นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า สำหรับแผนการให้บริการวัคซีน โควิด-19 โดยสรุปผลการฉีดวัคซีนข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค.จำนวนวัคซีนที่ให้บริการทั้งสิ้น 23,592,227 โดส ผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มจำนวน 17,996,826 คน ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มจำนวน 5,109,476 คน และผู้ได้รับวัคซีนไขว้เข็มหนึ่งและเข็มสอง แอสตราเซเนกา และซิโนแวค จำนวน 974,563 คน โดยยังไม่พบอาการที่ไม่พึงประสงค์และอาการที่รุนแรง ส่วนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยแอสตราเซเนกา จำนวน 195,520 คน
โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอในที่ประชุมศบค.ว่า เป้าหมายจะต้องหาวัคซีนบริการอย่างน้อย 10 ล้านโดสภายในเดือนก.ย.และเร่งฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี กลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรคและหญิงตั้งครรภ์ โดยการฉีดวัคซีนในเดือนก.ย.จะปูพรหมทุกจังหวัด โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและรองรับแผนเปิดการท่องเที่ยว โดยในกรุงเทพฯ จะแบ่งวัคซีนไป 15 เปอร์เซ็นต์ และในอีก 76 จังหวัด อีก 75 เปอร์เซ็นต์ และจังหวัดที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 10 จังหวัดอีก 8 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ อีก 2 เปอร์เซ็นต์
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการจัดหาวัคซีนในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.เพื่อนำมาใช้ในช่วงที่ระยะเวลาที่วัคซีนมีจำกัดเพิ่มเติม เนื่องจากปัญหาสายพันธุ์เดลตา ที่วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้น้อยจึงควรเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มความครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายซึ่งต้องได้วัคซีน 100 ล้านโดสภายในปี 2564 โดยการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มจากบริษัทผู้ผลิตที่สามารถส่งมอบวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด ได้แก่ จองซื้อวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดส (ผ่าน ศบค.เมื่อวันที่1 ส.ค.ที่ผ่านมา) ให้โครงการเภสัชกรรมจัดหาวัคซีนซิโนแวค เพิ่มเติมอีกจำนวน 12 ล้านโดส และให้เจรจาจัดหาวัคซีนอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดสภายในปี 2564