ระวัง…..สะดุดขาตัวเอง

หลังชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.ปชป.ถูกตัดสิทธิ์เพราะถือหุ้นเอไอเอส 200 หุ้น ออกมาแฉมีส.ส.มีคนดังมีผู้สมัครผู้แทน 130 คน สุ่มเสี่ยงถูกตัดสิทธิ์ ฮือฮาในจำนวนนั้นมี "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร แคนดิเดตนายกฯหัวหน้าพลังประชารัฐ รวมถึงน้องเลิฟอย่างร.อ.ธรรมนัสรวมอยู่ด้วย แค่นั้นไม่พอเพื่อไทยยังลุ้นตีความนโยบายแจกเงินดิจิทัลผิดกฎหมายหรือไม่ รวมถึงประเด็น "เต้น-ทอน-ป+บูด" เป็นผู้ช่วยหาเสียงแต่ทำหน้าที่เกินเบอร์ ลุ้นพรรคใด-นักการเมืองคนไหน จะสะดุดขาตัวเองถูกตัดสิทธิ์พ้นเลือกตั้งบ้าง

กลายเป็นกระเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที เมื่อจู่ๆ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) จ.นครนายก ออกประกาษิตตัดสิทธิ์การลงสมัครส.ส.ของ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.นครนายก ผู้สมัครเบอร์ 2 เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุเหตุผลการตัดสิทธิ์ว่า มีคุณสมบัติขัดต่อพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) และ รวมถึงขัดรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 โดยระบุว่าชาญชัยถือหุ้นบริษัทแอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิสจํากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ( AIS) จำนวน 200 หุ้น และบริษัท เอไอเอส ไปร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท คือบริษัท เทเลอินโฟ มีเดีย จํากัด (มหาชน) และ บริษัท เยลโล่เพจเจส คอมเมอรส์ จํากัด ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสื่อซึ่งถือว่าผิดกฎขัดรัฐธรรมนูญ

ชาญชัยต่อสู้แก้ข้อกล่าวหาว่า เขาเคยลงสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคปชป. เมื่อการเลือกตั้งคราวที่แล้ว 24 มี.ค.2562 มาแล้ว โดยถือครองหุ้นตัวเดียวกัน จำนวน 200 หุ้นเท่ากันและผ่านการตรวจสอบหลักฐานการสมัคร รวมถึงคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และลักษณะต้องห้ามแล้ว ถึงขนาดได้ไฟเขียวจาก อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ได้ลงนามรับรองการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครด้วยตนเอง และประกาศรับรองไว้เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 แต่ทำไมเที่ยวนี้กกต. จ.นครนายก ถึงตัดสิทธิ์ของตัวเอง ทั้งๆที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงซื้อขายหุ้นเพิ่ม และการถือครองหุ้นเอไอเอสก็ยังเหมือนเดิมทุกประการ

“ เป็นที่น่าสังเกตว่า การใช้ดุลพินิจของ กกต.นครนายก เขต 2 ครั้งนี้เป็นการตีความขัดกันเองกับที่นายอิทธิพร ประธาน กกต. เคยลงชื่อรับรองคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งในปี 62 และผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมาแล้ว ตามรัฐธรรมนูญปี2560 ฉบับเดียวกันและ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งพ.ศ. 2561 และมาตราเดียวกัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฏหมายแม้แต่ข้อความใด แต่พอมาถึงการเลือกตั้งส.ส.ปี 66 กกต.จ.นครนายก เขต2 กลับตัดสิทธิ์การสมัครของผม จากนี้เจะเข้าพบประธานกกต.เพื่อสอบถามถึงความชัดเจน รวมถึงเรื่องรายชื่อของผู้สมัคร ส.ส.ทั้งสองระบบอีก 130 คนที่ถือครองหุ้น ซึ่งทาง กกต.ส่วนกลางส่งรายชื่อไปให้ตรวจสอบว่า จะมีการตัดสิทธิ์หรือไม่ อย่างไร และมีใครบ้างที่ถูกตัดสิทธิ์การลงสมัคร ส.ส.เช่นเดียวกับผม และมีใครบ้างที่ได้รับการยกเว้นไม่ถูกตัดสิทธิ์ ด้วยสาเหตุอะไร อย่างไร เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป” ชาญชัยระบุ

งานนี้ไม่ใช่แค่ชาญชัยเท่านั้นที่ซวย หลังกกต.จว.พิจารณาความเห็นต่างจากที่ประธานกกต.เคยพิจารณา แต่ชาญชัยกลับออกมาปูดข่าวว่านอกจากตัวเองแล้ว ยังมีนักการเมืองอีกราว 130 คน ที่ถูกสอบสวนเรื่องนี้ แถมในจำนวนนั้นมีชื่อของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพลังประชารัฐ แม่ทัพภาคเหนือรวมอยู่ด้วย งานนี้ก็เลยสะเทือนกันไปใหญ่เพราะถ้ากกต.ยึดมาตราฐานเดียวกัน แล้วบังเอิญลุงป้อมกับผู้กองแจกพ็อต งานนี้บอกได้คำเดียวว่า “บรรลัยเกิด” แน่นอน อย่าลืมว่าลุงป้อมไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แห่งแต่ยังเป็นพี่ใหญ่ 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯของพลังประชารัฐ แถมมีลุ้นขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 30 แบบสุดๆ เพราะอยู่ในก๊วนหัวแถวคนลุ้นนายกฯ เคียงข้าง “พล.อ.ประยุทธ์ -อนุทิน -เศรษฐา-แพทองธาร” จู่ๆ หากลุงป้อมมามีอันเป็นไปทางการเมือง ถูกตัดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง ถูกตัดสิทธิ์ให้เว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี มีหวังดุลย์อำนาจและการเมืองไทยคงเปลี่ยนโฉมเปลี่ยนหน้าไปอีกมาก

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้เคยมีอดีตนักการเมืองคนดังอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคย “ตายน้ำตื้น” หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์การลงรับสมัครเพราะพบว่าถือครองหุ้นสื่อในลักษณะนี้มาแล้ว หลังกกต.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพส.ส.ของธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ว่า ธนาธรผู้ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่ พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อต่อกกต. ” ยังปรากฏชื่อนายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทตั้งแต่ปี 2558 จนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2562 เมื่อ กกต.ประกาศเปิดสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2562 จึงเท่ากับว่าขณะที่นายธนาธรยื่นใบสมัครลงรับเลือกตั้งยังถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ จึงเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเป็นบุคคลที่ห้ามใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 42(3)”

งานนี้เรียกว่านักการเมืองที่มีรายชื่อทั้ง 130 คน ต้องลุ้นกันปัสสาวเหนียว ขณะที่พรรคพลังประชารัฐคงหายใจกันไม่ทั่วท้อง อย่าลืมว่าลุงป้มเป็นหัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค แถมยังเป็นแคนดิเดตนายกฯในบัญชีของพรรคแค่คนเดียว เกิดอะไรทางการเมืองกับลุงป้อมมีหวังพลังประชารัฐฉิบหายกันหมด ขั้นรัฐบาลก็สะเทือน เพราะขาดบารมีพี่ใหญ่ ขาดดุลย์อำนาจของค่ายป่ารอยต่อ แต่ให้ลุงป้อมกับบิ๊กตู่จะแย่งกันเป็นนายกฯอย่างไร แต่การอยู่บนกระดานเดียวกัน อยู่ในสนามรบด้วยกันยังไงก็มีประโยชน์มีค่ามากกว่าถูกดีดถูกเขี่ยออกไปอยู่นอกวง งานนี้ไม่ใช่แค่พลังประชารัฐที่หนาวๆร้อนๆ แต่ขั้วรัฐบาลก็คงหนาวเหมือนกัน เพราะถ้าขาดลุงป้อมไปจริงๆ ย่อมมีผลกับฐานเสียงของรัฐบาลแน่นอน

ความวัวไม่หายความควายเข้ามาแทรก ก่อนหน้านี้ลุงป้อมก็เพิ่งโดนศาลปกครอง มีคำพิพากษาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยรายงานการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนคดีพล.อ.ประวิตร กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรรับทราบ กรณีที่ไม่ได้แสดงว่ามีนาฬิกาข้อมือและแหวนประดับหลายรายการ ของ ป.ป.ช. รวมทั้งความคิดเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่รับผิดชอบในการไต่สวนดังกล่าว และรายงานการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ให้ วีระ สมความคิด ที่เป็นผู้ร้อง ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาออกมา งานนี้เรียกว่าพระศุกร์เข้่าพระเสาร์แทรกลุงป้อมแน่ๆ เพราะโดนสารพัดเรื่องถาโถมใส่ในช่วงนี้แบบเต็มๆ ทั้งๆที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงอัพหนุ่มทิ้งแก่ ตระเวนหาเสียงไปทั่วสารทิศ แต่อาจต้องมาตกม้ายตายด้วยเรื่องนี้

นอกจากลุงป้อม ผู้กองนัส และบรรดานักการเมืองอีกราว 130 คนต้องลุ้นหนักกับการพิจารณาเรื่องนี้แล้ว ยังมีพรรคเพื่อไทยก็ต้องลุ้นเหนื่อยหนักเช่นกันกรณีที่ออกมาประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาทใส่กระเป๋าให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้งบกว่า 560,000 ล้านบาท ที่หลายคนมองว่าสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อหวังผลในคะแนนนิยม ที่งานนี้ถูกศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นเรื่องต่อกกต.เพื่อขอให้วินิจฉัยคำชี้แจงนโยบายแจกเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ โดยเฉพาะการใช้เงินมหาศาลจากนโยบายดังกล่าว งานนี้ถ้าผิดจริงอาจถึงขั้นยุบพรรคลาโรงจาการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ได้ในทันที นอกจากนี้กรณีของพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลขอให้ระวังเรื่องการของใช้บริการ พวก “ตัวตึง” ลงไปช่วยหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ “เต้น” ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ของพรรคเพื่อไทย หรือกรณีของธนาธรกับปิยบุตร แสงกนกกุล ของพรรคก้าวไกล

ที่ตอนนี้หลายพรรคและฝ่ายตรงข้ามกำลังเพ่งเล็งว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายทำนอกหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้ตามระเบียบของกกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 “ผู้ช่วยหาเสียง” คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้สมัครให้เข้าร่วม กิจกรรมในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ตลอดระยะเวลาหรือช่วงระยะเวลาหนึ่ง และเป็นบุคคลที่ได้แจ้งรายละเอียด หน้าที่และค่าตอบแทนต่อกกต.ประจำจังหวัด งานนี้ก็ต้องไปดูในรายละเอียดว่า 3 คน ทั้งๆที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แม้จะเป็นผู้ช่วยหาเสียงอย่างถูกต้องแต่ทำหน้าที่เกินเบอร์ไปมาก ยิ่งกว่าแกนนำพรรคตัวจริงยิ่งกว่าผู้สมัคร เดินพบชาวบ้านแบบอุตลุต ขึ้นเวทีปราศรัยด่าฝ่ายตรงข้ามปาวๆๆๆ อัดคนนู้น อัดคนนี้ โจมตีพรรคฝ่ายตรงข้าม หลอกชาวบ้านให้เชื่อให้หลงนิยมชมชอบในพรรคฝ่ายตัวเอง เลือกตั้งเหลือเวลา 20 วัน แต่ปมร้อนทางการเมืองก็ผุดขึ้นรมาเรื่อย โค้งสุดท้ายแล้วแท้ๆ ดูสิว่าปี้นี้จะมีรายการ “สะดุดขาตัวเอง” ของพรรคการเมืองพรรคไหน ของนักการเมืองคนใด ที่ต้องตายน้ำตื้นตกสวรรค์ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง
/////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เตรียม สู่ ขอ น้องหมูมะนาว จากโคราช ให้ น้องหมูตุ๋น หวังพัฒนาสายพันธุ์ ฮิปโปแคระ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 เผยสถติสุดสยอง พบคนกิน "หมูดิบ" เสียชีวิตแล้วนับสิบราย
"อนุทิน" ย้ำน้ำท่วมภาคใต้ ผู้ว่าฯยังรับมือได้ สถานการณ์ต่างจากภาคเหนือ
“ทนายเดชา” พูดแล้ว ใช่-ไม่ใช่ หลัง “ทนายบอสมิน” ปูดข่าวมีคนโดนหมายจับ
“โจทก์เมียบิ๊กโจ๊ก” โวยลั่นโรงพัก! ถูกออกหมายจับ-โดนสะกดรอยตาม
สั่นสะเทือนแน่ ทีมสจ.กว่า 20 เสียง หนุน "ถาวร" ลงชิงนายกอบจ.สงขลา
“คารม” เผย ธอส. สนับสนุนผู้สูงวัย มีบ้านก่อนสิ้นปี อัดโปรชุดใหญ่ จัดสินเชื่อ 4 โครงการ
“ภูมิธรรม” เยี่ยมชมนิทรรศการวิจัยยุทโธปกรณ์ ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ตลาดโลก 3 แผนงาน
เปิด '10 รหัสผ่าน' ยอดแย่! เสี่ยงมิจฉาชีพโจรกรรมข้อมูล
"นิพิฏฐ์" ยกประสบการณ์แนะนำ "สามารถ" ไม่เชื่อ สุดท้ายเกม ถูกตำรวจรวบตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น