“พาณิชย์” เผยกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดียบูม ส่งผลดีต่อการส่งออกยางล้อไทย

"พาณิชย์" เผยกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดียบูม ส่งผลดีต่อการส่งออกยางล้อไทย

วันที่ 20 เม.ย. 66 นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การค้าในต่างประเทศ ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยนางสาวสุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย

ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า กรมการขนส่งอินเดียได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 14.8 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในกรุงนิวเดลี หรือคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 7,917 คัน นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดในอินเดีย โดยเป็นรถยนต์ 4 ล้อประมาณร้อยละ 20 รถ 3 ล้อ ประมาณร้อยละ 12 รวมจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในกรุงนิวเดลีทั้งสิ้น 1.12 แสนคัน ทั้งนี้กรุงนิวเดลี รัฐหรยาณา รัฐอุตตรประเทศ รัฐทมิฬนาฑู รัฐพิหาร และรัฐกรณาฏกะของอินเดีย ได้เริ่มเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว และผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดียหลายรายได้นำเสนอขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ภายหลังการตั้งโรงงานผลิต  แบตเตอรีลิเธียมไอออนในอินเดีย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง และรัฐบาลอินเดียยังสร้างแรงจูงใจทางการเงินและภาษี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมานิยมใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรการ Faster Adoption and Manufacturing of Electric Vehicles (FAME) และเร่งส่งเสริมการลงทุน เพื่อยกระดับการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ    หวังลดพึ่งพาการนำเข้าและลดต้นทุนการผลิตด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกรอบด้านในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของอินเดียยังสูงกว่าประเทศอื่น และต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนและไต้หวันเป็นจำนวนมาก นับเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะยางล้อที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ มีน้ำหนักเบา และอินเดียยังต้องการยางล้อขนาดใหญ่สำหรับรถไฟฟ้า เพื่อบริการสาธารณะ และรถบรรทุกด้วย

 

 

“สำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมอาจพิจารณาเข้าไปลงทุนเพื่อนำยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสมจากไทย ไปต่อยอดเป็นยางล้อและวัสดุที่มียางเป็นส่วนประกอบสำหรับใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบันมีธุรกิจไทยเข้าไปตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราในอินเดียแล้ว และยังมีโอกาสสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานีชาร์จไฟฟ้า เครื่องชาร์จพลังงานแบบแสงอาทิตย์ อุตสาหกรรมรีไซเคิลแบตเตอรี่ บริการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า บริการซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันอัจฉริยะที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบริการดัดแปลงเครื่องยนต์สันดาปเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยควรหมั่นศึกษามาตรฐานสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากอินเดียมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ“ นายบุณย์ธีร์ กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น