หอการค้าฯเผย 1 ปีฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ สร้างมูลค่าการค้ารวมกว่า 323 ล้านบาท

หอการค้าไทย เผยหลังฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ 1 ปีมีมูลค่าการค้าร่วมกันกว่า 323 ล้านบาท ล่าสุด จัดสัมมนา “เปิดโอกาสการค้าซาอุดีอาระเบีย กับหอการค้าไทย Trade-Travel-Investment” เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจไทยไปลงทุนในซาอุฯ

วันนี้ (10 เม.ย.66) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จํากัด (มหาชน) จัดงานสัมมนา “เปิดโอกาสการค้าซาอุดีอาระเบีย กับหอการค้าไทย Trade – Travel – Investment” เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อเสนอแนะ และโอกาสของภาคเอกชนไทยในการดำเนินความสัมพันธ์เชิงรุกกับซาอุดีอาระเบียในมิติทางด้านการค้า การท่องเที่ยว และการลงทุน โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 300 คน

 

 

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศซาอุดีอาระเบียในช่วงต้นปี 2565 ถือเป็นการเปิดศักราชหน้าใหม่ของสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะภาคการค้าระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวม 323,113.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.64% ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 17 ในตลาดโลก และเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

 

 

ส่วนด้านการท่องเที่ยว ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย จำนวน 96,389 คน สร้างรายได้ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวซาอุฯ ถึง 150,000 คน สร้างรายรวมกว่า 12,000 ล้านบาท รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินจาก 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างก้าวกระโดดหลังจากนี้ต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

นายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด กล่าวในตอนหนึ่งของปาฐกถาพิเศษว่า “ซาอุดีอาระเบียสนใจที่จะลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดทำเขตการค้าเสรีของไทยและกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมืออาหรับ (GCC) ซึ่งจะต่อยอดไปสู่ภูมิภาคแอฟริกาได้”

 

 

 

 

 

 

ด้านนายอับดุรเราะห์มาน อับดุลอะซีซ อัลซุฮัยบานี (H.E. Mr. Abdulrahman Abdulaziz Alsuhaibani) เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของไทยและซาอุดีอาระเบียมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรสมัยใหม่ ด้านการค้า และด้านการลงทุน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบีย ได้มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศให้เกิดความหลากหลายทั้งในด้านสุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว พร้อมเมกะโปรเจค เมืองนีออม ภายใต้ชื่อ “The Line” ซึ่งจะช่วยให้การเกิดลงทุนมาหศาลและสนับสนุนเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียมากขึ้น

 

 

 

โดยสิ่งที่น่าจับตามอง คือ ซาอุดีอาระเบีย มีความชัดเจนในการสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ผ่าน VISION 2030 และกำหนด 6 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ 1.เพิ่มสัดส่วนธุรกิจภาคเอกชน จาก 40% เป็น 60% ของ GDP 2. เพิ่มการส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมันจาก 16% เป็น 50 ของ GDP ที่ไม่รวมน้ำมัน 3. เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย ด้านวัฒนธรรมและบันเทิงจาก 2.9% เป็น 6% 4. เพิ่ม FDI ให้เทียบเท่าระดับนานาชาติจาก 3.8% เป็น 5.7% 5. เพิ่มขีดความสามารถในการรับผู้แสวงบุญจาก 8 ล้านคน เป็น 30 ล้านคน และ 6. สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

ทั้งหมดนี้จะเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจไทยที่จะได้แสวงหาโอกาสในการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ซึ่งหอการค้าไทยจะได้ร่วมกับรัฐบาลเชื่อมโยงโอกาสดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง

สำหรับไฮไลท์ในการสัมมนาครั้งนี้ คือ การบรรยายถึงโอกาสของธุรกิจไทยในการลงทุนในซาอุดีอาระเบียจาก นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), และโอกาสด้านการส่งเสริมท่องเที่ยวจาก นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนมุมมองของนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจกับซาอุดีอาระเบีย เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทย รวมถึง ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) บรรยายในหัวข้อบทบาทของ EXIM Bank ในการสนับสนุนผู้ประกอบการขยายตลาดไปยังซาอุดีอาระเบีย

 

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า สำหรับเป้าหมายตลาดซาอุฯ ปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยว ประมาณ 150,000 คน แต่คาดหวังว่ามีโอกาสจะถึง 200,000 คน เพื่อให้การท่องเที่ยวสามารถขับเคลื่อนไปได้ อย่างไรก็ตาม ททท.อยู่ระหว่างการพิจารณาจะเปิดสำนักงาน ททท. แห่งใหม่ ที่ซาอุฯ

 

 

 

 

ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทยังมีแผนร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดงานแสดงสินค้า Thailand Mega Fair & Festival 2023 – The Kingdom of Saudi Arabia เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และศักยภาพของประเทศไทยสู่สายตาชาวซาอุดิอาระเบีย โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน การหาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า, ขยายดิสทริบิวเตอร์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปยังประเทศซาอุฯ รองรับความต้องการที่หลากหลายในตลาดซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลาง โดยกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 –16 ธันวาคม 2023 ณ กรุงริยาด และถือเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียอีกด้วย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี
คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย
"ดร.ปณิธาน" ยกพัทยาโมเดล แก้ปัญหา "ชาวอิสราเอล" ล้นเมืองปาย แนะหน่วยมั่นคงบังคับใช้กม.ใกล้ชิด
"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น