วันที่ 20 เม.ย. 66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดการคำนวณค่าไฟฟ้างวด พฤษภาคมถึงสิงหาคม 2566 ทั้งในส่วนที่เป็นบ้านอยู่อาศัย และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ที่จะมีการคิดค่า Ft ในอัตราเดียวกัน ที่ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้ชี้แจงว่าสาเหตุหลักของค่าไฟฟ้าแพงเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูง และปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลงค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงต้นทุนต่ำที่เคยใช้ผลิตไฟฟ้า จึงทำให้ต้องนำเข้า LNG มาทดแทน ซึ่ง LNG มีราคาแพง เป็นผลจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และตรงกับช่วงที่มีความต้องการ LNG มากในฤดูหนาวของทางยุโรป อย่างไรก็ดีด้วยข้อจำกัดของระบบเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาก๊าซเป็นหลัก ทำให้แม้ในช่วงน้ำมันราคาถูกกว่า ก็ยังไม่สามารถใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้าแทน LNG ได้ทันที
สำหรับค่าไฟฟ้างวดพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2566 ค่า Ft จะอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย ซึ่งหากแยกรายละเอียดการคำนวณจะมีส่วนประกอบจาก 6 ส่วน โดยหากเรียงลำดับจากต้นทุนแพงที่สุดไปต้นทุนถูกที่สุดตามลำดับ สามารถแยกรายละเอียดได้ดังนี้ 1.ค่าเชื้อเพลิงทุกประเภทเฉลี่ย 2.74 บาทต่อหน่วย 2.ค่าโรงไฟฟ้าเพื่อรักษาความมั่นคงของระบบ 76 สตางค์ต่อหน่วย 3.ค่าต้นทุนระบบจำหน่าย 51 สตางค์ต่อหน่วย 4.ค่าภาระหนี้เชื้อเพลิงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. 35 สตางค์ต่อหน่วย 5.ค่าต้นทุนระบบส่ง 24 สตางค์ต่อหน่วย และ 5.ค่าใช้จ่ายตามนโยบายภาครัฐ เช่น Adder ค่าไฟฟรีสำหรับผู้มีรายได้น้อย ประมาณ 16 สตางค์ต่อหน่วย