“รพี” ไม่เชื่อ “แอม ไซยาไนด์” ลงมือคนเดียว ตั้งข้อสังเกต “อดีตสามีตร.” มีส่วนรู้เห็นด้วย

"รพี" ไม่เชื่อ "แอม ไซยาไนด์" ลงมือคนเดียว ตั้งข้อสังเกต "อดีตสามีตร." มีส่วนรู้เห็นด้วย

จากกรณีที่มีการเรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดี “แอม” หรือ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีวางยาเหยื่อเสียชีวิตกว่าสิบราย โดยมีคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดทำคดีของกองปราบปราม และแต่ละท้องที่เกิดเหตุร่วมประชุมนั้น

ขณะที่ทางด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาประชุม พร้อมกับเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้จะเร่งรัดคดีให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นยอดของเหยื่อแอมที่เสียชีวิตอยู่ที่ 14 คน (ในสำนวน) และมีผู้รอดชีวิต 1 คน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยล่าสุดได้ออกหมายจับแอมแล้ว 10 คดี ซึ่งได้แจ้งข้อหาไปแล้ว และได้อายัติตัวตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะนี้ยังเหลืออีก 4 คดี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ครบถ้วน พร้อมยืนยันทั้ง 10 คดี พยานหลักฐาน พบว่าแอมเป็นคนฆ่า ส่วนจะเป็นการฆ่าด้วยวิธีใด มีหลากหลายพฤติกรรม ทั้งให้กินยาสมุนไพรแคปซูล อ้างว่าป้องกันโควิด รวมถึงใส่ในอาหารและใส่ในเครื่องดื่ม โดยตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่ส่งให้ศาล ทั้งผลการผ่าชันสูตรศพ และพยานแวดล้อมที่ให้การไปในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงตัวแอมทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุอีกว่า จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ร่วมหรือให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือหรือร่วมกันกระทำความผิดกับแอมครั้งนี้ด้วย

เบื้องต้นจากพยานหลักฐาน พบว่า เป็น “ตำรวจ” 1 นาย และถือว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดที่เคยเรียกมาสอบปากคำก่อนหน้านี้ โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ และพฤติกรรมอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจน เบื้องต้นทางตำรวจมีหลักฐานชัดเจน โดยตำรวจจะขอศาลออกหมายจับภายในเร็ววันนี้

ซึ่งสอดคล้องกับ นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า “แอม ไซยาไนด์” อาจจะไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว แต่อาจจะมีคนใกล้ชิดรู้เห็น โดยบุคคลนั้น จะใช่พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีนางสรารัตน์ หรือแอม หรือไม่นั้น แต่ตนไม่ขอก้าวล่วง ปล่อยให้เป็นขั้นตอนของตำรวจในการสืบสวนขยายผลต่อไป เพื่อให้ความจริงในครั้งนี้เกิดความกระจ่าง และเกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต

 

 

 

 

 

 

นายรพี ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากการติดตามข่าวสารจากสื่อมวลชน เกี่ยวกับการเข้าให้ปากคำกับตำรวจนั้น ทางพ.ต.ท.วิฑูรย์ ยอมรับว่า เคยคบหากัน แต่มีเรื่องขัดแย้งกันมาโดยตลอด จากนั้นจึงตัดสินใจหย่าร้าง แต่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านเดียวกันเพื่อดูแลลูก

ที่ผ่านมาได้ให้เงินกับแอมเพื่อใช้จ่าย ซึ่งแอมนำไปปล่อยเงินกู้ และโอนเงินกลับมาให้ตามเส้นทางการเงินที่พนักงานสอบสวน ได้ทำการตรวจสอบ ก็คงต้องรอว่า ทางตำรวจจะสรุปความเห็นอย่างไร

และจากกระแสข่าวที่ระบุว่า ภายใน 1-2 วันนี้ ตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับ คนสนิทเพิ่มเติม ในข้อหายักยอกทรัพย์ การใช้เอกสารราชการปลอมเรื่องการสวมทะเบียนรถ ส่วนข้อหาร่วมกันฆ่า ซึ่งเป็นข้อหาหลัก อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นอดีตสามีของผู้ต้องหาหรือไม่

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิชัย" นำทีมพณ.หารือ "หอการค้า-บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น" ชี้ชวนขยายลงทุนในไทย
"ทนายเดชา" เตือนนักร้องเรียน ระมัดระวังปาก ร้องเรื่องไม่มีสาระ กลั่นแกล้งคนอื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย
กทม.จ่อบังคับฝังชิป "สุนัข-แมว" ห้ามเลี้ยงเกินจำนวนที่กำหนด พร้อมคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ
"ดร.ศักดิ์ณรงค์" จี้รบ.ต้องยกเลิก MOU 44 โดยเร็ว หวั่นเสียอาณาเขตอธิปไตย ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เขาพระวิหาร
“เจ๊อ้อย” รับใจสลาย ยันไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาทโดยเสน่หา ลั่นไม่มีเจรจายอมความ ดำเนินคดีถึงที่สุด
ระทึก เกิดไฟช็อตสายไฟ ลามเข้าบ้านเผาวอดทั้งหลัง เจ้าของบาดเจ็บ ตร.เร่งหาสาเหตุ
"กรมอุตุฯ" เผยเตรียมรับมืออากาศหนาว เตือน 29 จว. ฝนฟ้าคะนอง กทม.ฝนร้อยละ 20 ของพื้นที่
หนุ่ม ขี่จยย. พุ่งชนท้ายรถพ่วง ดับสลดคาที่
ต่างชาติแหกด่าน พุ่งชน รอง สว.จร.สภ.พัทยา สาหัส ก่อนวิ่งหนีเข้าป่า ลงทะเลล้างตัวตบตาเจ้าหน้าที่
สพฐ. เติมความเท่าเทียม สร้างโอกาส สานฝัน รร.โมโกรวิทยาคม และ รร. ตชด. ผ่าน online สนุกกับการเรียนรู้กับเครือข่ายครูชื่อดังระดับประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น