เมื่อวันที่ 7 เมษายน เวลา 18.00 น. ที่บริเวณลานอัฒจันทร์กลางแจ้ง สวนเบญจกิติ บนเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ได้ปราศรัยท่ามกลางประชาชนมาฟังจำนวนมากว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาตนกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ เข้ามาบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นแค่พรรคที่ตั้งใหม่ แต่เป็นพรรคที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย เป็นพรรคที่มีคนทุกรุ่น เพราะการบริหารประเทศเป็นของทุกคนทุกรุ่นทั้งรุ่นใหม่รุ่นกลางและคนเดิมที่เป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมารวมกันทำงานในพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เป็นพรรคหลักเพื่อดูแลชาติบ้านเมืองต่อไปร่วมกับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่พัฒนาเฉพาะกรุงเทพฯเท่านั้นแต่จะพัฒนาประเทศไทยทั้งประเทศ ตนอยู่ในการเมืองมา 30 ปีเห็นความขัดแย้งต่างๆ ตนเห็นว่าการมีพรรคการเมืองไม่ได้มีเพื่อสร้างความแตกแยก แต่ต้องไม่แบ่งแยก จึงสร้างคนรวมกันจนเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้เข้าคูหากาเบอร์ 22 เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดิมคนเก่าจะทำต่อ
“ก่อนหน้านี้ที่พลเอกประยุทธ์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคคิดว่าหากต้องการให้ประเทศอยู่เพื่อความสงบต้องมีนโยบาย 4 เรื่องคือ รื้อ ลด ปลดและสร้าง รื้ออะไรที่ไม่ดี และมาสร้างสังคมที่ดีงามอยู่ด้วยกัน ต่อมาเมื่อพลเอกประยุทธ์บอกว่าจะมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะแค่รื้อลดปลดสร้างไม่ได้แล้ว เพราะมีป้ายติดไปทั่วบอกว่าจะทำนี่ทำนั่น แต่ได้ยินประชาชนพูดว่า สิ่งเหล่านี้ ลุงตู่ทำมาหมดแล้ว จึงเป็นที่มาของ motto ที่ว่า ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ลุงตู่เป็นคนที่ทำมาแล้ว ไม่ได้มาฝึกงาน มีประสบการณ์ ดังนั้น ถ้าจะเลือกคนมาทำงานเราต้องเลือกมืออาชีพไม่ใช่เด็กฝึกงาน มืออาชีพที่ทำให้สังคมไทยเปลี่ยนไปทุกเรื่อง”นายพีระพันธุ์กล่าว