“หนิง ปณิตา” ร่ำไห้ เคลียร์ดราม่าชีวิตคู่ “จิน” เป็นฝ่ายท้าหย่า ขอให้สิทธิ์ฟ้องบุคคลที่สามเรียบร้อย

คนอาจคิดว่าข้อตกลงหนิงต้องได้อะไรเยอะแยะมากมาย ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เคลียร์เอง คนเข้าใจว่าดาราแต่งงานกับคนรวยเพราะเราอยากสุขสบาย อยากใช้เงินเขา เราก็เลือกเอง อยู่สวย ๆ ใช้เงินไป โคตรเจ็บปวด ผู้หญิงคนนี้ทำงานอายุ 15 ส่งน้องเรียน 3 คน จบการศึกษาที่ดีมากทุกคน ดูแลแม่ แต่งงาน ไม่เคยไปเดือดร้อนหรือพึ่งพาอะไรจินเลย หนิงดูแลตัวเองทั้งหมด

เซ็นข้อตกลงเรียบร้อย แต่ยังไม่เซ็นหย่า “เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเรียบร้อยแล้ว เป็นแค่ข้อตกลง ยังไม่ได้มีการจด เซ็นใบหย่าใด ๆ จากวันนั้น จนถึงวันนี้ หนิงก็รอการที่จะมาเคลียร์ว่าจะทำยังไง และหนิงไม่ได้รับการเคลียร์ตรงนั้นเลย ซึ่งหนิงไม่รู้ต้องทำตัวยังไง พอมีข่าวก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะกำลังแก้ปัญหาหลังบ้านให้ดีที่สุด หวังว่าเดี๋ยวก็กลับมานะ แต่ข่าวล่าสุด หลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นเยอะ จนหนิงคิดว่าถ้าหนิงไม่นำก็ไม่จบ”

รู้เรื่องข่าวล่าสุด เพราะณิรินมาเล่าให้ฟัง

“คนรู้เรื่องนี้คือลูก และเป็นคนมาเล่าให้ฟัง ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องขำ ตลก คิดว่าณิรินพูดเล่น ห่วงพ่อ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริง เราก็ไม่ต้องกลับไปบอกอะไรกับเด็ก เราต้องไม่ไปซ้ำเรื่องเดิมกับเด็ก หน้าที่แม่คือประคองความจริงที่เขารู้ ให้เขาเข้าใจความจริงที่เด็กควรเข้าใจ เรามีอะไรก็จะพอเดาทางลูกถูกว่าเขาเข้าใจแบบติดลบหรือเชิงบวก หรือกลาง ๆ หนิงผ่านการคุยกับลูกเรียบร้อยแล้ว ณิรินไม่เข้าใจการหย่า เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้เจอคุณอากับคุณปู่ และรองลงมาคือคุณพ่อเขา เราก็บอกว่าไม่มีปัญหาเลย แม่ก็ยังเป็นลูกสาวและเป็นพี่สาวอา และเป็นเพื่อนพ่อ หนิงคิดทบทวนแล้วทบทวนอีก จนมั่นใจ นี่คือผ่านกระบวนการความคิดของหนิง มานานมากแล้ว”

อยากหย่า ถึงเจ็บแต่ไม่อยากเกลียด ฟ้องบุคคลที่สามแล้ว

“ถามว่าอยากหย่าไหม อยากนะ เจ็บไหม เจ็บ แต่หนิงไม่อยากเกลียด อยากให้จินเป็นพ่อที่น่ารักของลูก หนิงคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด หนิงกับลูกนอนคุยกับทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่อง เขาก็โอเค จุดตั้งต้นหนิงไม่ได้ผิด แต่จุดจบหนิงผิดตลอดเวลา เพราะความไม่มีสติ ฟาดฟันอาละวาด ด่าทอ เธอให้ข่าวแบบนี้ ฉันให้ข่าวหนักกว่าเธอ แต่วันนี้พยายามปิดทุกอย่างให้เงียบที่สุด หนิงใช้วิธีตามกฎหมาย ถึงแม้ไม่ได้เซ็นหย่า ใช้วิธีตามกฎหมาย ตามภรรยา เมียหลวงที่ควรมี เขามีกฎหมายให้จัดการ หนิงได้ฟ้องบุคคลที่สาม ซึ่งศาลรับฟ้องเรียบร้อยแล้ว

ปวดใจณิรินเจอคำถามที่โรงเรียนทุกครั้งที่เป็นข่าว

“ณิรินเจอคำถามที่โรงเรียนทุกครั้งที่เป็นข่าว มันเจ็บปวดมากนะ ณิรินไม่มาเล่า หนิงไปรู้จากแม่เพื่อนสนิทณิรินแล้วหนิงก็ถามลูกว่าทำไมไม่มาเล่าให้แม่ฟัง คำตอบของณิรินคือเขาเห็นแม่เครียด มีปัญหาเยอะแยะมากมาย หนูไหวแม่ หนูโอเค หนูสบาย เขาบอกทุกคนจะถามเขา เขารู้กันทั้งโรงเรียนแหละแม่ ณิรินก็ตอบว่าใช่ ก็พ่อฉันแหละมีข่าว แต่เขายังรักกันนะ เขาเป็นเพื่อนกัน

วันนี้หนิงพูดก็มีผลกระทบ หนิงไม่พูดก็มีผลกระทบ แต่ถ้าไม่ตัดสินใจเป็นผู้นำแก้ปัญหาครั้งนี้ ผลกระทบระยะยาวจะหนักกว่า และหนิงเชื่อว่าทุกคนเข้าใจหนิง ก่อนหน้ามารายการนี้ หนิงก็ปรึกษามากที่สุด คนสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็คือลูกแล้ว

ตอนนี้รอเคลียร์ให้ชัดเจน ว่ายังไง อย่างที่บอก เงียบก็เสี่ยงให้คนเข้าใจผิด พูดก็เสี่ยงต่อการที่คนไม่เข้าใจเราจะไม่เข้าใจ แต่อย่างที่บอก ข้อผิดพลาดในชีวิตหนิงมากที่สุดคือทำอะไรก็ขาดสติ เวลาเรื่องเพื่อน พร้อมเป็นด่านหน้า แต่พอเรื่องตัวเองล้มไม่เป็นท่า ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาทบทวน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า หนิงตัดสินใจพูดอย่างมีสติที่สุดแล้ว

ให้อภัยแล้ว แต่อย่างน้อยขอให้ทำให้ลูกภูมิใจว่าพ่อรักเขา

“ถามว่าอยากบอกอะไร จริง ๆ คุยทุกเรื่องแล้ว เกิดเรื่องก็พยายามคุย แต่เขาไม่คุย หนิงก็ใช้วิธีส่งข้อความ คุยทุกเรื่องในหลาย ๆ เวอร์ชั่นแล้ว ถามว่ายังรักไหม รักในวันข้างหน้าที่จะเป็นเพื่อลูกได้ อยากบอกว่าให้ทำเพื่อลูก ไม่ต้องทำเพื่อหนิง ส่วนของหนิงมันจบแล้ว ที่เหลือทำเพื่อลูก

หนิงให้อภัยเขาไปนานแล้ว หนิงช่วยทำทุกอย่างแล้ว แค่มีคนเห็นว่าหนิงเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น แค่นี้ก็มีกำลังใจแล้วหนิงเป็นคนห่าม ๆ ชัดเจน แต่คนก็ถูกมองติดลบ หนิงอัดมาทั้งรายการไม่มีน้ำตา แค่เห็นในมุมบาง ๆ ว่าหนิงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อยากเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกแค่นั้นเอง หลังเทปนี้ออกอากาศไป ก็ไม่ต้องมาถามอะไรหนิงแล้ว ยุคนี้สมัยไหนแล้ว อย่าทนเพื่อเกลียด”