“ส.ว.อุปกิต” เข้ารายงานตัวอัยการ ยื่นให้สอบเพิ่มครบ 112 บริษัท มั่นใจพิสูจน์ทำถูกกม.

"ส.ว.อุปกิต" เข้ารายงานตัวอัยการ ยื่นให้สอบเพิ่มครบ 112 บริษัท มั่นใจพิสูจน์ทำถูกกม.

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 66 ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนัท แสงอรุณ ทนายความและที่ปรึกษาทางกฎหมายเดินทางเข้าพบคณะทำงานสอบสวน และพนักงานอัยการ ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นหนังสือแจ้งขอเลื่อนจากวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายอุปกิต กล่าวว่า วันนี้มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนทั้งฝ่ายตำรวจและพนักงานอัยการ เนื่องจากจริงๆ แล้วกำหนดการเดิม คือ วันที่ 18 เม.ย. แต่ติดภารกิจเลยเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลให้การเพิ่มเติม จากเดิมเคยยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด (อสส.) ซึ่งเป็นรายชื่อบริษัทกว่า 80 แห่ง แต่ตอนนี้พบว่า มีอีก 26 บริษัท รวมเป็น 112 บริษัท และต้องขอขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรม ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้ทำธุรกิจอยู่ในประเทศเมียนมาเช่นเดียวกับ บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป โดยเป็นการโอนเงินผ่านเอ็มซี และไม่ทราบได้ว่า เอ็มซี ใช้บัญชีใดโอนไป ซึ่งมันต่างจาก บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป เพราะ บริษัทอัลลัวร์ เอ็มซี จะโอนไปที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามใบเสร็จ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่บริษัท 112 แห่งนี้ โอนเงินจากบัญชียาเสพติดตรงเข้าบริษัท ตรงนี้เราคิดว่า เพื่อความเสมอภาค เพื่อความเป็นธรรม เพื่อให้กฎหมายไม่เลือกปฏิบัติ จะต้องไม่ใช่การดำเนินคดีแค่ บริษัท อัลลัวร์ ถ้าให้เป็นธรรมต้องไปสอบสวนทั้ง 112 บริษัท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ผมฝากไปถึงผู้อภิปรายที่ทำให้ผมเสียหายเป็นอย่างมาก ที่กล่าวพาดพิงว่า ผมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งผมไม่เกี่ยวข้องเลย จะเห็นได้ว่า ที่เขาเอามาอภิปราย เป็นการคุยกันระหว่างผมกับทุนมินหลัต ที่ผ่านมานานกว่า 10 ปี และเป็นการคุยธุรกิจ ไม่มีคุยเกี่ยวกับยาเสพติด”

นายอุปกิต กล่าวอีกว่า บริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป (พีแอนด์อี) โอนเงินเข้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ไม่เกี่ยวกับยาเสพติด และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ ไม่ได้เป็นกรรมการ ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอะไรกับบริษัททั้งสิ้น ดังนั้น การที่มีคนมาปรักปรำเรื่องยาเสพติดจะขอดำเนินคดีถึงที่สุด โดยเฉพาะพวกเด็กเลี้ยงแกะ อีกทั้งที่สำนักงานการสอบสวนที่นี่ จากครั้งสุดท้ายได้กล่าวหาเพียง 2 ข้อหา แต่ไม่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเลย และในวันนี้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม จากนั้นทางอัยการจะนัดหมายเพื่อฟังคำสั่งคดีอีกครั้ง

นายอุปกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับทางอัยการสูงสุดไปก่อนหน้านี้ เพียงเพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่า ผู้ดำเนินธุรกิจในประเทศเมียนมา ช่วงที่ด่านปิดจะต้องโอนเงินผ่านเอ็มซี ดังนั้น ถ้าบริษัทเหล่านี้ ทั้ง 112 แห่งไม่ผิด บริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ก็ไม่ควรผิด ต้องไม่เลือกปฏิบัติ บริษัทอัลลัวร์ จะถูกดำเนินคดีอยู่บริษัทเดียวไม่ถูกต้อง เพราะบริษัทอื่นๆ ตนไม่เห็นมีการออกหมายเรียก ไม่ถูกตรวจสอบ

 

เมื่อถามว่าการยื่นรายชื่อบริษัททั้ง 112 แห่งเป็นการประวิงเวลาคดีหรือไม่ นายอุปกิต ชี้แจงว่า ไม่ต้องการประวิงเวลาอะไร เพราะไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ทางพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมความผิดและความบริสุทธิ์ ซึ่งการยื่นรายชื่อบริษัทเหล่านั้นเป็นสิทธิ์ของตน ส่วนบริษัททั้งหมดนี้ ล้วนเป็นบริษัทใหญ่ ประกอบการค้านานาชนิด ทั้งบริษัทที่ขายของปลีก วัสดุก่อสร้าง เครื่องดื่ม เหล็ก เป็นต้น และบริษัทเหล่านี้ล้วนโอนเงินจากบัญชียาเสพติดทั้งสิ้น รวมถึงตนไม่หวาดหวั่นกับการยื่นรายชื่อบริษัท เพราะเป็นรายชื่อที่ได้ไปคัดเอกสารมาจากศาล คัดมาอย่างถูกต้องซึ่งเป็นสิทธิ์ของเรา

นายอุปกิต ระบุทิ้งท้ายว่า ในกรณีที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สว.สส.สน.พญาไท มีการเซ็นรับทราบทุกหน้า และยังมีการแปลผิด โดยตั้งใจที่จะทำให้ตนเองเสียหาย จนศาลออกหมายจับได้ในคราวนั้น แต่จริงๆต้องขอออกหมายเรียกก่อน และตามกระบวนการก็ผิดมาตลอด เพราะผู้บังคับบัญชาไม่รับทราบ และทางศาลก็ไม่ได้แจ้งผู้พิพากษาว่า ผู้ถูกออกหมายจับเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการที่มีกฎระเบียบเหล่านี้ ก็เพื่อไม่ให้เป็นการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ยืนยันว่า จะฟ้องคนอื่นเพิ่มเติมแน่นอนในส่วนของคนที่ใส่ร้ายปรักปรำในเรื่องยาเสพติด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ไข้กลับ หน้าซีด อ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่นครพนม เรียกทีมแพทย์เช็กอาการด่วน
"CPF เคียงข้างยามวิกฤต" ชวนคนไทยส่งต่อพลังแห่งการให้ รพ.รามาธิบดี
"อธิบดีกรมอุทยานฯ" แจงยิบปมเงินรายได้ ยอมรับเตรียมปลด ‘ทราย สก๊อต’ พ้นที่ปรึกษา เหตุทัศนคติไม่ตรงกัน วอนรถทัวร์ดูข้อเท็จจริง
"พิพัฒน์" นำทีมเยี่ยมกลุ่มอาชีพอิสระ เครือข่ายแรงงาน นครพนม รับฟังปัญหา พร้อมเดินหน้ากองทุนหนุนพัฒนาอาชีพ
ATC ยื่นจม.ฉบับ 2 ขอ “นายกฯ” เร่งแจงข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม ภายใน 15 วัน
สนามไชย 2 ชู "โครงการพระราชดำริ" มุ่งพัฒนาคน-ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต
"ดีเอสไอ" เตรียมเรียก "40 วิศวกร" ร่วมออกแบบ-ก่อสร้าง สอบข้อเท็จจริง ปมตึกสตง.ถล่ม
"นายกฯ“ กราบสักการะพระธาตุประสิทธิ์ นครพนม ขอปชช.มั่นใจ รัฐบาลพร้อมทำเต็มที่ ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ
"เสรีพิศุทธ์" เอาคืน "ทักษิณ" ชี้หน้าเครียดคดีรุม แฉหมดใครผิดสัญญา ลั่นเสียหมาเลย ถ้ายอมรับเก้าอี้รองนายกฯ
"นฤมล" ติดตามแก้ปัญหาค้าผลไม้ ไทย-จีน เน้นย้ำคุณภาพ พืชปลอดสารเคมี สร้างเชื่อมั่น มาตรฐานสินค้าเกษตรไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น