IBM บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐ วางแผนหยุดการจ้างงานกว่า 8 พันตำแหน่ง และแทนที่คนด้วย AI และระบบอัตโนมัติในอีก 5 ปีข้างหน้า
IBM บริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ วางแผนที่จะหยุดการจ้างงาน ในตำแหน่งที่สามารถใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ให้ทำงานแทนได้ อนาคตอันใกล้
อาร์วินด์ กฤษณะ ซีอีโอของ IBM กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า บริษัทจะหยุดการจ้างงานกว่า 8 พันตำแหน่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และแทนที่ด้วย AI และในส่วนของการทำงานเบื้องหลัง เช่น แผนกทรัพยากรบุคคล ซึ่งไม่ใช่งานที่ต้องติดต่อกับลูกค้า บริษัทมีแผนที่จะชะลอหรือระงับการจ้างงานทั้งหมดราว 2 หมื่น 6 พันตำแหน่ง โดย 30 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วย AI ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี โฆษกของIBM ยืนยันว่า บริษัทจะไม่ไล่พนักงานที่ทำหน้าที่เหล่านี้ออก แต่ชี้ว่าจะไม่มีการรับคนเพิ่มในตำแหน่งเดิม หากมีการลาออก อีกทั้งระบุว่า บริษัทยังคงเปิดรับพนักงานเพิ่มเติมหลายพันตำแหน่งในส่วนอื่นๆที่จำเป็น
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม รายงานที่เผยแพร่โดยทีมวิจัยเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs เตือนว่า ความก้าวหน้าล่าสุดของ Generative AI ที่มีความสามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวเองจากชุดข้อมูลที่มีอยู่ เช่น ChatGPT ที่ได้รับความนิยม ในไม่ช้าอาจทำให้เกิดการหยุดจ้างงานครั้งใหญ่ในตลาดแรงงาน ซึ่งนักวิจัยกล่าวว่า คนทำงาน 300 ล้านคนทั่วโลกอาจถูกแทนที่ด้วย AI พร้อมยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า Generative AI ในปัจจุบันสามารถทำงานได้ถึง 1 ใน 4 ของงานปัจจุบัน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กลุ่มนักวิจัยด้าน AI ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยี และนักอนาคตอื่น ๆ กว่า 1 พัน 100 คน รวมถึง อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่า และ สตีฟ วอซเนียก ผู้ร่วมก่อตั้ง แอปเปิล ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึก เพื่อเรียกร้องให้มีการเลื่อนพัฒนา AI ออกไปเป็นเวลา 6 เดือน เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์นี้ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างร้ายแรง ต่อสังคมและมนุษยชาติ