จากกรณีที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม ขอฝากขังครั้งที่ 1 พ.ต.ท.วิฑูรย์ ผู้ต้องหา ถูกกล่าวหาร่วมกันรับของโจร ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2566 โดยศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
จนท.นำตัว “รองผกก.” อดีตสามี เข้าพบ “แอม ไซยาไนด์” ในเรือนจำ เตรียมเกลี้ยกล่อมให้รับสารภาพ
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่อมาภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมแสดงความยินยอมติดอุปกรณ์กำไล EM ระหว่างการปล่อยชั่วคราวด้วย โดยศาลพิจารณาแล้ว เห็นว่าสอบผู้ร้องแล้วได้ความว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบสวนคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.2566
จนถึงปัจจุบันยังไม่พบพยานหลักฐานที่บ่งชี้หรือยืนยันว่าผู้ต้องหามีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม มีเพียงความเกี่ยวพันเฉพาะคดีนี้ ประกอบกับเจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นบ้านพักที่ผู้ต้องหากับ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด รวมทั้งผู้ต้องหายินยอมที่จะเข้าเกลี้ยกล่อม น.ส.สรารัตน์ หรือแอม เพื่อให้สารภาพถึงสาเหตุการลงมือสังหารเหยื่อด้วย
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้นำตัวรอง พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “รองอ๊อฟ” อดีตสามีแอม นั่งรถตู้ เข้ามาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ตามที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ โดย “รองอ๊อฟ” สวมเสื้อสีขาวและนั่งอยู่ริมหน้าต่างรถตู้ ก่อนจะลงรถแล้วเดินเข้าไปด้านในเรือนจำเพื่อพบอดีตภรรยา
โดยพนักงานสอบสวน จะสอบปากคำแอมเพิ่ม ในบางประเด็นที่มีข้อสงสัย ทั้งหมดเกี่ยวกับแอม เพื่อใช้สำหรับการสืบสวน ทั้งเรื่องการปล่อยเงินกู้ การรับจำนำ การที่รองอ๊อฟขับรถไปรับแอมหลังนายแด้เสียชีวิต หรือการที่แอมนำสร้อยทอง ไปจำนำตามโรงรับจำนำต่างๆ เป็นต้น ส่วนผู้ต้องหาจะให้การเป็นประโยชน์มากน้อยหรือไม่เพียงใดนั้น ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง