วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องนี้หลังท่านนายกฯเซ็นหนังสือให้คณะกรรมการอิสระพิจารณา ให้ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย กลับเข้าไปทำไร่หมุนเวียนในพื้นที่ป่าลึกได้อีกนั้น ตนในฐานะคนเพชรบุรี และผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ขอชี้แจงว่ามติหรือเอกสารดังกล่าวยังไม่เคยผ่านมติคณะกรรมการเห็นชอบจากสำนักอุทยานแห่งชาติแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทางคณะกรรมการที่ตรวจสอบเรื่องนี้มา ไม่มีคณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง และไม่มีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ และคณะกรรมการของกระทรวง เข้าไปเกี่ยวข้องในการร่วมพิจารณาเรื่องนี้ด้วย ที่จะเข้าไปดำเนินการเปิดพื้นที่ป่าใหม่ว่าทำได้หรือไม่ พื้นที่ดังกล่าวนั้นศาลได้ตัดสินไปแล้วว่า เป็นพื้นที่ป่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถที่จะสั่งหรือให้บุคคลอื่นๆกลับเข้าไปอยู่ในที่เดิมได้ กรณีนี้ต้องศึกษาและพิจารณาอย่างละเอียดเป็นสำคัญ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่เป็นมรดกโลกนั้นมีความละเอียดอ่อน การที่สั่งให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าไปดำเนินการ หรือมีคำสั่งและเอกสารดังกล่าวให้เข้าไปดำเนินการได้นั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตนในฐานะคนเพชรบุรีและอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ทราบเรื่อง ราวนี้ทั้งหมดแล้วเรื่องนี้ไม่ชอบด้วยระเบียบ และก็ไม่เห็นด้วยกับการออกคำสั่งดังกล่าว ยืนว่า จะต้องต่อสู้เรื่องนี้อย่างที่สุดในนามของคนเพชรบุรี โดยกลุ่มชาติพันธุ์ชาวบ้านโป่งลึก บางกลอยนี้ได้อาศัยอยู่ด้วยระเบียบมาตรา 64 ที่คุ้มครองชาวบ้านอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ให้สิทธิ์ทำกินตามปกติ หากมาตรฐานมาตรา 64 ดำเนินการแล้วเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่จะพัฒนา สาธารณูปโภค อาชีพ และด้านการพัฒนาที่ดินให้แก่ชาวบ้านตามลำดับ หากเข้าใจในข้อนี้ และอาศัยอยู่ในที่ดินที่ทำกินไม่มาก เราต้องใช้โมเดลหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 มาช่วยเหลือ หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานพร้อมที่จะไปช่วยเหลืออยู่แล้ว สำหรับการให้ไปเปิดพื้นที่ป่าใหม่นั้นผิดกฎหมายแน่นอน
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เผยมติให้ชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอย กลับเข้าไปพื้นที่ป่าลึกได้อีก ยังไม่เคยผ่านมติคณะกรรมการเห็นชอบจากสำนักอุทยานแห่งชาติแม้แต่ครั้งเดียว ด้านนายพงศ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านกระเหรี่ยงบางกลอย กล่าวว่ามีที่ทำกินแล้วแต่ไม่เพียงพอ
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้านนายพงศ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร อายุ28 ปี ชาวบ้านกระเหรี่ยงบางกลอย กล่าว่า สำหรับกลุ่มชาวบ้านที่จะขึ้นไปกลางป่าใจแผ่นดินนั้นเป็นกลุ่มที่ไม่มีที่ทำกิน และกลุ่มที่มีที่ทำกินแล้วแต่ไม่เพียงพอประมาณ 3-4 ครอบครัว อยากปลูกข้าวไร่กินเนื่องจากอยู่ที่โปร่งลึก บางกลอยทำเกษตรเชิงเดี่ยวไม่ถนัด ถ้าหากปลูกทุเรียนต้องใช้ต้นทุนสูง แต่ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำไม่มีกำลังพอที่จะ ปลูก ส่วนกรณีที่รัฐจัดสรรที่ดินทำกินให้ชาวบ้านต้องขอบอกตรงๆว่า สมัยก่อนชาวบ้าน ชุดที่57ครอบครัวแรกได้รับการจัดสรรที่ดินจริง แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า ไม่ได้ออกมารับการจัดสรรที่ดินทำ พอลงมาทีหลังก็เลยตกหล่นไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินสมัยก่อนยังไม่มีเทคโนโลยีในการรังวัดที่ดิน หรือ GPS เจ้าหน้าที่ได้ใช้สายตาวัดกับพื้นที่เอาให้ชาวบ้านได้ทำกินซึ่งบางครอบครัวได้เพียง 3ไร่ ส่วนประเด็นที่ชาวเพชรบุรีไม่พอใจที่ชาวบ้านอาจจะได้ไปอยู่ในป่าลึกอีกครั้งและได้ที่ทำกินเพิ่มหากได้เพิ่มชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่ก่อนประกาศเป็นอุทยานนั้น ตนคิดว่าต้องแยกแยะว่าคนไทยกลุ่มนั้นอยู่ที่ไหน มาจากไหน แต่ถ้าเป็นต้นกำเนิดของตนนั้นอาศัยอยู่มาตั้งแต่ พ.ศ 2484 เรื่องนี้ชาวบ้านอยากกลับขึ้นไปเยอะตนกังวลว่าการที่ไปอยู่รวมกันเยอะๆ จะไม่สามารถควบคุมได้ต้องมีกฎระเบียบควบคุมดูแล จึงเอาแค่เฉพาะชุดเดิมที่เคยขึ้นไปก่อนเพื่อทดลองอาศัยอยู่จริง ชาวกะเหรี่ยงหากไม่มีวิถีชุมชนจะลำบาก ปัจจุบันเสื้อผ้าทอมือของชาวกะเหรี่ยง ชาวบ้านแทบจะทำไม่เป็นแล้วต้องไปจ้างให้เขาทอผ้าก่อนนำมาขาย คนในหมู่บ้านไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทอเพราะ ชาวบ้านไม่ได้ทำไร่หมุนเวียนแล้ว เสื้อผ้าทอมือกะเหรี่ยงมาจากการปลูกฝ้าย ก่อนนำฝ้ายมาปั่นเป็นเส้นด้ายก่อนนำไปทอเป็นเสื้อผ้า สำหรับการที่ชาวบ้านขึ้นไปอยู่ใจกลางป่าลึกขัดต่อกฎหมายนั้น ต้องดูว่ามีกฎหมายข้อไหนบ้าง ไล่ชาวบ้านออกจากที่ดั้งเดิม และมี พรบ.อุทยานฉบับไหนที่ให้ชาวบ้านออกจากที่ดั้งเดิมของเขาซึ่งตนรู้สึกว่าที่ผ่านมาไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม เช่นการเข้าออกหมู่บ้านของเราเอง ที่ต้องโดนปิดกั้น ห้ามเข้าออกเขตอุทยานฯ หลัง 22.00 น. ชาวบ้านคิดว่าแต่เดิมต้องปลูกข้าวกินเองได้แต่ปัจจุบันนี้ต้องออกไปรับจ้างในเมืองเอาเงินมาซื้อข้าวกิน หลังจากนี้จะดูว่าคณะเขาทำงานอิสระมีแนวทางช่วยเหลือแบบไหน ทางชาวบ้านก็เตรียมรับมือว่าจะจัดการบริหารกลุ่มชาวบ้านที่ขึ้นไปอาศัยอยู่ใจกลางป่าอย่างไร
ขณะที่นายศศิล เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวสั่นๆว่า ตนไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพียงแต่ยากจะถามนายกว่าเอากฎหมายข้อไหนมาดำเนินการเรื่องนี้ ร่วมทั้งให้นายกไปถามท่าน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ว่าเรื่องนี้ได้ดำเนินการไปเรียบร้อย และเป็นอย่างไรไปแล้ว
บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าว จ. เพชรบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง