้ แล้วจะใช้งบประมารณเท่าไร นายเศรษฐา กล่าวว่า จะมีประชาชนกว่า 50 ล้านคนที่ได้รับสิทธิ์ ซึ่งจะใช้งบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท คาดว่าจะเริ่มโครงการได้ช่วงไตรมาส 3 หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งจะเริ่มได้ประมาณวันที่ 1 ม.ค. 67

เมื่อถามว่า คาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ภายใน 4 ปี การเติบโตของจีดีพีเฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี

เมื่อถามว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านโยบายนี้มองประชาชนเป็นยาจก นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่เคยมองประชาชนเป็นยกจก เป้าหมายของของพรรค พท. คือช่วยประชาชนพ้นหลุมดำของความยากจน ถ้าเกิดว่าดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นจุดสตาร์ทให้ประชาชนลุกขึ้นเดินลุกขึ้นทำมาหากินได้อีกครั้งหนึ่ง ผมถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชน”

ด้าน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรค พท. คือต้องการได้อำนาจรัฐเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งเราประกาศเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 และก็เริ่มมีมาตรการที่ค่อย ๆ ปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นรายได้ขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และที่สำคัญเราได้รับรองได้ว่าเราสามารถทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นได้ไม่ต่ำกว่า 5% ซึ่งเมื่อประชาชนมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รายได้ไม่เพียงพอ ก็เป็นการสำคัญที่หากพูดในเชิงการแพทย์ที่เราไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้มเพื่อให้ยืดจากความตาย แต่เราจะต้องใช้การปั๊มหัวใจให้กลับคืนมาให้รวดเร็วเพื่อกลับมาแข็งแรง โดยกระเป๋าตังค์ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่จะปลุกกำลังของเราให้ฟื้นขึ้นเพื่อให้เราไปแข่งขันกับต่างประเทศได้ แต่ระหว่าง 6 เดือนนี้เราจะมีมาตรการอื่นรองรับเพื่อให้เขาขยับไปทำมาหากินได้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า นโยบายนี้จะไม่เข้าข่ายหมิ่นเหม่กฎหมายที่สัญญาว่าจะให้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา นี่เป็นนโยบายที่เกิดขึ้นกับคนไทยทุกคนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ไม่ได้ให้ประชาชนเลือกระหว่างนโยบายเงินดิจิทัลกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะประชาชนจะมีสองบัญชี คือ บัญชีออมทรัพย์ และบัญชีดิจิทัลวอลเล็ต แต่เราจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น จนวันหนึ่งคนจะหลุดจากเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ย้ำว่าเราจะไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า พรรค พท.ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกบัตรคนจน แต่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกระหว่างบัตรคนจนกับโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล หาก พท.ได้เริ่มดำเนินโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลเมื่อไหร่ คนไทยคงไม่อยากกลับไปใช้บัตรคนจนอีกแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น