วันที่ 8 พ.ค. 66 นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งส.ส. ว่า ตนเขียนบทความ “กองไฟในหีบบัตรเลือกตั้ง” ซึ่งหมายความว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการให้เลือกว่าใครจะเป็นรัฐบาลดี แต่มันจะกลายเป็นว่าเลือกเกลียด ถ้าเกลียดอำมาตย์ เกลียดทหาร ก็เลือกส้ม เลือกแดง หากเกลียดคนชังชาติ คนขี้โกงก็เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะฉะนั้นความร้อนอยู่ในหีบเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งแล้วความร้อนตรงนี้จะลุกลาม แพ้ไม่เป็นแพ้ ชนะไม่เป็นชนะ มันจะยุ่งไปหมด วันนี้ก็เลยรับมาขยายความให้ทุกคนทราบ ว่ามันมีกองไฟอยู่ในหีบเลือกตั้ง ซึ่งคนในครอบครัวของผมเลือกส้มเยอะ แล้วเราก็ไม่ได้ว่ากัน เราต้องอยู่ในรั้วบ้านนี้ต่อไปเหมือนกัน และจะทำยังไงความร้อนลดลง
นายแก้วสรร กล่าวว่า การจะลดความร้อนได้ต้องมี 3 อย่า ประกอบด้วย 1. อย่างี่เง่า หมายถึง กกต. เจอกับงานหนักมาก จะทำยังไง อย่าคิดโกงเลือกตั้ง อย่าเป็นเครื่องมือของใคร กกต.ต้องทำงานสุจริต หาก กกต.จัดการเลือกตั้งเกิดความผิดพลาดเรื่องการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และอธิบายไม่ได้ จะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นกกต.ต้องทำงานให้รัดกุมและสุจริต ดึงนักสังเกตการณ์เลือกตั้ง เข้ามาช่วย ให้ตัวแทนพรรคการเมืองเข้ามาตรวจสอบ ต้องทำให้การเลือกตั้งโปร่งใสและให้ชาวบ้านเชื่อถือได้
2. อย่าดึงดัน หมายถึงพรรคการเมือง แพ้เป็นแพ้ อย่าดึงดัน อย่าไปเอาเสียงวุฒิสมาชิก มาเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากทำอย่างนี้ ถ้าตนเป็น ส.ว.จะงดออกเสียง หากพรรคใดได้เสียงข้างมาก ก็ให้เป็นรัฐบาล อย่าดึงดัน เพราะประชาชนตัดสินแล้ว ฉะนั้นถ้าเอาเสียงวุฒิสภาเข้ามา รับรองว่าประชาชนจะออกมาเต็มถนน ทั้งส้มและแดงจะออกมา หากพล.อ.ประยุทธ์ ชนะการเลือกตั้งจริงๆ ประชาชนที่มาก่อม็อบก็ต้องหยุด ห้ามลงถนน หากลงถนนและถูกใส่ร้ายอีกเหตุการณ์จะวุ่นวาย