“ดร.สามารถ” นำทีมปชป.ลงพื้นที่เส้นทางรถไฟฟ้าสีส้ม ห่วงโครงการล่าช้า ขอโอกาสพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาทันที

"ดร.สามารถ" นำทีมปชป.ลงพื้นที่เส้นทางรถไฟฟ้าสีส้ม ห่วงโครงการล่าช้า ขอโอกาสพร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาทันที

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 17.00 น. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน นายประเสริฐ ทองนุ่น และ ดร.รุจชรินทร์ ทองใหญ่ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ ร่วมกับ ประพฤติ ฉัตรประภาชัย ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 1 เขต 14 ซึ่งประกอบด้วยเขตบางกะปิ และเขตวังทองหลาง (เฉพาะแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม บริเวณสถานีรามคำแหง

 

 

ดร.สามารถ กล่าวว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) ใกล้เสร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้ได้ เพราะไม่มีผู้เดินรถไฟฟ้า เนื่องจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังไม่สามารถหาเอกชนมาร่วมลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมฯ) และเดินรถตลอดสายทั้งช่วงตะวันออกและช่วงตะวันตกได้ เพราะยังมีการฟ้องร้องขอความเป็นธรรมจากการประมูล รฟม. จึงไม่สามารถเซ็นสัญญากับเอกชนที่ รฟม. คัดเลือกไว้ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ดร.สามารถ ยังกล่าวอีกว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร มีเส้นทางผ่านพื้นที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ศูนย์วัฒนธรรมฯ วัดพระราม 9 มหาวิทยาลัยรามคำแหง แยกลำสาลี หมู่บ้านสัมมากร และเคหะรามคำแหง เป็นต้น หากเปิดให้บริการคาดว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นทางที่มีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ กับสายสีเหลืองที่สถานีแยกลำสาลี และกับสายสีชมพูที่สถานีมีนบุรี ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารประหยัดเวลา ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดมลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 แต่น่าเสียดายที่การประมูลมีปัญหา มิฉะนั้น พี่น้องประชาชนสองฝั่งรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกจะได้ใช้รถไฟฟ้าในอีกไม่นาน

 

 

ดร.สามารถ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ที่ผ่านมามีพี่น้องประชาชนจำนวนมากสอบถามผมมาว่าเมื่อไหร่จะได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกเสียที ? พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นบทบาทความสำคัญของรถไฟฟ้าสายสีส้มในการขนผู้โดยสารระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เราพร้อมที่จะผลักดันให้มีการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกโดยเร็ว และที่สำคัญ จะพยายามหาทางไม่ให้รัฐต้องเสียเงินค่าก่อสร้างแพงเกินความจำเป็นตามที่มีข่าวว่ารัฐอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นถึง 6.8 หมื่นล้านบาท”

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น