ฐานะกองทุนน้ำมันครึ่งปีงบ 66 สภาพคล่องฟื้น ติดลบเหลือ 8.5 หมื่นล้าน

สำนักงานกองทุนน้ำมันฯ เผยครึ่งแรกปีงบ 2566 ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ฟื้นตัวเร็ว ติดลบลดลงต่อเนื่อง เดือนเม.ย.เหลือ 8.5 หมื่นล้านบาท ปรับลดราคาดีเซลแล้ว 4 ครั้ง ล่าสุดเหลือประมาณ 33 บาทต่อลิตร ช่วยพยุงราคาที่เหมาะสมไม่เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนจนมากเกินไป

วันนี้ (26 เม.ย.66) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยผลการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – มีนาคม 2566) ว่า อยู่ในเกณฑ์ดี กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น โดยในช่วงต้นปีงบประมาณฯ ฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเคยติดลบสูงสุดเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ 130,671 ล้านบาท ได้ทยอยปรับลดลงมา โดยในเดือนมีนาคม 2566 ติดลบเหลือ 94,471 ล้านบาท และล่าสุด 23 เมษายน 2566 ติดลบเหลือ 85,586 ล้านบาท

 

 

สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยรายเดือนเฉลี่ยลดลง จากช่วงต้นปีงบประมาณเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 91.13 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดมาเหลือ 78.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนมีนาคม 2566 ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปดีเซล (Gas Oil) เดือนตุลาคมก็สูงถึง 133.84 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับลดลงมาในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเหลือ 98.92 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวิศักดิ์ ระบุว่า ภายหลังจากกระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้สามารถดำเนินการกู้ยืมเงินได้ ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มลดลง ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเรียกเก็บเงินเข้าและมีสภาพคล่องมากขึ้น จนสามารถลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไป 4 ครั้ง ๆ ละ 0.50 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจาก 34.94 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตรหรือประมาณ 33 บาทต่อลิตร

ในด้านความคืบหน้าของการกู้ยืมเงินเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ นั้น สกนช. ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในการกู้ยืมเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาท โดยบรรจุเป็นหนี้สาธารณะของประเทศไปแล้ว 110,000 ล้านบาท ปัจจุบัน สกนช. ทำการกู้ยืมไปแล้ว 30,000 ล้านบาท และในเดือนเมษายน 2566 จะทำการกู้ยืมเงินเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยทำการกู้ยืมเงินตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป

นายวิศักดิ์ ระบุว่า ถึงแม้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น แต่ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันยังติดลบอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับความผันผวนของราคาพลังงานตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลุ่มโอเปกพลัสที่ลดกำลังการผลิต การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ความผันผวนของเงินดอลลาร์สหรัฐ การเปิดประเทศของจีน และความขัดแย้งจากประเทศและกลุ่มประเทศที่สนับสนุนของฝ่ายรัสเซียและยูเครน ทำให้ สกนช. ต้องเฝ้าติดตาม และคงต้องเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพื่อนำมาชำระหนี้

 

 

อย่างไรก็ตาม ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลต้องอยู่ในราคาที่เหมาะสมไม่เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนจนมากเกินไปก็จะเป็นสิ่งที่ สกนช. จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปเช่นกัน

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงวันที่ 23 เมษายน 2566 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 85,586 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 38,749 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 46,837 ล้านบาท

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น