“จุรินทร์” มองนโยบาย แจกเงินดิจิทัล “เพื่อไทย” สุ่มเสี่ยง พาประเทศไปตายเอาดาบหน้า

“จุรินทร์” มองนโยบาย แจกเงินดิจิทัล “เพื่อไทย” สุ่มเสี่ยง พาประเทศไปตายเอาดาบหน้า

11 เม.ย.66.นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังมีพลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์อีกจำนวนมาก ที่จะกลับมาช่วยเหลือพรรคในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ ล่าสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีหลายหมื่นคนมาร่วมฟังปราศรัยและสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ทำให้เห็นว่าพลังเหล่านี้ คือเสียงตอบรับที่ดีขึ้น เห็นภาพเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการจับขั้วหลังการเลือกตั้งที่อาจจะไม่ใช่ข้้วเดิมนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตั้ง ซึ่งตนเองยืนยันมาโดยตลอดและจะยึดหลักการนี้ จับขั้วไหนหรือจับมือกับใครจะต้องอยู่หลังการเลือกตั้งทั้งหมด ใครที่จับมือกันก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปตามนั้น ถ้าจับขั้วแล้วจัดตั้งรัฐบาลได้เลย ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการเลือกตั้ง ดังนั้นจะเกิดประชาธิปไตยได้อย่างไร ตามระบอบประชาธิปไตย จะต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งก่อน และประชาชนจะเป็นคนแรกที่จะให้คำตอบว่า พรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ ประชาชนจะเป็นคำตอบคนแรก ส่วนพรรคใดที่จับมือกันก่อน ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าต้องเคารพเสียงประชาชนก่อน ยืนยันหลักคิดไม่เคยเปลี่ยน มีนโยบายจุดยืนอุดมการที่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ได้ ที่สำคัญจะไม่พาประเทศหลงทาง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงินเศรษฐกิจสังคม

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่าจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลนั้น นายจุรินทร์ ยืนยัน ไม่ก้าวก่ายแต่ละพรรค พรรคมีจุดยืนที่ชัดเจนและ ไม่เคยวอกแวก พร้อมย้ำว่าต้องให้ประชาชนตัดสินใจก่อน

นายจุรินทร์ ย้ำว่า พรรคมีนโยบายบนพื้นฐานความรับผิดชอบ และแจกแจงที่มารายได้และการใช้เงิน ดังนั้นจะทำให้ประเทศไปข้างหน้าได้แน่นอน ดังนั้น จึงไม่ขอวิจารณ์ นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย แต่มองว่า นโยบายของพรรคการเมือง จะต้องไม่พาประเทศไปตายเอาดาบหน้า ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน ที่มาที่ไปของรายได้ รวมถึงไม่เป็นนโยบายรายวัน ซึ่งจะทำให้ ในอนาคตประเทศเกิดความสุ่มเสี่ยง หรือพาประเทศไปตายเอาดาบหน้าหรือไม่ ดังนั้นจึงคิดว่า ไม่ควรจะให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายขึ้นมาอีกครั้ง เพราะจะถือเป็นการทำลายประเทศ ทำลายประชาธิปไตยในประเทศไทย ซึ่งจะต้องเป็นสิ่งที่ต้องตระหนัก ต้องรู้เท่าทันรวมถึงเอาประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตร.ตม." ขยายผลรวบ 2 ผู้ต้องหา เอี่ยวคดีอุ้มคนจีนรีดค่าไถ่ 12 ล้าน
เปิดสาเหตุพรรคปชน.ส่งผู้สมัคร นายก อบจ.อีก 12 จังหวัด
ระทึก เปิดภาพนาที "ช้างป่า" บุกรื้อค้น ทำลายร้านขายของชำ พังเสียหาย
สำนึกกี่โมง? “พระปีนเสา” ปลุก FC ฮือบุกทำเนียบ-ท้าตี “หลวงพี่น้ำฝน”
ข่าวดี! “กลุ่มเปราะบาง” ดู “หมูเด้ง” เข้าสวนสัตว์ทั่วไทยฟรี 3 ปี
"ธรรมนัส" ยันลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปัดช่วย "ผู้สมัคร" หาเสียงชิ้งเก้าอี้ นายก อบจ.
หิมะขาวตกห่มหิน ราว‘เห็ดหิมะ’ ในจีน
เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด
“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน
ตำรวจเชิญ “ปานเทพ” ให้ข้อมูลเพิ่ม ฐานะพยาน “คดีทนายตั้ม” รู้เบาะแสแบ่งเงิน 39 ล้าน ให้ใครบ้าง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น