“ปลัดแรงงาน” สั่ง “กรมสวัสดิ์” จับมือประกันสังคม ลงพื้นที่ หาสาเหตุแท่งแบริเออร์พระราม 2 หล่นทับคนงานเสียชีวิต

"ปลัดแรงงาน" สั่ง "กรมสวัสดิ์" จับมือประกันสังคม ลงพื้นที่ หาสาเหตุแท่งแบริเออร์พระราม 2 หล่นทับคนงานเสียชีวิต

ปลัดกระทรวงแรงงานสั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) พร้อมด้วยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุแท่งแบริเออร์ทางด่วนหล่นทับคนงานเสียชีวิต ย่านพระราม 2 เรียกสอบนายจ้างวันศุกร์นี้ พร้อมช่วยเหลือลูกจ้างที่เสียชีวิต

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเหตุแท่งแบริเออร์ทางด่วนหล่น ย่านพระราม 2 เป็นเหตุให้คนงานเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาว่า ทันทีที่ได้รับรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานส่งพนักงงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 11 และสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสลิงเครนยึดตัวคานหลุดลงมา จนทำให้คานหล่นลงมา พร้อมกับคนงานทั้ง 2 ราย ที่ยืนอยู่ข้างบนคาน ทำให้ทับคนงาน 1 ราย เสียชีวิต และคนงานที่หล่นลงมาอีก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและสำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวต่อไปว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานในเบื้องต้นในเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงาน และจะมีหนังสือเชิญให้นายจ้างมาพบในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ เพื่อสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและตรวจสอบว่านายจ้างมีการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 และกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ในสถานที่ที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูงและที่ลาดชันจากวัสดุกระเด็น ตกหล่น และพังทลาย และจากการตกลงไปในภาชนะเก็บหรือรองรับวัสดุ พ.ศ. 2564 หรือไม่ หากพบว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ทันที

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการประกันสังคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 และ 10 ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายวรวุฒิ พานนนท์ อายุ 54 ปี เป็นผู้ประกันตน ซึ่งเบื้องต้นทายาทจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานเป็น ค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 1,092,000 และเงินบำเหน็จชราภาพ 71,669.27 รวมทั้งสิ้น 1,213,669.27 บาท ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย นายพลากร วงษ์นอก มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านแล้ว ซึ่งหากพบว่าเป็นผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างจะได้รับจากกองทุนเงินทดแทน โดยจะได้รับค่าทดแทนกรณีหยุดพักรักษาตัวร้อยละ 70 ของค่าจ้าง รวมถึงค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฝนตกหนัก "อนุทิน" กำชับ "ผู้ว่าฯ เชียงราย" ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำสายใกล้ชิด
"รมว.สุดาวรรณ" นำชมนิทรรศการ สาธิตวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมโดดเด่นชาวนครพนม ชูเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม 7 วันสักการะ 8 พระธาตุประจำวันเกิด
"สรรเพชญ" ผนึก "สุพิศ" นายกอบจ.สงขลา ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาท้องถิ่นทุกมิติ มั่นใจยกระดับคุณภาพชีวิตปชช.
"นฤมล" ลงพื้นที่เยี่ยมชาวสวนลิ้นจี่ นครพนม ชื่นชมสร้างมูลค่าส่งออก ยันพร้อมหนุนทุกปัจจัย ดูแลผลไม้ไทย
สส.สัตหีบ เร่งประสานอีสวอเตอร์ แก้ไขปัญหาท่อน้ำประปาแตกบ่อย น้ำไหลเบา เพิ่มแรงดันน้ำพื้นที่โซนสูง
"ศุภมาส" เดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power จัดแข่งวาดภาพ Thai Youth Street Art รุดให้กำลังใจ 6 สถาบัน เข้าประชันฝีมือ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดกิจกรรมคลายร้อนให้สัตว์ ด้วยหวานเย็นผลไม้ พร้อมเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมธรรมชาติ
"สมศักดิ์" ให้กำลังใจทีมแพทย์- พยาบาล รพ.บึงกาฬ พร้อมเปิดห้องรับฟังความเห็น หลังเกิดปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน
กรรมการ บ.ไมนฮาร์ทฯ ผู้รับออกแบบตึกสตง. ให้ข้อมูลดีเอสไอ รับมีการสั่งแก้แปลนอาคาร ผนังปล่องลิฟท์ พร้อมร่วมมือให้ทุกอย่าง
PEA เตือนภัย! ประชาชนพื้นที่เสี่ยงระวังภัย "พายุฤดูร้อน"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น