วันที่14 ส.ค. 2564 สมาคมผู้ค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศเช้าวันนี้ (14 ส.ค.64) โดยเมื่อเวลา 09.20 น. ราคาทองคำเปิดตลาด โดยราคาปรับขยับเพิ่มขึ้น 250 บาท/ต่อบาททองคำ เปลี่ยนแปลงจากการปิดตลาดเมื่อวันที่ 13 ส.ค.64
โดยราคาทองคำล่าสุด ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ มีราคารับซื้อ อยู่ที่บาทละ 27,900.00 บาท ขายออกที่ ราคาบาทละ 28,000.00 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้ออยู่ที่ ราคาบาทละ 27,394.12 บาท และขายออกที่บาทละ 28,500.00 บาท
ราคาทอง Spot พุ่งขึ้นแรงเกือบ 30 ดอลลาร์ เนื่องมาจากได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ร่วงลงเกินคาด ด้านทองคำในประเทศประกาศราคาวันเสาร์พุ่งกลับขึ้นระดับ 28,000 บาท
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนก.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 70.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554 จากระดับ 81.2 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 81.2 โดยการกลับมาแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
รายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในสัปดาห์หน้า(16-20 ส.ค.) มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเข้มข้น ได้แก่ รายงานการประชุมคณะกรรมการ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ครั้งล่าสุดเมื่อวัน 17-28 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ทราบมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดในรายละเอียดมากขึ้น รวมถึง ติดตามการแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในช่วงกลางสัปดาห์
นอกจากนี้ ติดตามการประกาศ ดัชนีภาคการผลิตเขตรัฐนิวยอร์ก ดัชนีภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ดัชนียอดขายปลีก ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม จำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง และจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง ทั้งหมดเป็นรายงานของเดือนก.ค. และ จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น
ประกาศราคาทองในประเทศครั้งเดียววันเสาร์ 14 ส.ค. พุ่งขึ้น 250 บาท ทั้งนี้ตลอดสัปดาห์นี้(9-14 ส.ค.) ราคาทองคำไม่เพิ่มไม่ลดเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งสัปดาห์นี้ราคาทองเคลื่อนไหวผันผวนเป็นอย่างมาก ซึ่งต้นสัปดาห์จนถึงกลางสัปดาห์ราคาปรับขึ้นรวม 600 บาท ส่วนช่วงปลายสัปดาห์ราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้เท่ากัน 600 บาท ในขณะที่เงินบาทสัปดาห์นี้ยังอ่อนค่าบริเวณ 33.01-33.51 บาท ยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อทองคำในประเทศ
ฮั่วเซ่งเฮง วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้นได้ต่อ หลังจากที่สามารถทะลุขึ้นยืนเหนือระดับแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,750 ดอลลาร์ได้ โดยจะมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 1,770 ดอลลาร์ และหากผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,780 ดอลลาร์ ในขณะที่ฝั่งแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 1,740 ดอลลาร์ และ 1,725 ดอลลาร์ ตามลำดับ