เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ถิรพุทธิ์ สุขชัย และ ร.ต.อ.ฐานันดร สาสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน)กก.3 บก.ปอท. แจ้งความเอาผิด ต๊อด-ปิติ กรณีโพสต์ ข้อมูลเท็จ “วัคซีนผสมน้ำ” มีด้วยหรือ?
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า ตามที่นายปิติ ภิรมย์ภักดี หรือต๊อด ทายาทเครือสิงห์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กตำหนิการจัดสรรวัคซีนของรัฐบาล เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้นั้น
การโพสต์ข้อความได้ระบุว่า “ผมว่าจะไม่ลงละนะ แต่สงสารคนไทย ศบค.พูดโคตรชัดว่าวัคซีนทำให้จำนวนคนตายลดลง แล้วทำไมถึงเลื่อน ทำไมถึงฉีดไม่ได้ตามเป้า วัคซีนหายไปไหน รักกันมากๆ หน่อยสิ เตือนไว้ก่อนด่ามาจะด่ากลับ หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน ไม่ต้องชื่นชมหรือมาซื้อของบริษัทผม ผมแค่ทำหน้าที่คนไทยคนนึงที่อยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้น”
อีกทั้งยังได้แสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกว่า “ผมหวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นแต่ไม่เลย เลวลงทุกวัน ผมก็รู้จักนักการเมืองอยู่เยอะ พวกเค้าก็น่าจะรู้จักผมบ้าง ผมไม่ได้ท้าทายนะครับ แต่ผมถ้ามา ผมก็เอา” และ “ด่านหน้าต้องจับฉลากเพื่อจะได้ฉีด บางโรงบาลใช้วิธีผสมน้ำเพื่อให้ครบคน ผมขอสละตัวเองเป็นกระบอกเสียงให้พวกเค้าครับ และเมื่อผมเอาจริงคือเอาจริง”
การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ได้นำไปเผยแพร่อย่างมากมาย ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และเป็นที่สงสัยกันมากว่า วัคซีนที่แพทย์พยาบาลกำลังฉีดให้กับประชาชน เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 อยู่ในขณะนี้นั้นมีการ “ผสมน้ำ” ในบางโรงพยาบาลเพื่อฉีดให้กับประชาชนได้ด้วยหรือ ? การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีเจตนาอื่นหรือไม่ ประการใด หรือเป็นเพียงแค่การเอามัน เพื่อให้ประชาชนชื่นชมตนเองว่ามีความห่วงใยชาวบ้านเท่านั้น หรือถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นจริง ขอให้เปิดเผยออกมาว่ามีโรงพยาบาลแห่งใด ใช้วิธีการฉีดวัคซีนดังกล่าว
กรณีดังกล่าว สังคมไทยคงไม่เอามันด้วย เพราะเป็นการโพสต์หรือนำเข้าข้อความสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ อันก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และอาจเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศฯ อันเป็นความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขปี 2560 ม.14(2) ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความไปร้องต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อนายต๊อด-ปิติ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมต่อไป แม้จะเป็นคนดัง คนเด่น คนรวยและใหญ่แค่ไหน ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้รายงานผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป