“อนุชา” ดึงโครงการ “โคล้านครอบครัว” ช่วยชาวเมืองคอน หวังเพิ่มรายได้ สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก

"รมต.อนุชา" ดึงโครงการโคล้านครอบครัว ช่วยชาวเมืองคอน หวังเพิ่มรายได้ สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวคิด "เงินบาทแรกของแผ่นดิน"

วันที่ 10 เมษายน 2566 ที่ห้องประชุมศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ตำบลไทยบุรี อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เป็นประธานเปิดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง” ภายใต้โครงการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) โดยมี นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ ร่วมงาน

 

นายอนุชา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนภาคใต้ในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา บางปีก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำยางตกต่ำ และถูกพ่อค้าคนกลางกดราคารับซื้อน้ำยาง ส่งผลให้พี่น้องชาวใต้ได้รับความเดือนร้อนอย่างต่อเนื่อง แต่สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ “วังไทร” หมู่ที่ 11 ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ไม่หยุดนิ่ง ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาหาความรู้ตามแนวทางนโยบายของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดทำโครงการ โรงงานยางพาราอัดแท่ง STR 5L ถือเป็นโครงการต้นแบบ ที่ใช้เงินลงทุนจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง นำมาเพิ่มความเข้มแข็งเสริมสภาพคล่องของเศรษฐกิจในชุมชน ทำให้ปัจจุบันนี้มีเงินในชุมชนหมุนเวียนกว่า 150 ล้านบาท และเป็นชุมชนต้นแบบที่พัฒนาต่อยอด ยกระดับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองไปสู่การเป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพมาตรฐาน และประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายอนุชา ย้ำว่า นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวใต้ได้เป็นอย่างดี คือ การทำปศุสัตว์ เช่นการเลี้ยงโค ปัจจุบันความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์มีเพิ่มสูงขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะเนื้อโค โดยมีสัดส่วนตลาดบนร้อยละ 20 ที่เหลืออีกร้อยละ 80 เป็นตลาดกลางและตลาดล่าง ด้วยเหตุนี้ทำให้ตลาดเนื้อโคยังมีช่องว่างที่จะสามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนได้อีกมาก ที่สำคัญ โคเลี้ยงง่ายเพราะกินหญ้า ทนทานต่อโรค โคสามารถสร้างรายได้เป็นเท่าทวีคูณ ภายใน 1 ปีโคออกลูก สามารถทำเงินปลดหนี้ได้ในปีต่อ ๆ ไป สมาชิกกองทุนฯ หากอดทน ตั้งใจเลี้ยงโค ในอนาคตรายได้จากการเลี้ยงโค จะเลี้ยงครอบครัวแทน มีโอกาสได้จับเงินแสน เงินล้าน ถ้าเทียบกับอาชีพเกษตรกรอื่นๆ ที่ต้องใช้ปัจจัยหลายประการในการประกอบอาชีพ แต่การเลี้ยงโค สามารถทำให้พี่น้องชาวใต้คืนทุนเร็ว ทำให้สามารถปลดหนี้และมีเงินหมุนเวียนในครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญได้อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องเดินทางไปทำงานไกลบ้าน

 

นายอนุชา กล่าวเพิ่มอีกว่า “สิ่งสำคัญสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ควรติดตามเศรษฐกิจแนวใหม่ ที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์สำคัญของโลกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย BCG คือ B (Bio-economy) เศรษฐกิจชีวภาพ C (Circular Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน และ G (Green Economy) เศรษฐกิจสีเขียว ที่ทางรัฐบาลผลักดันให้ทั้งภาครัฐและเอกชนนำมาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ โดยคำนึงถึงเงินบาทแรกของแผ่นดินเป็นสำคัญ ซึ่งหมายถึง ภาคเกษตรกร เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพเกษตรกรรมและปศุสัตว์ หากประชาชนกลุ่มนี้ ซึ่งถือเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ มีสภาพคล่องทางการเงิน มีอาชีพที่มั่นคง เกิดการกระจายรายได้ทั่วทุกภูมิภาคแล้ว ก็จะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของไทยตามเป้าประสงค์ของกองทุนหมู่บ้าน ฯ

 

 

ส่วนการจัดงาน “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง”วันนี้ ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 เพื่อฟื้นฟู และเพิ่มขีดความสามารถให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ของกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ประสบความสำเร็จ ให้เกิดการแลกเปลี่ยน ส่งต่อแนวคิดสู่กองทุนหมู่บ้านฯ ในพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนส่งเสริม ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อพัฒนาทักษะเกี่ยวกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ให้แก่พี่น้องกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายหลัก จากสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ฯ จาก 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ระนอง ชุมพร เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

 

 

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น เสวนาโดยกองทุนหมู่บ้านต้นแบบ “ทำแล้ว ทำง่าย ทำได้…ไม่ยาก” จากโรงงานยางพาราอัดแท่ง STR 5 L และแปรรูปผลิตภัณท์ กองทุนหมู่บ้านวังไทร หมู่ที่ 11 ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีเพิ่มทักษะเรื่องโครงการโคล้านครอบครัว จากเกษตรกรผู้เลี้ยงโครายย่อย นิทรรศการ และบูธกองทุนหมู่บ้าน ฯ รวมถึงการเจรจาธุรกิจระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยครั้งต่อไปจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในวันที่ 24 เมษายน 2566 ณ จังหวัดสงขลา ขอเชิญชวนสมาชิกกองทุนฯ จังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น