นึกถึงคำ “ป๋าเปลว” ทันที “เศรษฐา” ย่ามใจโวแจก 1 หมื่นคิดดีแล้ว ปรามาส “บิ๊กตู่” ทิ้งตลาดค้าตปท.เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

นึกถึงคำ "ป๋าเปลว" ทันที "เศรษฐา" ย่ามใจโวแจก 1 หมื่นคิดดีแล้ว ปรามาส "บิ๊กตู่" ทิ้งตลาดค้าตปท.เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้

วันที่ 15 เม.ย. 66 ที่จังหวัดราชบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่อำเภอบ้านโป่งว่า ช่วงสงกรานต์อยากเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนทุกข์ทรมาน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมามีเวลาถึง 8 ปี แต่กลับทำให้เราต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบปัจจุบันที่รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม pm2.5 และประชาชนไม่มีสิทธิเลือกทำอาชีพที่ตนอยากทำ ดังนั้นพรรคเพื่อไทย เราสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพ การเป็นทหารก็เช่นกัน เราต้องการให้พี่น้องมีสิทธิเลือก และสมัครใจเกณฑ์ทหาร ต่อมาคือเรื่องเศรษฐกิจ GDP ของเราเติบโตเพียง 2.3% ต่ำกว่าค่า pm2.5 เสียอีก นายกฯคนปัจจุบัน เกือบเรียกได้เต็มปากว่าไม่เคยเดินทางไปเปิดตลาดสินค้าให้คนไทยเลย ไม่รู้ว่าเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือไม่สนใจเลย แต่ถ้าได้นายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าคนใด เราตกลงกันแล้วว่าจะออกไปเปิดตลาดสินค้าให้พี่น้องประชาชน

 

นายเศรษฐา กล่าวถึงนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีคนกล่าวถึงอย่างมากนั้น โดยยืนยันที่จะเติมเงินใส่กระเป๋าให้พี่น้องประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ในระยะทาง 4 กิโลรอบที่อยู่ตามบัตรประชาชน ทั้งนี้อย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายนี้ อย่าให้ใครมาบอกว่านโยบายนี้เราไม่ดี เพราะเราคิดทุกอย่างมาอย่างรอบคอบแล้วทั้งหมด ซึ่งถ้าเปรียบกับนโยบายบางพรรคที่จ่ายให้ท่าน 500-700 บาทต่อเดือน แบบนั้นจะเอาไปทำอะไรได้ เหมือนการหยอดน้ำข้าวต้มไปวันๆ แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้ เราให้เอาพี่น้องเอาไปตั้งตัวได้ และหากครอบครัวใดที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน เราเติมให้จนถึง ที่สำคัญเรามีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเราจะต่อยอดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่นี้ บัตรประชาชนใบเดียวก็รักษาได้เลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งเมื่อย้อนดูบทความของ “เปลว สีเงิน” ในเว็บไซต์ไทยโพสต์ ที่เคยเขียนไว้เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 66 โดยระบุข้อความไว้ว่า
“เศรษฐา ทวีสิน”

๑ ใน ๓ “ว่าที่นายกฯ” พรรคเพื่อไทย ดูมีความมั่นใจมาก ถึงขั้นลั่นปาก ว่า

“ต้องนายกฯ อย่างเดียวเท่านั้น ตำแหน่งอื่นไม่สน”!

อืมมม น่าเลื่อมใส…..

ฉะนั้น วันนี้ ลองฟังวิสัยทัศน์เขาซักหน่อยปะไร ว่าจะเลิศเลอเปอร์เฟกต์ขนาดไหน?

ผมฟังจากคลิปน่ะ พูดเท่มาก อดใจไม่ไหว จึงถอดความมาให้อ่านกัน ประมาณนี้

“Geopolitics หรือภูมิรัฐศาสตร์ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าในช่วง ๘ ปีที่ผ่านมานี้ เราไม่ได้พัฒนาไปเลย

เราไม่ได้สู้กับตัวเราเอง เราไม่ได้สู้

เรากำลังสู้กับประเทศที่เขามีผู้นำ ซึ่งสามารถออกไปค้าขายเองได้ มีความถ่อมตนว่า ฉันเป็นประเทศที่เล็ก ต้องออกไปหาเขา ไม่ใช่คอยให้เขามาหาเรา

ถามตรงๆ เอเปกที่ผ่านไปเมื่อ ๓ เดือนมานี้ ภาษานักธุรกิจเขามีว่า…”แล้วไง?”

แล้วขั้นตอนต่อไปเราทำยังไง มีการแถลงมั้ย ว่า ๓ เดือนไปแล้ว เราได้อะไรจากสิ่งที่ผ่านๆ มา

ท่านนายกฯ บินออกนอกประเทศหรือไม่ บินออกไปค้าขายต่อมั้ย บินไปติดตามงานต่อหรือไม่?

ว่า…ที่เขาเข้ามา ๑๐-๒๐ คน ระดับท็อปทั้งนั้น เขาไปทำอะไรต่อหรือไม่…ไปทำให้มันเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อหรือไม่?

ตรงนี้ ผมถือว่าเราเสียโอกาสไปอย่างมาก

ลองคิดดูอย่างนี้แล้วกัน ประเทศไทย นักท่องเที่ยวเข้ามา เยอะแยะไปหมด ทุกคนก็อยากมาเที่ยว ทำไมเขาจึงไม่อยากมาทำงาน?

ผมเชื่อประเทศเรามีข้อดีอยู่เยอะมาก ที่อยากให้นักลงทุนเข้ามาทำงาน เข้ามาอยู่อาศัย เฮลธ์แคร์ของเรา ระบบการแพทย์ของเราดีมาก

ชาวต่างประเทศหลายๆ คน เข้ามาเพื่อที่จะดูแลรักษา มาดูแลสุขภาพ เพราะฉะนั้น ตรงนี้ ผมว่าเป็นจุดสำคัญมากในการดึงดูดให้นักลงทุนอยากที่จะย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำธุรกิจ
เรื่องลงทุนตรงจากต่างประเทศก็ลดน้อยลงไป ทำยังไงจะให้เขาเข้ามาได้

ไม่ใช่คุณส่งทูตพาณิชย์ไป ไม่ใช่คุณส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไป ท่านนายกฯ ต้องไปเอง

ถ้าเรามีผู้นำที่เห็นความสำคัญของ “ภูมิรัฐศาสตร์” แล้วออกไปทำเรื่องพวกนี้ แล้วลองคิดดูซีครับ….

การลงทุนจะเข้ามา เขาจะเอาไปเปิดตลาดใหม่ เอาสินค้าไทยไปขาย ไม่ว่าสินค้าโอท็อป เอสเอ็มอี มันให้โอกาสกับคนไทยทั้งประเทศไปมีที่ยืนบนเวทีโลก

ตรงนี้เป็นที่น่าเสียดายมาก….

๘ ปี ที่ผ่านมา ผมถือว่าเราถดถอย ตรงนี้ เป็นปีที่น่าเสียดายมาก

๘ ปี ที่ผ่านมา เราได้อะไร จริงๆ เราเสียอะไรไปเยอะมาก!

มันถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจ ต้องพูดอย่างเปิดเผยจริงๆ ว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่เราจะมีการเลือกตั้ง

เราอยากจะอยู่กับมันต่อไปอีก ๔ ปี หรือเปล่า?

หรืออยากให้มีการเปลี่ยนแปลงประเทศในเชิงนัยยะจริงๆ?”

นี่คือวิสัยทัศน์ “ตัวตาย-ตัวแทน” อุ๊งอิ๊งในเก้าอี้ว่าที่นายกฯ

ผมฟังประเด็นคนเป็นนายกฯ ต้องบินไปค้าขายเอง ทำให้คิดถึงอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ขึ้นมาติดหมัด

ยิ่งลักษณ์…คุณเศรษฐาคงรู้จักนะ?

เธอเป็นนายกฯ ๒๕ เดือน ทำสถิติโลก บินไปนอกถึง ๔๓ ประเทศ รวม ๕๕ ทริป เพราะบางประเทศ ไปซ้ำๆ ถึง ๒-๓ ครั้ง

ผลาญเงินแผ่นดินไปมากกว่า ๒๓๐ ล้านบาท

แต่…”แหนมซักดุ้น” ก็ยังขายไม่ได้!

ถ้าเศรษฐาเป็นนายกฯ ผมมั่นใจนะ ว่าต้องบินไปขายบ้าน-ขายคอนโดฯ ได้กำไรโตแซงหน้า เอสซี แอสเสท แหงๆ

ที่เศรษฐาใช้คำดูโก้ว่า “ภูมิรัฐศาสตร์” นั้น ผมเคลิ้มนะ

แต่มีอยู่ท่าน เขาไม่เคลิ้ม

นอกจากไม่เคลิ้มแล้ว ยังมี “ปฏิวิสัยทัศน์” ตามโซเชียลอีกตะหาก ผมเก็บมาฟ้อง “เอาหน้า” คุณเศรษฐาด้วยแหละ

เขาว่างี้……..

“คนคนนี้ ยังใช้ความคิดน้อยมาก ไปใช้คำใหญ่อย่าง “ภูมิรัฐศาสตร์” ประกอบการวิพากษ์นายกฯ ตู่ให้ดูขลังว่า

“การที่นายกฯ ไม่ออกหน้าไปเจรจาการค้ากับบ้านเมืองอื่นเขาเลยนั้น แสดงว่านายกฯ ไม่รู้ ไม่ใช้ “ภูมิรัฐศาสตร์” เลย

คำกล่าวอย่างนี้ แสดงว่า….

สมองเขาไม่เข้าใจ ไม่เคยค้นเลยว่า ความหมายแท้จริงของ “ภูมิรัฐศาสตร์” นั้นเป็นอย่างไร

เขาสักแต่เอามาพูด-มาคิด “มั่วไป” ให้ดูโก้เท่านั้นเอง

ที่จริงแล้ว…..

คำนี้เป็นคำที่ใช้วิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ ว่าแผนที่ “ความสัมพันธ์ทางอำนาจ” มันปรากฏอยู่อย่างไร

เช่น “วิกฤตยูเครน” ได้ทำให้เยอรมันที่เดิมที “หลังสงครามโลก” ก็เป็น “รัฐดาวเทียม” ของอเมริกาทั้งการทูตและการทหารมาตลอด

แต่เมื่อวันนี้ อเมริกาจัดการเยอรมันด้วยวิกฤตยูเครน ให้เศรษฐกิจเยอรมันตัดขาดจากก๊าซราคาถูกของรัสเซียแล้ว เยอรมันก็ต้องไปพึ่งพาเอาก๊าซของอเมริกาเป็นลมหายใจเศรษฐกิจของตน

จนวันนี้ เกือบกลายเป็นอาณานิคมของอเมริกาไปแล้ว

นี่ก็เป็น “ความเปลี่ยนแปลง” ทางภูมิรัฐศาสตร์

การที่รัสเซียเลิกคิด-เลิกหวังจะสัมพันธ์กับตะวันตก มุ่งหน้าไปสร้างสัมพันธ์ทางอำนาจและการค้าการลงทุนในเอเชีย กับ จีน อินเดีย

นี่ก็เป็น “ความเปลี่ยนแปลง” ทางภูมิรัฐศาสตร์

ถ้าไทยไม่กลัวเกรงสหรัฐฯ อีกต่อไป ซื้อน้ำมันตรงจากรัสเซียมากลั่น ส่งแจกจ่ายทางท่อไปยัง ลาว, เขมร, เวียดนาม เพื่อกลายเป็นฮับพลังงานของอาเซียน

นี่ก็เป็น “ความเปลี่ยนแปลง” ทางภูมิรัฐศาสตร์

ถ้าไทยไปค้าขายกับ “โลกขั้วใหม่” ทำสัญญา ๕ ปี ขายข้าวชีวภาพให้ประเทศอิหร่านเป็นเงินรูเบิล

ตามปริมาณ, คุณภาพและราคาที่กำหนดแน่นอนตลอดสัญญา

แล้วหันมาทุ่มเทพัฒนาเขตปฏิรูปที่ดินในทุ่งกุลาให้เป็นคลัสเตอร์ข้าวชีวภาพทั้งผืนทุ่งเพื่อส่งอิหร่าน

นี่ก็เป็นความเจริญโดยใช้ “ภูมิรัฐศาสตร์ใหม่” ของโลก

สรุปแล้ว….

ที่หมอนี่พูดมา ไม่เกี่ยวอะไรกับการใช้ภูมิรัฐศาสตร์เลย!

ตัวตนจริงจึงเป็นคน “ไม่มีวิสัยทัศน์” และความสามารถทางความคิดที่จะเป็นผู้นำได้

ถ้าต้องพูด ก็ต้องให้คนอื่น “มาคิดให้ฟัง” แล้วจำมาพูดออกทีวีทุกอาทิตย์ จนดูเหมือนว่ารู้เยอะมากๆ

แบบเดียวกับที่ทักษิณออกทีวีมาตลอดเท่านั้นเอง”

หะแรก ผมเชื่อคุณเศรษฐานะ….

 

เพื่อความชัวร์ เปิดวิกิพีเดียดู อ้าว…ภูมิรัฐศาสตร์ตามมิติเศรษฐา มันมาจากตำราเล่มเดียวกับ “ยิ่งลักษณ์” นี่นา!?

มีอีกประเด็น ขอฟ้อง “เอาหน้า” กับคุณเศรษฐา คือตรงที่บอกว่า “๘ ปี ที่ผ่านมา ทั้งถดถอย ทั้งเสียโอกาส ประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย” นั้น

มีคนไทยระดับบ้านๆ ไม่หล่อเท่าคุณเศรษฐา แต่หนวดพี่เขาเซ็กซี่ยังกะ “คลาร์ก เกเบิล”

“เปิดกะโหลก-โขกกะลา” ผ่าน “ติ๊กต๊อก” ถึงคุณเศรษฐาไว้

ลองฟังดูนะ เพื่อการพัฒนาวิสัยทัศน์ จากฟุ้งสู่ฟ่าม

พี่ “คลาร์ก เกเบิล” อินโทรหัวติ๊กต๊อกอย่างนี้เลย

“อะไรที่มันถดถอย….บอกผมหน่อย!

ผมโง่…สลิ่มโง่ มันถดถอย…โดยการที่ลุงตู่ถดถอย

สร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ถดถอย

ลุงตู่สร้างรถระบบรางคู่ “เด่นชัย- เชียงราย-เชียงของ” ถดถอย

ลุงตู่สร้าง “มอเตอร์เวย์” เชื่อมต่อทุกภูมิภาค ถดถอย

อะไรอีก….

ขุดรถไฟ “สายสีส้ม” ลอดอุโมงค์…อุโมงค์แม่น้ำเจ้าพระยา ขุดอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา อันนี้ ถดถอยใช่ไหม?

ถ้าบอก “ฐานเศรษฐกิจ”…..

“ฐานเศรษฐกิจ” คุณไม่รู้หรือ หลังจากเดือนตุลา.ขึ้นมา ๔ เดือนนี้ จีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น ๔% ฐานเศรษฐกิจนะ ผลักดันหลังจากพัฒนาพวกนี้ ถนนหนทางเยอะแยะมากมาย

พัฒนามาแล้ว ผลักดันให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษ จีดีพี คนที่ลงทุนจริงๆ ประเทศญี่ปุ่น ลงทุนไปกว่า ๒ หมื่นกว่าล้านบาท

ตามมา…ประเทศซาอุฯ วงเงิน ๒ แสนกว่าล้านบาท ผลักดันให้มีคลังน้ำมันอยู่ในประเทศไทย คุณเอาอะไรมาพูด ถดถอยตรงไหน?

ถ้าคุณบอกตรงๆ มาเลย ว่ากิจการของคุณมันจะเจ๊งแล้ว อันนั้น มันเรื่องของคุณ ประเทศนี้ไม่ได้ถดถอย

ประเทศถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจใครจะเจ๊ง ฉิบหายช่างแม่ง ผมไม่สนใจ

ในฐานะประชาชนคนรากหญ้า ผมยังไม่มองแบบคุณ คุณมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าผม คุณอยู่สูงกว่าผม ไม่ว่าจะฐานะการศึกษาอะไรก็แล้วแต่ คุณอยู่สูง

ทำไมความคิดคุณ…คุณเอาปากกามาวงเรื่องอะไรบ้างที่มันถดถอย เสียโอกาสอะไร?

จัดประชุม “เอเปก” ก็จัดออกมาได้ดี ทั่วโลกก็ยอมรับว่าจัดออกมาได้ดีมาก

ถดถอยเรื่องอะไร…เสียโอกาสอะไร?

มีแต่ดึงนักลงทุน ตอนนี้ผลิตรถยนต์ระบบ EV ที่ใช้บนท้องถนน ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ จีดีพี ที่จังหวัดระยอง งบประมาณจะสร้างรถพวกนี้ ๑๕๐,๐๐๐ ต่อคันต่อปี

แล้วปี ๖๖ ต้องการคนงาน ๖๕๐,๐๐๐ คน คุณไม่รู้เรื่อง คุณอยู่ระดับสูงๆ คุณไม่รู้เรื่อง

อาย…ปวดประสาท…เวรกรรม ถ้ามันจะเจ๊ง ก็ให้มันเจ๊งไปเถอะ…ธุรกิจ เอาปากกามาวง ในฐานะสลิ่มคนเดียวที่โง่บริสุทธิ์เลย โง่จริงๆ

ประเทศมันถดถอยตรงไหน…เสียโอกาสตรงไหน ระบุมาให้หน่อย?

————————

เอ้า…เศรษฐา ………

ตอบเค้า ว่าประเทศมันถดถอยตรงไหน?

อย่าต้องให้ “อายหมา” เชียวนะ!

 

ขอบคุณเครดิต ไทยโพสต์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน พิสูจน์-สกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา
“ทักษิณ” เปิดตัว “ยลดา” ส่งสู้ศึกลงนายอบจ.โคราช บอกสนามนี้ไม่มีอะไรหนักใจ
ยาย "เจ้าของรองเท้ามือสอง" แจ้งเอาผิดคนโพสต์ แจกฟรี จนชาวบ้านแห่ขนกลับ ทำเสียหาย 8 หมื่นบาท
สส. ไต้หวันตะลุมบอนอุตลุดเหตุแก้กฎหมาย
เป็นหนึ่งบุกช่วย 2 เด็กหญิงถูกพ่อแม่ทำร้ายทิ้งไว้กับปู่
“บิ๊กเล็ก” ยันทหารไทยไม่อ่อน พร้อมปกป้องอธิปไตย หลังถูกวิจารณ์ปมว้าแดงรุกชายแดน
รัฐมนตรีศุภมาส ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ส่งทีมผู้พันวิทย์ อว. กรมวิทย์ฯ บริการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ พร้อมปล่อยขบวนรถคาราวานลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
โรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตจากยุโรป (EU GMP) ในการผลิตยาชีววัตถุ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย
ตร.ยืนยัน‘โกทร-สจ.โต้ง’ไม่ใช่พ่อลูกกันจริง จนท.กองปราบลงตรวจสอบสำนวนคดีแล้ว
“อนุทิน” สั่งตรวจสอบ ปมค่าตอบแทน ค่าเสบียงสนาม “อส.” ชายแดนภาคใต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น