วานนี้มีความเคลื่อนไหวสำคัญ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ภายหลัง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยแคนดิเดตนายกฯของคอกแม้ว อุ้มท้องแก่ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว 26 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ท่ามกลางกระแสข่าวว่าคะแนนนิยมของพรรคแม้จะนำแต่เริ่มนิ่ง และกำลังถูกพรรคอันดับรองลงไปที่อยู่ขั้วเดียวกันอย่างพรรคก้าวไกลตามบี้มาอย่างหนัก งานนี้ลูกเจ้าของคอกเลยต้องออกมากำชับผู้สมัครของพรรคด้วยตัวเอง อย่านิ่งนอนใจกับผลโพลที่หลายสำนักเอาใจให้พรรคเพื่อไทยนำโด่ง ” ขณะนี้มีกระแสต่างๆมากมายถาโถมใส่พรรค ล่าสุดมีเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าผู้สมัครส.ส.เขต ไม่ลงพื้นที่หาเสียง ชาวบ้านหาตัวผู้สมัครพรรคไม่เจอ และไม่ค่อยเห็นป้ายหาเสียงของพรรค ตนและพรรคเพื่อไทยไม่นิ่งนอนใจ ส่งทีมงานไปตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ พบว่าส.ส.เขตลงพื้นที่สม่ำเสมอ อาจมีส่วนน้อยลงพื้นที่ไม่มากพอ….ขอให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยหนักแน่น เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์จะเลือกพรรค ไม่เลือกคนไม่ได้ ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ตอบโจทย์ให้ได้ ประชาชนอย่าเพิ่งแผ่ว ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนและพรรค ให้แลนด์สไลด์” ลูกสาวพ่อแม้วออกมาตีปี๊บ พร้อมยืนยันเตรียมคลอดในเดือนนี้ก่อนมาลุยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งแน่นอน
นอกจากประเด็นออกมาไล่กวดผู้สมัครของพรรคอย่าทิ้งพื้นที่แล้ว อุ๊งอิ๊งยังออกมาเคลียร์ประเด็นเรื่องเหยียบเรือสองแคม ประเด็นแทงกั๊ก ไม่ยอมพูดให้ชัดว่าจะจับมือตั้งรัฐบาลกับฝ่ายพรรคการเมืองขั้วเก่าฝ่ายรัฐบาลไหม งานนี้ก็เลยถูกสื่อรุมจี้ถามว่าเหตุผลที่คะแนนของพรรคนิ่งไม่ขยับเพราะความไม่ชัดในเรื่องนี้หรือไม่ และอนาคตหากจำเป็นต้องไปร่วมจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคขั้วรัฐบาลที่เคยสนับสนุนคณะรัฐประหารมาจะเป็นไปได้หรือไม่ แพทองธารกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ” คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เคยพูดว่ารังเกียจรัฐประหาร ขอให้ดูหน้าตนเองไว้ การรัฐประหารที่เกิดขึ้น 2ครั้ง ก็ไม่ได้ชอบ แต่การไม่ตอบตรงๆเพราะให้เกียรติประชาชน ผลเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น แต่คนที่ทำรัฐประหารมา ถ้าถามว่าอยากจับมือด้วยหรือไม่ เชื่อว่าประชาชนย่อมทราบดี แต่ถ้าจะให้ตอบแบบใช้อารมณ์คงไม่ใช่แนว แต่คำตอบน่าจะชัดเจนอยู่แล้ว” อุ๊งอิ๊งระบุ
ความจริงเรื่องการจับขั้วตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง แม้หลายพรรคจะออกตัวว่าไม่มีการพูดคุยไม่มีการจับขั้วตั้งรัฐบาลกันไว้ก่อน เพราะต้องรอฟังฉันทามติจากประชาชนในวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ก่อน แต่ในความจริงทุกพรรคก็มีการคุยมีการต่อสายไว้หมด แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยต่อให้โพลบอกว่านำขาด ต่อให้หลายสำนักออกมาเชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูว่าจะชนะการเลือกตั้งแบบนอนมา แต่เอาจริงๆแกนนำเพื่อไทยก็ไม่มั่นใจหรอกว่าตัวเองจะชนะการเลือกตั้งแบบเลนด์สไลด์ ยิ่งประกาศเป้า 310 คน ยิ่งแล้วใหญ่ ฝันกลางวัน เมากัญชา ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่งั้นไม่มีข่าวว่าเพื่อไทยคอกแม้วต่อสายหาทุกพรรคส่งคนไปคุยกับทุกมุ้งการเมืองเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ในบรรดาทุกพรรคการเมืองตอนนี้คงมีแต่ก้าวไกลเท่านั้นที่เป็น “ของตาย” ของเพื่อไทย เพราะเป็นขั้วล้มเจ้าตรงข้ามทหารเหมือนกัน ข้อจำกัดของก้าวไกลก็อย่างที่ทุกคนรู้จุดยืนล้มเจ้าประกาศกร้าวไม่เอา ม.112 ที่ทำให้ไปต่อยาก แถมยังถูกพรรคอื่นโดดเดี่ยวทางการเมืองหมดเพราะเล่นการเมืองไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แถมเลือกตั้งคราวนี้จากเดิมได้ 72 คน มารอบนี้ได้มากกว่าครึ่งก็เก่งแล้ว
ก้าวไกลไปไหนไม่ได้ต่อให้ด่ากันแหลกแหกอกกันเต็มที่ในช่วงหาเสียงกับเพื่อไทย สุดท้ายถ้าอยากเป็นรัฐบาลก็ต้องมาอยู่ใต้ตีนเพื่อไทยเพราะเป็นพรรค “พระอันดับ” เป็นแค่ตัวประกอบทางการเมือง จากนี้สืบไปภายหน้าก็จะมีแต่สาละวันเตี้ยลง เพราะมุ่งแต่ทำร้ายสถาบันพุ่งเป้าแต่ด้อยค่าทหารกับกองทัพ แต่พรรคตัวเองแทบไม่เคยทำประโชน์โพดผลอะไรให้บ้านเมืองเลย เก่งแต่ปากปลุกคนรุ่นใหม่มอมเมาเยาวชนให้หลงผิด แต่ความดีไม่มีอะไรให้จับต้องแลเห็นได้เลย ประเด็นเรื่องนี้แกนนำก้าวไกลอย่างธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็รู้ดี ว่าก้าวไกลจนปัญญาเป็นรัฐบาล ถ้าไม่ได้เพื่อไทยมาอุ้มสมไม่มีทางที่ก้าวไกลจะได้บริหารประเทศ ” ผม เชื่อว่าถ้าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย สามารถจับมือกันได้ จะมีทั้งพลังและประสบการณ์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย….การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็นทางเลือกการจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในตอนนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จริง ก็ยังมีความจำเป็นที่ทั้งสองพรรคต้องปรับจูนกันหลายอย่าง นโยบายของเพื่อไทยที่ดี ผมเชื่อว่า พรรคก้าวไกล พร้อมผลักดันสนับสนุนอยู่แล้ว และเชื่อว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเช่นกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการหารือของทั้งสองพรรค หลังจากการเลือกตั้งว่าจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร” ธนาธร กล่าวระหว่างหาเสียง กระนั้นฝ่ายก้าวไกลอย่าคิดว่เพื่อไทยจะอุ้มไปตลอด เหลี่ยมจัดแบบทักษิณถึงเวลาก็เอาตัวรอดเข้าฝั่ง เผลอๆจะถีบหัวส่งก้าวไกลให้ไปไกลๆ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าข้างบนไม่เอาพรรคนี้คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่เอา หาเสียงตอนนี้แกนนำเพื่อไทยก็พูดชัด เพื่อไทยมาคนเดียวไม่มีพรรคพี่พรรคน้องพรรคสาขา ไม่ต้องไปเลือกใครเลือกเพื่อไทยพรรคเดียวทั้งพรรคทั้งเขต
อย่างที่บอกเพื่อไทยฝ่ายแม้ว เรื่องเหลี่ยมจัดเรื่องชั้นเชิงการเมืองไม่เป็นสองรองใคร ปาก็ประกาสแลนด์สไลด์ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีพรรคสาขาไม่มีพรรคพี่น้อง แต่ในทางลับก็ส่งคนเดินสายต่อสัมพันธ์หลังเลือกตั้งกันไว้กับทุกพรรค ก้าวไกลของตายไม่ต้องต่อสายก็ไปไหนไม่รอด ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวการคุยกันกับพรรคภูมิใจไทยของเสี่ยหนู พรรคพลังประชารัฐของลุงป้อม แต่ในทางลับวงในกระซิบบอกว่าเพื่อไทยคอกแม้ว ส่งแกนนำไปทาบทามหมดพรรคสีฟ้าประชาธิปัตย์ก็โดน แม้แต่พรรครวมไทยสร้างชาติของบิ๊กตู่ถ้ามาน้อยมาไม่ถึงเป้าบิ๊กตู่ไม่อยู่ เพื่อไทยก็พร้อมทาบมาร่วมรัฐบาลเช่นกัน เรียกว่าเพื่อไทยฝ่ายแม้วดักทางไว้ทั้งหมดไม่ว่าพรรคขั้วรัฐบาลหรือพรรคขั้วฝ่ายข้าม ฝากแม้วพร้อมผสมพันธุ์ได้หมดแม้ตอนนี้จะประกาศกร้าวตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเดินหน้าแลนด์สไลด์แต่ในใจก็รู้ดีว่าไม่มีทางถึงเป้าหมาย 310 คน ยิ่งจะหาเสียงสองสภาให้ได้เกินกึ่งหนึ่งคือ 376 เสียงจาก 750 คนของส.ส.กับส.ว.ยิ่งแล้วใหญ่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย
เพื่อไทยฉลาดไม่ยอมประกาศจุดยืนทางการเมืองว่าจะร่วมกับขั้วไหน แทงกั๊กไว้ทุกประตูเพราะรีบประกาศไปทางไหนก็เข้าทางตีนฝ่ายตรงข้ามหมด บอกว่าจับมือกับก้าวไกลก็จะกลายเป็นขั้วล้มเจ้า ประกาศข้ามฝากลืมขัดแย้งจับมือกับพลังประชารัฐหรือภูมิใจไทย มีหวังเสียงหดคะแนนหายแน่ๆ ชั่วโมงนี้เลยต้องหลอกตัวเองหลอกชาวบ้านไปวันๆ ขอยืนกรานเสียงแข็งชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่จบเลือกตั้งเสร็จไปทางไหนก็ได้หมด จับกับพรรคขั้วฝ่ายค้านเดิมก็ได้ จับกับขั้วรัฐบาลก็สบาย เพราะน่าจะเป็นพรรคชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 มีแต้มต่อเป็นส.ส.ในมือมากว่าเพื่อนอยู่แล้ว หรือหากเลือกตั้งจบพรรคขั้วรัฐบาลอย่าง ” พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ รวมไทยสร้างชาติ” จับมือกันแน่นแข่งกันตั้งรัฐบาล เพื่อไทยก็พร้อมจับมือกับก้าวไกลใช้มุกประกาศตัวเป็นพรรคฝ่ายประชาธิปไตยสู้กับพรรครัฐบาลเดิมสู้กับพรรคฝ่ายทหาร ถึงตอนนั้นก็คงปั่นบ้านป่วนเมืองได้พอสมควรถ้า 2 พรรคล้มเจ้าไม่เอาสถาบัน อย่าง “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ได้ส.ส.มาพอสมควร ก็คงใช้มุกเดิมเอาเสียงประชาชนมาชนกับมือของส.ว. ยังไงเพื่อไทยมาที่หนึ่งแน่แต่รวมเสียงตั้งรัฐบาลไม่ได้ เกมในอนาตคก็คงเอาเสียงของประชาชนมากดดันพรรคฝ่ายรัฐบาลพรรคขั้วทหารและส.ว.ให้เคารพฉันทามติของประชาชน ถ้า 4 พรรคขั้วรัฐบาลเดิมได้ส.ส.มาไม่มากรวมกันได้ไม่ถึง 250 หรือรวมกันไม่ขาด เหลี่ยมจัดแบบเพื่อไทยก็คงเปิดสงครามชิงตั้งรัฐบาลกันยาว ข่าวว่าถ้าเพื่อไทยกับก้าวไกลมาเยอะจะเอาเสียงส.ส.มากดดันส.ว.ให้ยกมือให้ให้ฟังเสียงประชาชน ก๊วนสภาสูงก็เตรียมแก้เกมส์เล็ง “งดโหวต งดออกเสียง” ไว้แล้ว ส.ว.ไม่ยกมือให้ เพื่อไทยกับก้าวไกลได้เสียงมาเท่าไหร่ก็เท่านั้น ต่อให้ชนะเลือกตั้งมาที่ 1 ก็ไม่มีทางตั้งคนเป็นนายกฯได้ แลกกันคนละหมัดสุดท้ายจะจบอย่างไรก็ต้องตามดู แต่ดาบแรกต้องลุ้นกันก่อนว่า 14 พ.ค.2566 แต่ละพรรคจะมีฐานบุญในมือจากชาวบ้านเท่าไหร่กัน
//////////////////////////
