เช็ค "แอปธนาคาร" แห่แจ้งลูกค้าโมบายแบงก์กิ้ง หากโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า รีบอัปเดตข้อมูลที่สาขาได้เลย
ข่าวที่น่าสนใจ
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออก 3 ชุดมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ทั้งมาตรการป้องกัน มาตรการตรวจจับและติดตามบัญชี หรือธุรกรรมต้องสงสัย และมาตรการตอบสนองและรับมือ เพื่อลดโอกาสการถูกหลอกลวงจากภัยทุจริตด้านไซเบอร์ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้บริการทางการเงิน
โดยในส่วนของมาตรการป้องกัน ธนาคารต้องยกระดับความเข้มงวดในกระบวนการยืนยันตัวตนขั้นต่ำด้วยการใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบข้อมูลอัตลักษณ์ทางกายภาพของลูกค้า (biometrics) เช่น สแกนใบหน้า ในกรณีลูกค้าขอเปิดบัญชีโดยผ่านแอปพลิเคชันของ สถาบันการเงิน (non-face-to-face) หรือทำธุรกรรมผ่าน mobile banking ในเงื่อนไขที่กำหนดไว้
สำหรับธุรกรรมที่ต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า เมื่อใช้บริการผ่านแอปโมบายแบงก์กิ้ง ดังนี้
- โอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
- มูลค่ารวมของการโอนเงินครบทุก 200,000 บาท ต่อวัน
- ปรับเปลี่ยนวงเงินโอน
โดยธปท. กำหนดให้ทุกธนาคารเริ่มดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2566 แต่หากทำธุรกรรมโอนเงินไม่ถึงวงเงินดังกล่าว ก็ยังสามารถใช้บริการได้เหมือนเดิม
ล่าสุด ธนาคารหลายแห่ง เริ่มแจ้งให้ลูกค้าผู้ใช้บริการโมบายแบงก์กิ้ง นำบัตรประจำตัวประชาชน เข้าไปอัปเดตข้อมูล และ สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารแล้ว อาทิ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารออมสิน
โพสต์เฟซบุ๊ก GSB Society ระบุว่า ยกระดับความปลอดภัย เดือนพฤษภาคมนี้ หากต้องการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาท หรือเปลี่ยนแปลงวงเงิน จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าก่อน เพื่อให้เกิดธุรกรรมอย่างสมบูรณ์ ขอให้ท่านเตรียมความพร้อมโดย
- นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขา และอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
- ถ่ายภาพสแกนใบหน้า
ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และอัปเดต MyMo ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
ธนาคารไทยพาณิชย์
เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก SCB Thailand ระบุว่า เตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ผ่านแอป SCB EASY
- โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง
- มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุก ๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน
- ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
กรุณานำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน และถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ธนาคารกรุงเทพ
เปิดเผยว่า เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ธนาคารกรุงเทพ ยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชัน ดังนี้
- จำกัดการใช้งานแอป 1 อุปกรณ์/ท่าน เท่านั้น
- บล็อกการเข้าถึงแอปจากระยะไกล (Remote access) กรณีลูกค้ามีการเปิดการใช้งาน การช่วยเหลือการเข้าถึง (Accessibility) ลูกค้าจะไม่สามารถเข้าใช้งานแอปได้ จนกว่าจะปิดการใช้งาน Accessibility ที่ ‘การตั้งค่า’ (Settings) ของตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ
- ลดวงเงินตั้งต้น สำหรับธุรกรรม โอน / จ่าย / เติม จากเดิม 200,000 บาท/วัน เป็น 50,000 บาท/วัน เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยลูกค้าสามารถปรับเพิ่มวงเงินโอน/ จ่าย /เติม ได้เอง ผ่านแอป ซึ่งจะมีผลเฉพาะกับลูกค้าที่ไม่เคยปรับวงเงินเท่านั้น ลูกค้าที่เคยปรับวงเงินจะไม่ได้รับผลกระทบและยังสามารถใช้วงเงินเดิมที่ตั้งไว้
- เพิ่มการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าในการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง
โดยเริ่มมีผลตั้งแต่พฤษภาคม 2566 ในธุรกรรมต่อไปนี้ รายการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นผ่านเลขที่บัญชี/พร้อมเพย์/สแกนคิวอาร์ หรือ เติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet ที่เข้าเงื่อนไขดังนี้ รายการที่มียอดเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป / รายการที่ทำให้ยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท และ การปรับเพิ่มวงเงินโอน / จ่ายเงิน ผ่านแอป
ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์ กรุณานำบัตรประจำตัวประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและถ่ายภาพใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง