วันที่ 13 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีตัวแทนเกษตรกร อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 ราย ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ปะคำ เอาผิด เจ๊แมว ชาว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นนายหน้าติดต่อซื้อขายรวบรวมผลผลิตข้าวโพดอาหารสัตว์ ส่งให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง แต่พอรวบรวมผลผลิตส่งบริษัทแล้วกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินให้เกษตรกร รวมเป็นเงินที่ถูกโกงเกือบ 3 ล้านบาท จึงแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถาม นางวราทิพย์ เมินกระโทก หรือเจ๊แมว อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนได้ทำธุรกิจร่วมกันกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ทั้งใน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกลุ่มเครือข่ายกว่า 100 ราย และให้เกษตรกรเลือกที่จะลงทุนส่งเสริม โดยที่จะเอาเมล็ดพันธุ์มาเพาะปลูก หรือไม่เอาเมล็ดพันธุ์ก็ได้โดยไม่มีข้อผูกมัดเวลาขายสินค้า แล้วแต่เกษตรกรจะเลือก หากเอาเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและยา ในการเพาะปลูก หากเก็บเกี่ยวผลผลิต ตนจะต้องหักเงินค่าเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยและยา ตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ เพราะถือว่าเป็นคนลงทุน เหลือเท่าไรก็จ่ายตามจริงให้กับเกษตรกร ซึ่งก็วินๆทั้งสองฝ่าย โดยจะใช้เวลาเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 98-110 วัน โดยมีการประกันราคาอยู่ที่ 8 บาท ความชื้นไม่เกิน 14.5 โดยจะมีการรับซื้อผลผลิตคืนตามสัญญาและจ่ายเงินสดทันที ซึ่งไม่ตรงกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่าตนติดหนี้และไม่จ่ายเงินให้กับเกษตรกร โดยเรื่องทั้งหมดเกิดจากมีการใส่ร้ายป้ายสี จากกลุ่มลงทุนคู่แข่ง เพราะตนเองให้ราคาที่ดีกว่า จนเกิดความไม่พอใจ จึงพยายามยั่วยุให้เกษตรกรเข้าใจผิด เพราะตนเองต้องการให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง 1 ปี สามารถเพาะปลูกได้ 3-4 รอบ ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ หลังจากนี้ได้มีการแต่งตั้งให้ทนายความดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด กับกลุ่มคนที่พูดเกินความจริง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ในพื้นที่บ้านสมบัติพัฒนา ม.13 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอีก 1 พื้นที่ ในการเพาะปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ และได้สอบถาม นายรัชชสิทธิ์ นิโยนรัมย์ อายุ 50 ปี เกษตรกร เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดอาหารสัตว์ทั้งใน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา มีทั้งสิ้น 43 ราย เนื้อที่ 448 ไร่ ซึ่งกำลังเริ่มเก็บเกี่ยว โดยเจ๊แมว ก็จ่ายเงินสดก่อนนำสินค้าออกจากไร่ทุกครั้งไม่มีปัญหา และก็มีการรับประกันความชื้น อยู่ที่ 8 บาท หากเปอร์เซ็นต์ความชื้นสูงก็ลดลงไป ซึ่งทางเกษตรกรและลูกไร่ก็มีความเชื่อมั่นในตัวโดยเจ๊แมว ที่ทำธุรกิจกันมา ว่ามีการจ่ายจริง และลูกไร่ก่อนหน้านี้ก็ได้รับเงินทุกครั้งไม่มีปัญหาแต่อย่างใด.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา