เป็นอีกครั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคดี ออกมาโพสต์จะกลับบ้าน หลังได้หลานคนที่ 7 เมื่อลูกสาวสุดที่รัก อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้คลอดลูกชาย น้องธาษิณ หรือ เด็กชายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ 1 พฤษภาคม 2566
การออกมาบอกว่าจะกลับบ้านของนายทักษิณต้องบอกว่า นายทักษิณพูดออกมาจากปากมาแล้วหลายสิบครั้ง ตั้งแต่เดินทางออกจากประเทศไทยไปแบบไม่มีวันกลับ เมื่อเดือนกรกฏาคม 2551 ด้วยข้ออ้างไปร่วมพิธีเปิดงานกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศจีน ระหว่างในวันที่ 5-10 สิงหาคม 2551 แต่ความจริงคือต้องการหลบหนีคดี เพราะท้ายที่สุดนายทักษิณไม่ยอมกลับมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกานักการเมือง ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ร่วมกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา โดยศาลอ่านคำพิพากษาลับหลัง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ตัดสินให้จำคุกนายทักษิณ 2 ปี ส่วนคุณหญิงพจมาน ยกฟ้อง
หลังจากนายทักษิณหลบหนีอาญาแผ่นดินไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ นายทักษิณกลับไม่ปล่อยวางทางการเมือง แต่ยังต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อหาทางกลับบ้านให้ได้โดยไม่ต้องติดคุก โดยนายทักษิณใช้สารพัดวิธีเพื่อตอบสนองความต้องการอันสูงสุดของตัวเอง ซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศ และสถาบันหลักของชาติ ไล่มาตั้งแต่บงการให้สมุนจัดตั้งมวลชนมาเคลื่อนไหวทางการเมืองคือ กลุ่มนปช. หรือ คนเสื้อแดง โดยมอบภารกิจแรกต้องโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้ได้ เพราะช่วงชิงอำนาจไปจากรัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่เป็นนอมินีของตัวเอง
จากนั้นปี 2552 เป็นต้นมาบ้านเมืองก็เกิดวุ่นวาย กลุ่มนปช.เคลื่อนไหวชุมนุมป่วนเมือง นายทักษิณวิดีโอคอลมายังเวทีปราศรัยปลุกระดมเป็นระยะ เกิดเหตุการณ์ไล่ล่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ที่กระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2552 เพื่อล้อมจับนายอภิสิทธิ์ และยังใช้อาวุธทำร้าย นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาฯนายกฯในขณะนั้นจนได้รับบาดเจ็บ เท่านั้นไม่พอยังใช้ก้อนหินทำลายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทะเบียน ศฮ 9205 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งนายกฯ ที่มีนายนิพนธ์ นั่งอยู่ในรถ ต่อมากลุ่มเสื้อแดงยังบุกสร้างความวุ่นวายล้มประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2552 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ต่างชาติถึงกับเรียกว่าเป็น “โศกนาฏกรรมของไทยและอาเซียน” โดยสาเหตุที่มวลชน นปช.บ้าเลือดในวันนั้น ก็เพราะนายทักษิณสั่งให้นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแดงที่รับผิดชอบงานนี้อย่างเด็ดขาดว่า “ผมแพ้ไม่ได้ ประท้วงแล้ว ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมา” ทั้งนี้การชุมนุมของกลุ่มนปช. ยังก่อกำเนิดกองกำลังชายชุดดำเข้ามาแฝงตัว เพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ทั้งกับมวลชนฝ่ายตัวเองและกับเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่เป็นฝันร้ายของคนไทยมากที่สุดคือ การเผาบ้านเผาเมือง ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553
