ดอกไม้ในแคลิฟอร์เนียบานสะพรั่ง หลังผ่านพ้นฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยพายุฝน ทางการสั่งปิดทางเดินเข้าถึงดอกไม้เพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวเหยียบทำลาย
สำนักข่าวเอเอฟพีเผยแพร่ภาพดอกให้หลากหลายสีบานสะพรั่งปกคลุมไหล่เขาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีความยาวสุดลูกหูลูกตา ซึ่งเป็นภาพสวยงามที่หาดูได้ยาก หลังจากเผชิญกับฤดูหนาวที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง จนเกิดน้ำท่วมหลายครั้งในฤดูหนาวที่ผ่านมา
พื้นที่ชนบทอันกว้างใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือนที่ประสบความแห้งแล้ง จนต้นไม้เหี่ยวเฉา ได้เปลี่ยนเป็นลานดอกไม้หลากสีขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย ดอกป๊อปปี้หลายสายพันธุ์ และสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ซึ่งนักท่องเที่ยวกล่าวว่า มันสวยเหมือนภาพวาด
ทั้งนี้แคลิฟอร์เนีย รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ ต้องเจอกับพายุนับไม่ถ้วนเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งทำให้เกิดฝนตกมากเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่เผชิญภาวะฝนแล้งมาหลายปี แต่เมื่อฤดูหนาวที่มีน้ำท่วมเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิ ธรรมชาติก็มอบความสวยงานอันน่าทึ่งนี้
อย่างไรก็ดีเพื่อปกป้องพวกมันจากการถูกทำลายโดยการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่เมืองทะเลสาบเอลซินอร์ ได้ปิดเส้นทางเดินป่าที่เข้าถึงดอกไม้ โดยมีรถลาดตระเวนประจำการอยู่ที่นั่นเพื่อป้องกันการบุกรุก โดยความพยายามเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยง เหตุการณ์ที่ดอกป๊อปปี้ถูกเหยียบในปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่ดอกไม้บานสะพรั่งครั้งล่าสุด ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคน อีกทั้งสร้างปัญหาการจราจรติดขัด จนทำให้ภูมิภาคนี้เป็นอัมพาต
นอกจากนี้ยังมีการเปิดบริการซิปไลน์ ให้นักท่องเที่ยวโหนตัวบนลวดสลิงผ่านทุ่งดอกไม้ เพื่อชมความสวยงามและดอกไม้ไม่ถูกทำลาย ซึ่งผู้ใช้บริการชื่นชอบและเห็นว่าเป็นทางออกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการชมดอกไม้
อย่างไรก็ดีนักอนุรักษ์จากองค์กรพืชในธรรมชาติในแคลิฟอร์เนียตอนใต้กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยในการปิดทางเดิน เนื่องจากมันเป็นเวลาที่คนจะสามารถเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ซึ่งจะเพิ่มความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม พร้อมเสนอว่า ควรพัฒนาคนให้เคารพกฎระเบียบในการเดินป่า ดีกว่าที่จะปิดกั้น