นายเมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรเคีย ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฮาเบอร์เติร์ก ของตุรเคียว่า สหรัฐพยายามเข้าหาตุรเคีย ด้วยความหวังว่า ตุรเคียจะอนุญาตให้สหรัฐ เข้าถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่ผลิตในรัสเซีย โดยสหรัฐได้ยื่นข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตย และความเป็นอิสระของตุรเคียโดยตรง ด้วยการให้ตุรเคียควบคุมระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 นำไปส่งมอบให้ยูเครน แต่ตุรเคียได้ปฏิเสธไป และตอนนี้ ตุรเคียก็ไม่สนใจโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐอีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้ ตุรเคียกำลังดำเนินการสร้างเครื่องบินทหารของตนเองอยู่
ทั้งนี้ คำสัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สื่อตะวันตกหลายสำนักรายงานว่า สหรัฐได้เสนอให้ตุรเคีย กลับเข้าสู่โครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐอีกครั้ง เพื่อแลกกับการให้ส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ไปให้ยูเครน ซึ่งในตอนนั้น ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน แห่งตุรเคีย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์อย่างชัดเจนว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 เป็นทรัพย์สินของตุรเคีย ที่มีไว้ป้องกันประเทศ
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2020 สหรัฐปฏิเสธที่จะส่งมอบเครื่องบินที่สั่งซื้อไปแล้ว ให้กับตุรเคีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของนาโต โดยอ้างว่า การที่ตุรเคียไปซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 มาจากรัสเซีย ในปี 2019 นั้น ถือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐ