“กรณ์” จวก ก.พลังงาน เกรงใจทุนใหญ่ ปล่อยค่าไฟพุ่ง ไร้มาตรการเยียวยาประชาช

"กรณ์" จวก ก.พลังงาน เกรงใจทุนใหญ่ ปล่อยค่าไฟพุ่ง ไร้มาตรการเยียวยา

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมดีเบต “เวลาของเศรษฐกิจปากท้อง” ทางช่อง 3 ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยได้หยิบยกประเด็นค่าไฟแพงมาดีเบต โดยนายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้าแพง รัฐบาลแก้ได้ทันที แต่ไม่ยอมแก้ เพราะเกรงใจทุนใหญ่ และโครงสร้างระบบพลังงานมีปัญหา เพราะค่าไฟ สะท้อนปัญหาระบบโครงสร้างของเศรษฐกิจเรา พรรคชาติพัฒนากล้า เรียกร้องมาตั้งแต่ค่าการกลั่น ราคาน้ำมันแพงเกินจริง ถ้าแก้วันนั้นสามารถลดราคาทันที 8 บาท ก็ไม่ทำ เราเสนอให้เก็บภาษีลาภลอย ก็ไม่ทำ ซึ่งเรื่องนี้ รมว.พลังงาน ไม่ชี้แจง และไม่ยอมมาขึ้นเวทีดีเบตที่ไหนเลย ค่าไฟฟ้ามีปัญหาตั้งแต่เดือนมีนาคม ถ้าดำเนินการตอนนั้น วันนี้ก็ไม่ต้องมาเสนอ กกต.ขอใช้งบกลางเพื่อช่วยลดภาระให้กับประชาชน ซึ่งมันไม่ใช่ทางออก

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหาค่าไฟเป็นประเด็นที่ รมว.พลังงาน ยังไม่ได้ตอบคือ ค่าก๊าซที่ทาง กฟผ.ซื้อแพงกว่าปิโตรเคม เพราะต้นตอปัญหามาจากการผูกขาด ต้องมาดูว่าใครมีอำนาจขายก๊าซแต่เพียงผู้เดียว ดูว่าใครถือหุ้นใหญ่จะได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ตรงจุด พรรคชาติพัฒนากล้าเราเสนอให้ยกเว้นค่าเอฟทีไปเลย 3 เดือน เพราะขณะนี้ต้นทุนก๊าซลดลงอย่างรวดเร็ว กำลังการผลิตในอ่าวไทยก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และตอนที่ผลิตได้ลดก็เพราะความผิดพลาดที่มีการโอนสัมปทานให้เชฟรอน ทำให้ต้องไปนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี ในช่วงที่มีราคาแพงมากเนื่องจากภาวะสงคราม มันไม่ใช่ความผิดของประชาชนแต่ถูกโยนให้แบกภาระต้นทุนค่าไฟอย่างไม่เป็นธรรม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างทีการดีเบตดำเนินการไปอย่างเข้มข้น นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงงาน ได้โทรศัพท์เข้ามาเพื่อขอชี้แจง โดยผู้เข้าร่วมดีเบตทุกคนต้องการให้นายสุพัฒน์พงษ์ เข้ามาชี้แจงเอง แต่เจ้าตัวบอกติดภารกิจที่พรรคจึงไม่สะดวก จึงขอชี้แจงทางโทรศัพท์แทน ซี่งนายกรณ์ ได้ถามว่า ทำไมถึงเพิ่งเริ่มคิดเยียวยาค่าไฟในช่วงนี้ ซึ่งในสุพัฒน์พงษ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และที่ต้องขึ้นค่าไฟเดือนพฤษภาคม ก็เพราะกว่าจะทราบว่าต้นทุนค่าไฟเท่าไรคือวันที่ 1 เมษายน ซี่งนายกรณ์ บอกว่าตนทราบว่า กกพ.มีมติจะขึ้นค่าไฟตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะทราบเดือนเมษายน เพราะมติ กกพ.ออกมาวันที่ 22 เมษายน มีการอนุมัติราคาใหม่มาแล้ว พอมีการท้วงติงท่านก็ลนลานมาแก้ปัญหาลดราคาให้ประชาชน 2 สตางค์ แต่ไม่ได้มีมาตรการชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนแต่อย่างใด

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการลงนามในสัญญากับเอกชนผลิตไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ซึ่งเป็นความผิดปกติ และผิดพลาด ที่ทำให้ต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้น แล้วโยนภาระนี้ให้ประชาชนแบกมันไม่เป็นธรรม เราตกอยู่ในสภาพที่ทุนใหญ่อยู่เหนือการเมืองผูกขาดมาโดยตลอด ทางออกในเรื่องนี้คือต้องเปลี่ยนผู้มีอำนาจในรัฐบาล ที่เชื่อมโยงกับทุนผูกขาด เพื่อให้การเมืองเป็นอิสระจากทุนผูกขาดทุกรูปแบบ

 

ต่อข้อถามที่ว่า เวลานี้เศรษฐกิจประเทศดีขึ้นหรือยัง นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า เวลานี้เศรษฐกิจไทยยังไม่ดี ประชาชนยังมีปัญหาความเดือดร้อนอยู่ เราต้องมีมาตรการออกมาแก้ปัญหา ซึ่งก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่าวิกฤตก่อนว่าคืออะไร ในช่วงวิกฤตโควิด จีดีพีติดลบ 6% เวลานั้นมีกระสุนต้องใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้มีการบริโภค แต่ก็ต้องเก็บกระสุนไว้สำรองไว้ใช้ด้วย รัฐบาลมีนโยบายดีหลายอย่างที่สร้างรายได้เข้าประเทศ เช่น การผลิตรถยนต์อีวี แต่ถามว่า เราจะขายใคร และกำไรเป็นของใคร ประชาชนเขาเข้าไม่ถึง พรรคชาติพัฒนากล้า จึงได้มีข้อเสนอส่งเสริมให้ประชาชน มีโอกาสแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เขามีส่วนร่วมได้ ทำในเรื่องที่อยู่ในกระแสหลักของโลก และเราถนัด คือ เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางกเกษตร ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อดึงรายได้จากต่างประเทศเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศ

“การท่องเที่ยวมี 3 เรื่องที่พรรคชาติพัฒนากล้าเสนอ คือ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพิ่มเวลาอยู่ในประเทศไทย เพิ่มเงินที่เขาใช้ นอกจากนี้ยังได้เสนอนโยบาย 7 เฉดสี ยกตัวอย่างเฉดสีเทา เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี นำธุรกิจที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน ดีกว่าปล่อยให้อยู่ในมือของผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นที่มาเงินสกปรก และออกใบอนุญาต คาสิโนรีสอร์ท จะมีทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นนับสิบล้านคน เศรษฐกิจเฉดสีขาว การท่องเที่ยวสายมูทุกจังหวัดทั่วประเทศ ส่งเสริมการลงทุนในเส้นทางคมนาคม พื้นที่ตลาด เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย สุดท้ายคือ รื้อโครงสร้างลดต้นทุนค่าครองชีพ เพิ่มโอกาสให้พี่น้องประชาชน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่
"ทรัมป์" บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก "ยูเครน" ขู่ปิดเน็ต Starlink
เอาจริง "ตร.ปอท." บุกจับ 2 แอดมินเพจ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลาง เกือบ 2 พันชิ้น
“ภูมิธรรม" เดินหน้าปราบแก๊งคอลฯ ผนึกกำลังเพื่อนบ้าน ปิดช่องโหว่ อาชญากรข้ามชาติทุกช่องทาง
ย้อนเกล็ดแสบ "จีน" ส่งเรือรบติดขีปนาวุธ3ลำประชิดออสซี่ อ้างซ้อมรบใช้กระสุนจริง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น