“ทักษิณ” ฟุ้งเหตุผลกลับไทย พร้อมเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย

“ทักษิณ” ฟุ้งเหตุผลกลับไทย พร้อมเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย

จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้ทวีตข้อความเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 พ.ค.) ระบุว่า “ผมขออนุญาตอีกครั้ง ผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับบ้านไปเลี้ยงหลานภายในเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนวันเกิดผมครับ ขออนุญาตนะครับ เกือบ 17 ปีแล้วที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว ผมก็แก่แล้วครับ”

 

 

 

 

ล่าสุดนายทักษิณ ยังได้ทวีตข้อความ เพิ่มเติมอีกว่า “ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเป็นภาระพรรคเพื่อไทย ผมจะเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย และวันที่ผมกลับยังเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ พลเอกประยุทธ์อยู่ ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเองด้วยความรักผูกพันธ์กับครอบครัว แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 มี.ค.66 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ของนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ได้ โพสต์ภาพ หลักเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงยุติธรรม พร้อมข้อความระบุว่า “#อย่าให้ราคา #กลยุทธ์ปั่นกระแสเลือกตั้ง

 

 

#ทักษิณกลับไทยได้ทุกวัน
#ต้องจำคุกก่อน 1 ใน 3

ข่าวที่นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาประเทศ จะขอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยไม่ต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยแบบเดิม

ยอมรับโทษจำคุกในเรือนจำที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกแล้วยังเหลือโทษที่ยังไม่หมดอายุความ 3 คดีรวม 10 ปี นั้น

ฝากข้อมูลข้อกฎหมายให้อ่านละเอียดกันครับ

เพราะหลักเกณฑ์การขอลดโทษของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

ที่เคยใช้อำนาจเลื่อนชั้นนักโทษเส้นดีเฉพาะรายแบบ3วาระรวด

เพื่อช่วยบางคนบางกลุ่มให้เข้าเกณฑ์ขอรับพระราชทานอภัยโทษแบบเดิมๆนั้น ทำไม่ได้แล้ว จะต้องเข้าเกณฑ์ใหม่รับโทษให้สังคมปลอดภัยก่อนอย่างน้อย 1 ใน 3 ของคำพิพากษาถึงที่สุด

นายทักษิณต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับนักโทษเด็ดขาดทั่วไปคือ

ต้องรับโทษจำคุกก่อนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 8 ปี สุดแต่ระยะเวลาใดจะเป็นคุณมากกว่า

จากโทษที่ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วยังไม่หมดอายุความเหลืออยู่ 10 ปี

นายทักษิณจะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดจำคุกในเรือนจำ 3ปี 6เดือนก่อน จึงจะเข้าเกณฑ์ขอเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดีชั้นดีเยี่ยมชั้นเยี่ยม

เพื่อขอรับพระราชทานอภัยโทษได้ต่อไป

ดังนั้นการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของนายทักษิณ จึงเป็นอีก 1วาทกรรมเพื่อสร้างตัดกระแสมวลชน ที่สงสัยและมีคำถามเรื่องการที่จะมีการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยอีกหรือไม่ หลังจากได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้

เขาจึงต้องปฏิเสธผ่านสื่อมวลชนว่า จะไม่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเอง แต่ได้เตรียมแผนการหลายเรื่องไว้สำหรับการไม่ต้องรับโทษในคดีที่ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดไว้แล้ว ภายใต้หลักคิดเดิมว่า “ชีวิตนี้จะไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว”

 

ภาพ หลักเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงยุติธรรม ในการจัดชั้นนักโทษ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ

 

 

ส่วนตัวทราบดีครับว่า เขาเตรียมจะทำอะไรบ้าง แต่ขอยังไม่เปิดเผยเพราะเดี๋ยวจะเปลี่ยนเกมส์อีก นานมากถึง 16 ปีแล้วที่นายทักษิณหนีคดีไป
ถามว่า วันนี้นายทักษิณพร้อมมั้ย ถ้าพร้อมกลับรับโทษในเรือนจำก่อน1ใน3จริง
บินเครื่องบินส่วนตัวเดินทางกลับไทยได้ทุกวันครับ ไม่ต้องรอหลังวันเลือกตั้ง14 พ.ค. หรอกครับ นานไป???”
ก่อนหน้านี้ (25 มี.ค.)นายสมชาย แสวงการ โพสต์ข้อความระบุว่า
“#ทักษิณกล้ากลับมาติดคุกจริงมั้ย
#แค่กลยุทธ์หาเสียง
#คุกรอเก้อต่อไป
#คดีทุจริตไม่มีอายุความ
ถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่ทักษิณจะยอมกลับมาติดคุกจริง โดยไม่ออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมสุดซอย จากตรวจสอบวันนี้ นายทักษิณ ถูกศาลพิพากษาแล้ว 4 คดี รวมโทษจำคุก 12 ปี มี1คดีหมดอายุความ และเหลือคดีที่มีอายุความตลอดชีวิต3คดี รวมเหลือโทษจำคุก10 ปี
ที่สำคัญคือ การกลับมาเข้ารับโทษจำคุกของนายทักษิณ จะต้องสู่เข้าหลักเกณฑ์ใหม่ของกระทรวงยุติธรรมด้วย คือ “ต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี แล้วแต่ระยะเวลาใดถึงก่อน ไม่ว่าจะเป็นนักโทษชั้นใด จากนั้นจึงจะเข้าสู่เกณฑ์พิจารณาเรื่องอายุ สุขภาพ การจัดชั้น เพื่อทำเรื่องขอลดโทษได้”
นายทักษิณจะกลับเข้าประเทศยอมรับโทษติดคุก10ปีโดยยอมติดคุก1ใน 3 หรือ ติดคุก3ปี3เดือนก่อนจริงหรือไม่
เพราะตลอดเวลาหลายปี เขาประกาศเช่นนี้มาบ่อยครั้ง แต่ไม่เคยยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจริงๆ
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่า นายทักษิณจะยอมกลับมาติดคุกจริงๆตามที่ให้สัมภาษณ์ เพราะเขาเคยบอกว่า จะไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
สรุปว่า เรื่องนี้จึงเป็นแค่กลยุทธ์หนึ่งในการหาเสียงเลือกตั้งให้กับลูกสาวและพรรคการเมืองครอบครัวตัวเองเท่านั้นครับ
ข้อมูลนายทักษิณมีคดีที่ต้องกลับมารับโทษจำคุก 3 คดี รวมกัน 10 ปี
1)คดีทุจริตโครงการหวยบนดิน
ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
2)คดีให้ธนาคารเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้เงินแก่เมียนมา 4,000 ล้านบาท
ศาลพิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา
3)คดีให้นอมินีถือหุ้นชินคอร์ปฯ และเข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคม ศาลพิพากษารวมโทษ จำคุก 5 ปี และศาลฎีกาฯ ออกหมายจับ
รวมเหลือโทษจำคุก3คดี รวม10ปี

4) คดีที่4 คดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาจำคุก 2ปี หมดอายุความ10 ปีแล้ว เหตุเพราะจำเลยหลบหนีออกต่างประเทศไปตั้งแต่2551 ไม่สามารถนำตัวมาฟังคำพิพากษาได้…”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ประกอบการร้านอาหาร จับมือวิสาหกิจชุมชนใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และ เทศบาลตำบลบ้านฉาง จัดงานสตรีทฟู้ด@หาดพยูน กระตุ้นท่องเที่ยว ชวนประกวดแต่งผีชิงเงินรางวัลรับวันฮาโลวีน
ระทึก เพลิงไหม้คอนโดฯเมืองพัทยา จนท.อพยบ นทท.หนีตายอลหม่าน
"นายกฯ" หน้าตาสดใส พร้อมลงพื้นที่ร้อยเอ็ด หลังลาป่วย บอกไม่ค่อยมีเสียง
หนุ่มบุกช่อง 3 สาวหมัดใส่ “พระปีนเสา” กลางสถานี หน้าเจื่อน-จีวรแทบหลุด ด้านต้นสังกัดเรียกกลับวัดด่วนใน 7 วัน
"โคราช" หมอกลงจัด ปกคลุมหลายพื้นที่ ทัศนวิสัยแย่ มองไม่เห็นเส้นทาง สัญญาณอากาศหนาวมาเยือนแล้ว
ห้ามพลาด ลงทะเบียน-เช็กเงื่อนไข ใช้สิทธิประกันสังคม "กู้ซื้อบ้าน" ธอส.ดอกต่ำ 5 ปีแรก
ดีเดย์ "BRT" เริ่มเก็บค่าโดยสาร 15 ตลอดสาย ผู้สูงอายุ 11 บาท
"นิพิฏฐ์" โพสต์เดือด "ทนายความหรือปีศาจ" ชี้ขนาดทนายดัง ยังมีคดีอิรุงตุงนัง
“ดิ ไอคอน” ประกาศปิดสำนักงานชั่วคราว หลังดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ
ฝนยังไม่หมด กรมอุตุฯ เตือน 28 จว. รับมือฝนตกหนัก กทม.ก็ไม่รอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น