“ธนกร” เผย บิ๊กเซอร์ไพรส์ “บิ๊กตู่” เตรียมร่วมเวทีดีเบต โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

"ธนกร" เผย บิ๊กเซอร์ไพรส์ "บิ๊กตู่" เตรียมร่วมเวทีดีเบต โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

วันที่ 11 เม.ย.66.-ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ และหัวหน้าคณะทำงานจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดคิวลงพื้นที่หาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกฯพรรครทสช. ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานทั้ง 2 คณะ จะมีการประชุมกันในวันเดียวกันนี้ โดยตนเองได้ลาราชการครึ่งวัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปในวันเดียวกันนี้ แต่ทางพรรคจะจัดให้พล.อ.ประยุทธ์ ไปทุกพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งผู้สมัครส.ส. ในพื้นที่ได้เสนอข้อมูลมาแล้วแต่ด้วยเวลาที่จำกัด พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ควรจะลงในพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายหลักของพรรค ทั้งในพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ภาคใต้ ส่วนภาคอีสานและภาคเหนือจะลงพื้นที่ไปบางจังหวัด ยอมรับว่าหลังจากที่มีการจับเบอร์ผู้สมัครส.ส. กระแสความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเรา มีโพลของพรรคที่ทำ ดังนั้นจะต้องลงพื้นที่เพื่อย้ำด้วยในเรื่องดังกล่าวด้วย

สื่อถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะไปร่วมเวทีดีเบต เวทีไหนหรือไม่ หรือมีการมอบหมายบุคคลอื่น นายธนากร กล่าวว่า ก็ไม่แน่ เพราะในช่วงโค้งสุดท้าย อาจจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ก็ได้ ซึ่งในวันเดียวกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ได้ทยอยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายสำนัก ด้วยเวลาที่มีจำกัดและพยายามจะให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อ ฉะนั้นเชื่อว่าในโค้งสุดท้ายอาจจะมีเซอร์ไพรส์ และวันนี้จะเห็นได้ว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายกันเยอะ ในเรื่องการใช้เงินต่างๆ

“เพิ่งได้ยินแกนนำของพรรคเพื่อไทยที่บอกว่าที่บอกว่าเรื่องเงินดิจิทัล ถ้าใครได้ไปแล้วไม่สามารถไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)ได้ ตรงนี้ผมคิดว่ามันต้องคิดหลายอย่าง ซึ่งในอดีต ที่ผ่านมาท่านโจมตีพล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด ว่าเก่งแต่แจกเงิน ทุกเช้า กลางวันเย็น ก่อนนอน แต่วันนี้ท่านมาดำเนินการซึ่งมากกว่า ใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตมีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้การใช้นโยบายสุดโต่งในการหาเสียงแบบนี้ ผมเชื่อว่าวันนี้ประชาชนเป็นคนฉลาด ท่านจะทราบดีว่านโยบายตรงไหนหาเสียงแล้วทำไม่ได้หรือทำได้หรือทำได้ วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างคิดว่าประชาชนน่าจะกังวล และเชื่อว่าที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กำหนดมา 3 ข้อเรื่องที่มาของเงิน ประโยชน์และความคุ้มค่า แต่ข้อที่ 3 เงินดิจิทัล ต้องระมัดระวัง ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบายตรงนี้คิดว่าตอบสังคมไม่ได้ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องวินัยการเงินการคลัง และ นักการธนาคารได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ดังนั้นเชื่อว่าดังนั้นเชื่อว่าเป็นนโยบายสุดโต่งหาเสียงมากเกินไป และเรามีประเทศตัวอย่างที่ล่มสลาย อย่างประเทศเวเนซุเอลา ประเทศประชานิยมสุดโต่งประเทศก็พังไปแล้ว ฉะนั้นวันนี้อยากให้คนไทยได้ตั้งสติได้ตั้งสติและทบทวนในสิ่งที่พรรค พรรคการเมืองบางพรรคเสนอนโยบาย แต่นโยบายของพรรครทสช. ทำได้จริงและทำสำเร็จไปแล้วหลายนโยบาย และคิดว่าประชาชน เข้าใจในสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ทำมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยออกนโยบายมา มีสิ่งที่ต้องตั้งข้อสังเกตเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 4 กิโลเมตรหรือการใช้ระบบ ผมฟังแล้วยังสับสน มาแล้วขณะที่โครงการของรัฐบาลใช้สำเร็จมาแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจจริง แต่ นโยบายของท่านในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาทแจกทุกคน หมายความว่าเจ้าสัวซีพี เบียร์ช้างก็ได้ก็ได้ด้วย มันเป็นตรรกะที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชนและประเทศ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทบทวนนโยบายเหล่านี้”

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ พรรครทสช. จะมีนโยบายอะไรใหม่ใหม่ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง นายธนากร กล่าวว่า เรื่องนโยบายไม่ควรจะมีเยอะ ซึ่งเราต้องดูแลประชาชนทุกสาขาอาชีพ สิ่งที่เราต่างจากพรรคอื่นคือพรรครทสช. บอกวิธีการหาเงินเข้าประเทศอย่างเงิน 4 ล้านล้านบาทจะหาเงินมาอย่างไร รวมถึง นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา 27.5 ล้านคน เงินจะเข้ามา 2.3 ล้านล้านบาท นี่คือการหาเงินจากอีอีซี

ขณะที่การจะไปตรวจสอบหุ้นดิจิทัลของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนเห็นคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เยอะ ซึ่งมีความผิดปกติเยอะเชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ การสื่อสารไปทุกพื้นที่ ประชาชนฟังข่าวแล้วทบทวนจะเข้าใจว่าเป็นไปได้ยาก ไม่ตอบโจทย์และไม่สมเหตุสมผลกับนโยบายนี้ แต่นโนบายพรรครทสช. ตอบโจทย์และสมเหตุสมผล เพราะทำสำเร็จแล้ว ส่วนรายได้ 4 ล้านล้านบาทที่จะหาเงินเข้าประเทศนั้น จะใช้ช่วงระยะเวลา 4 ปี

นายธนกร กล่าวอีกว่า การที่บอกว่าจะเอารายได้จากภาษี ที่เพิ่มขึ้น 260,000 บาท มัน เป็นการคาดการณ์หากไม่มีรายได้ประเทศเจ๋งแน่นอน ส่วนนโยบายดังกล่าวสะเทือนพรรครทสช.หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า สิ่งที่กังวลที่สุดในวันนี้ พูดง่ายๆ คนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถ้ารับเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะไม่ได้รับเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเลย ในขณะที่เราดูแลมา7-8 ปีแล้ว ปีหนึ่งรวมแล้ว ย้ำว่าสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ทำไมมีความมั่นคงและยังยืนอย่างเดียวแต่สิ่งที่ท่านคิดหาเสียงอย่างเดียวฝากคนไทยให้ได้คิดด้วย และเชื่อว่าเงินดิจิทัลจะไม่สะเทือนกับพรรครทสช.แต่กลับกลาย เป็นทำให้ประชาชนกังวลว่าจะไม่ได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปตัดเงิน อาสาสมัคประจำหมู่บ้าน (อสม.)และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุหรือ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น