นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการ เตรียมเคลื่อนไหวของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ว่าในสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดวิกฤตโควิด-19 มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น และประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน ก็ขอให้นายณัฐวุฒิใช้สมองคิดว่าการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และบ้านเมืองมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่จะเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัวจนหน้ามืดตามัวคิดอะไรไม่เป็น
ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวต่างๆที่ผ่านมาก็เห็นแล้วนายณัฐวุฒิได้มีการปลุกระดมยุยงปลุกปั่นเรื่อยมา เพื่อให้กลุ่มต่างๆได้ออกมาเคลื่อนไหว อีกทั้งการออกมาชุมนุมก็ไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย ผู้ชุมนุมมีการสร้างความรุนแรง ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเผาทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งหากการเคลื่อนไหวของนายณัฐวุฒิครั้งนี้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก ตนเองถามว่านายณัฐวุฒิจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาสั่งเผาบ้านเผาเมืองก็ไม่มีความรับผิดแต่อย่างใด
นายเสกสกล ยังระบุว่า พฤติกรรมของนายณัฐวุฒิที่เคยสั่งเผาบ้านเมืองข้ามศพพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงจนได้รับตำแหน่งใหญ่โต เป็นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 กระทรวงและยังเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทย และมาถึงขณะนี้นายณัฐวุฒิยังไม่หยุดเคลื่อนไหว ยังคิดที่จะแสวงหาอำนาจโดยการออกมาเป็นแกนนำหลอกลวงพี่น้องมวลชนออกมาเผาบ้านเผาเมืองรอบที่สองอีก ด้วยวิธีเดิมๆยุยงปลุกปั่นจนเกิดความวุ่นวายรุนแรงในบ้านเมืองขณะนี้ เป็นพฤติกรรมเหมือนปี53 ไม่มีอะแตกต่างกันเลย ซึ่งยังไม่เข็ดหลาบอีกทั้งที่นายณัฐวุฒิเองก็ยังมีคดีก่อการร้ายอยู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ผลพวงมาจากการสั่งเผาบ้านเผาเมืองในปี53 แต่นายณัฐวุฒิยังไม่มีจิตสำนึกห่วงใยบ้านเมือง ไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และทำหน้าที่ลูกน้องที่ดี รีบรับอาสาทำงานภายใต้คำสั่งของนายใหญ่ทางไกล เพื่อหวังรับรางวัลโบนัสเหมือนอดีต ในการกลับมามีอำนาจ พร้อมทั้งจะได้ช่วยนายใหญ่ให้พ้นคดีพ้นมลทินจากคดีทุจริตโกงบ้านโกงเมือง และจะได้หวังนำนายใหญ่กลับประเทศไทยนี่คือแนวทางที่คนไทยส่วนใหญ่รู้ทางนายณัฐวุฒิหมดแล้ว
“พฤติกรรมเยี่ยงนี้ตนเองจะไม่ปล่อยให้ นายณัฐวุฒิ ได้กลับมาสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศประชาชน ภายใต้คำสั่งของนายใหญ่ที่เป็นนายทุนใหญ่ให้กับ นายณัฐวุฒิ ในการเคลื่อนไหวอีกต่อไป โดยในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ตนเองจะเดินทางไปยังกองปราบปรามฯ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายณัฐวุฒิ ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 84 ,85,86,87”
อีกทั้งยังเป็นการฝ่าฝืน พรบ.ฉุกเฉิน และ พรบ.โรคติดต่อ ที่ห้ามการชุมุนม รวมถึงจะแจ้งความยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ ปปง. เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ นายณัฐวุฒิ ด้วยว่าได้รับเงินมาเคลื่อนไหวจากคนแดนไกลหรือจากพรรคการเมืองไหน เหมือนเช่นในอดีตหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ตนจะดำเนินการเพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่ให้นายณัฐวุฒิได้คิดร้ายต่อประเทศชาติและประชาชนเผาบ้านเผาเมืองในรอบที่สองอีกต่อไป
“ขอฝากพี่น้องประชาชน คนคิดที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนและหวังเอาใจนายใหญ่ให้กลับมามีอำนาจ โดนเอาประเทศประชาชนเป็นเดิมพัน บ้านเมืองจะวิบัติฉิบหายเช่นไรไม่สนใจ คนประเภทนี้จะปล่อยให้มีที่ยืนไม่ได้ต้องดำเนินการตามกฎหมายเอาเข้าคุกเข้าตารางให้หมดสิ้นไป”