“อีสท์ วอเตอร์” ย้ำเจตนารมย์หนุนพัฒนา EEC ส่งคืนท่อน้ำธนารักษ์เว้นสิทธิที่ดินทับซ้อน

"อีสท์ วอเตอร์" ย้ำเจตนารมย์หนุนพัฒนา EEC ส่งคืนท่อน้ำธนารักษ์เว้นสิทธิที่ดินทับซ้อน

ตามที่กรมธนารักษ์ มีคำสั่งให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ต้องส่งมอบทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง ระยะที่ 2 ให้แก่กรมธนารักษ์ โดยในวันที่ 11 เมษายน 2566 นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้มีอำนาจดำเนินการแทนกระทรวงการคลัง และคณะได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ส่งมอบทรัพย์สินร่วมกันกับอีสท์ วอเตอร์ และผู้ประกอบการรายใหม่

อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัท ส่งมอบทรัพย์สิน โดยยังคงมีสิทธิในทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ทับซ้อน ยินยอมถูกบังคับตามคำสั่ง แต่ขอให้การเปลี่ยนผ่านทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งขอบเขตโครงการของกรมธนารักษ์ การสูบจ่ายน้ำซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาพรวมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซีเป็นหลัก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 กรมธนารักษ์ ได้จัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย เกี่ยวกับการส่งมอบทรัพย์สิน และตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยกรมธนารักษ์ได้ยืนยันให้มีการส่งมอบทรัพย์สิน ส่วนอีสท์ วอเตอร์ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำเป็นสำคัญ เนื่องจากมีทรัพย์สินของ อีสท์ วอเตอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมโยงท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกให้เป็น Water Grid ตามมติคณะรัฐมนตรี เช่น มิเตอร์ ปั๊มน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบ ระบบ SCADA ที่ใช้ควบคุมแรงดันน้ำจากระยะไกล ซึ่งการส่งมอบทรัพย์สินโดยไม่ได้มีการตกลงแผนปฏิบัติงานร่วมกันจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ จึงได้มีการลงนามบันทึกการรับมอบ – ส่งมอบทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล – หนองค้อและโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ – แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ร่วมกันระหว่าง นายสมมาตร มณีหยัน รองอธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้มีอำนาจดำเนินการแทนกระทรวงการคลัง และนายบดินทร์ อุดล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ ผู้รับมอบอำนาจจากอีสท์ วอเตอร์

 

โดยมีสาระสำคัญด้วยว่า อีสท์ วอเตอร์ ยังมีสิทธิในพื้นที่ทับซ้อน และทรัพย์สินอื่นตามที่ระบุในรายการทรัพย์สินได้ต่อไป จนกว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่างกรมธนารักษ์ และอีสท์ วอเตอร์ ในภายหลัง เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ

ขณะที่ผู้บริหารอีสท์ วอเตอร์ ระบุเพิ่มเติมว่ามีทางบริษัทมีเจตนารมณ์และดำเนินการ โดยตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้น้ำ การบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และความเชื่อมั่นของนักลงทุนในพื้นที่อีอีซี เพราะการบริหารจัดการท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกที่เป็นกระดูกสันหลังด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาการดำเนินการอย่างรอบคอบ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่มีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้น ดังนั้นในส่วนทรัพย์สินที่อีสท์ วอเตอร์ ส่งมอบให้ตามคำสั่งของกรมธนารักษ์ จึงเป็นหน้าที่ของกรมธนารักษ์และผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะดำเนินการโดยตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้น้ำและถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 ยกระดับ "นวัตกรรมชีวภาพ" ปั้นธุรกิจยั่งยืนรับโลกคาร์บอนต่ำ
หนุ่มไอซ์แลนด์ ขี่จยย.เฉี่ยวชนหนุ่มอาหรับ วางมวยต่อยกลางถนน ตำรวจ ชาวบ้าน ห้ามกันอลหม่าน
อบจ.กระบี่ร่วมรับร่าง–สดุดีวีรชนทหารกล้า “จ.ส.อ.ทวีรัตน์ รัตนบุรี” พลีชีพปกป้องอธิปไตยชาติ
ไลออนส์มิตรภาพโคราช จัดคอนเสิร์ตการกุศลครบรอบ 30 ปี หาทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ให้กับศูนย์มะเร็ง รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา
"สื่อกัมพูชา" ตีข่าว "พระเขมร" โผล่ชุมนุมเรียกร้อง "สงฆ์ไทย" แจ้งรัฐบาล-กองทัพหยุดยิง ตามข้อตกลงสันติภาพ
"นันทิวัฒน์" ซัดเจ็บพรรคส้มจัดอีเว้นต์ ขอกำลังใจเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ทั้ง ๆ โง่เองซ้ำซาก ฟันธงถ้าพี่ทึ่ม เป็นนายกฯคงแพ้เขมรยับเยิน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​