“บิ๊กตู่” ปล่อยมุกเกลือจิ้มเกลือ เลือกวิธีโต้พวกบ่อนทำลายชาติ ลั่นภูมิใจสุด 8 ปีสร้างโลจิสติกส์ ดันไทยเป็นฮับส่งออกระดับภูมิภาค

พล.อ.ประยุทธ์ ร้องเพลง “ลุงตู่อยู่ไหน” กองเชียร์ปรบมือลั่น ลั่นไม่ยอมให้ใครโจมตีฝ่ายเดียว ฟาดกลับไม่ยอมให้ใครเปลี่ยนประเทศเพื่อสร้างความขัดแย้ง เผย 8 ปีสุดภูมิใจทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐานใกล้สำเร็จ ดันไทยเป็น “ฮับ” ของภูมิภาค

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษในรายการข่าวเป็นข่าว สถานีโทรทัศน์ ท็อปนิวส์ ทีวี ในหัวข้อ “ทำแล้ว ทำอยู่ เพราะอะไรลุงตู่ต้องทำต่อ” โดยมีนายสันติสุข มะโรงศรี เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

 

 

 

ทั้งนี้เมื่อผู้ดำเนินรายการบอกว่าในโลกโซเชียลมีเดียลุกขึ้นมาแสดงออกเพื่อเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเพลง “ลุงตู่อยู่ไหน” ถือเป็นการแสดงออกของประชาชนที่รักลุงตู่ โดยระหว่างนั้นผู้ดำเนินรายการขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ร้องเพลงลุงตู่ได้หรือไม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องเพลงเรียกเสียงปรบมือจากกองเชียร์อย่างล้นหลาม

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพลงที่ออกมาอยากให้ทุกคนคิด โดยเฉพาะในชวงท้ายได้บอกให้ใส่เบอร์ 22 เข้าไปด้วย เพราะอยากให้เด็กและผู้ใหญ่เข้าถึงเพลงนี้ได้ ส่วนตัวดีใจที่คนจดจำ ซึ่งบ่งบอกถึงตัวเราที่ประชาชนเห็นว่าเราสื่อความหมายให้คนไทยได้รับรู้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามถึงพรรคคู่แข่งโจมตีรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จะยอมอย่างเดียวไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีเกลือจิ้มเกลือ เพราะจะปล่อยให้คนมาโจมตีข้างเดียวไม่ได้ ส่วนตัวไม่อยากขัดแย้งกับใคร ถ้าเปลี่ยนแล้วดีไม่ว่า แต่วีธีการแบบนี้อันตรายกับประเทศชาติสังคม พวกเรารับได้หรือ ส่วนตัวรับไม่ได้ และนี่เป็นอีกสิ่งนึงที่ต้องอยู่ต่อ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ยืนยันไม่ใช่ศัตรูใคร เพียงแต่ไม่อยากให้ใครมาเปลี่ยนประเทศชาติหรือสร้างความขัดแย้งในสังคม ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน นี้คือสิ่งที่เป็นห่วง วันข้างหน้าประเทศไทยจะต้องใหญ่โตมากขึ้น แต่ถ้าครอบครัวเล็กลงเรื่อย ๆ และยังมาทะเลาะกัน ตรงนี้เป็นเรื่องน่าห่วง

 

เมื่อถามว่ามีความพยายามขุดรากถอนโคนรู้สึกอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร อยากให้มองส่วนรวมของสังคมมากกว่า ต้องรักกัน อย่าแตกแยก ถ้าแตกแยกกันใครจะมาช่วย การเมืองไม่ใช่การทำลายล้าง แต่ต้องเป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ บ้านเมืองทุกวันนี้สงบสุขอยู่แล้ว ไม่เหมือนในอดีต อยากถามว่า ทุกคนอยากให้บ้านเมืองเกิดปัญหาหรือไม่ ซึ่งการทะลาะเบาะแว้งเป็นสิ่งไม่ดี

 

 

 

 

ส่วนที่ถามว่าทำไม่ไม่แจกเงินเยอะเหมือนพรรคอื่น ๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เป็นนายกฯมา 8 ปีต้องรู้ว่างบประมาณของรัฐเหลือเท่าไหร่ เพราะในฐานะนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนตัดสินใจในการนำงบประมาณต่าง ๆ ไปใช้ให้เหมาะสม ไม่ใช่ใครเสนอมาให้หมด ต้องใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีคุณค่า และต้องโปร่งในตรวจสอบได้ เพราะเงินนี้เป็นของประชาชนทุกคน ดังนั้นทุกบาท ทุกสตางค์ต้องใช้อย่างคุ้มค่า อย่างไรก็ตามต่อไปสังคมไทยจะเป็นสังคมไร้เงินสด ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นผู้ริเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นเงินดิจิทัล ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องตามเทคโนโลยีให้ทัน

 

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า กลัวแพ้การเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ เพราะพรรคอื่นแจกและทุ่มสุดตัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างประชาชนจะเป็นคนเลือกและตัดสินใจ ถ้ากล้าไปรับเงินมาก็เหมือนเป็นการขายประเทศตัวเอง อย่าให้ใครเอาเงินมาซื้อง่าย ๆ โดยเฉพาะคนไทยมีศักดิ์ศรีเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่มาทะเลาะกัน เพราะต้องมีหิริโอตะปะ คือความละอายที่ต้องเกรงกลัวต่อบาป ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ใครไม่รู้ตัวเรารู้ เราต้องทำความดีร่วมกันให้สำเร็จ ถ้าไปทางที่ไม่ดี ประเทศไทยจะล่มสลาย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทำหน้าที่อย่างเต็มที่โดยเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อชูนโยบายให้คนไทยได้เห็น ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 14 พ.ค.นี้

 

 

 

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการทำงาน 8 ปีที่ผ่านมา มีโครงการอะไรที่ทำแล้วหายเหนื่อยว่า เป็นเรื่องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เรื่องของการคมนามคม ถนนหนทางต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงโอกาส

 

โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่ง การสร้างถนนใหญ่ไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง เกษตรกร ซึ่งต้องไปย้อนกลับมาดูว่า ได้ทำอะไรให้เกษตรดีขึ้น จึงต้องไปย้อนกลับเรื่องที่ดินทำมาหากิน ซึ่งวันนี้เดินหน้าอยู่ เรื่องการปลูกพืชที่ต้องทันสมัยกว่าเดิม โดยเฉพาะการเกษตรต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน เพราะโลกกำลังต้องการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ วันนี้เราต้องพัฒนาเพื่อให้เกิดความต้องการของโลก โดยเฉพาะข้าวไทยก็ต้องพัฒนาให้ไปสู่ตลาดโลก

 

 

 

 

ส่วนการสร้างสัมพันธ์กับนานาชาตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีกับต่างประเทศ โดยเฉพาะชาติในตะวันออกกลาง เช่นประเทศชาอุดิอาระเบียที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางทูตมากว่า 30 ปี แล้ว ซึ่งได้ไปเจรจานำแรงงานไทยเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถนำเงินเข้าประเทศปีละ 6 แสนล้านบาทจากการเชื่อมสัมพันธ์ดังกล่าว

 

เมื่อผู้ดำเนินรายการถามทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยจะพลิกโฉมอย่างไรต่อจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อนาคตจะมีรถไฟความเร็วสูง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลจิสติก การเดินทางคมนามคมจะสะดวกทั้งประเทศ เราจะเป็น “ฮับ” ของการส่งออกจะมีเงินสะพัดหลายแสนล้านต่อปี ซึ่งทุกอย่างมาจากการเริ่มต้นที่ทำมาแล้ว นอกจากนี้จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 30 % ในปี 2030 เพราะจะช่วยลดมลพิษทางอากาศ

 

 

อีกทั้งในอนาคตจะขยายกทม.ออกไป ไม่ต้องมากระจุกแค่ในเมืองหลวงเท่านั้น และที่ผ่านมาการทำงานเสร็จลุล่วงไปแล้ว 50 % รวมไปถึงโครงการบ้านล้านหลังให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย ดังนั้งจึงขออาสาทำงานต่อให้ครบ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เพื่อไทยประกาศชัยชนะ เลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี "ศราวุธ" คะแนนทิ้งห่าง "คณิศร" จากพรรคปชน.
เลือกตั้งนายกอบจ.นครศรีธรรมราช “น้ำ วาริน” คะแนนนำ “กนกพร” โค่นแชมป์เก่า
เล็ก ฝันเด่น มอบสิ่งของที่มีสารไอโอดีนให้ ทรภ.1 นำสู่น้อง ๆ สู่พื้นที่ภาคเหนือ
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดงานวันเบาหวานโลก “World Diabetes Day 2024”
เลือกตั้ง นายก ทต. ท่าพริกเนินทราย คึกคัก
รถบรรทุก 6 ล้อ ไหลลงเนินเขา เบรกไม่อยู่ พุ่งชนร้านค้า โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
“ปานเทพ” แนะ “หมอบุญ” กลับไทยยังไม่สาย ลั่นหากคิดว่าตัวเองไม่ผิด ก็มาแสดงความบริสุทธิ์
"แสวง" เลขากกต.รับ ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกนายกอบจ.อุดรธานี บางตา ย้ำรู้ผลคะแนนไม่เกิน 3 ทุ่มวันนี้
สดุดีทหารกล้า สละชีวิตเหตุคนร้ายซุ่มยิงทหารพราน ในพื้นที่ยะลา
"ชูศักดิ์" ชี้สัญญาณดี ศาลฯไม่รับคำร้องคดี "ทักษิณ-พท." ล้มล้างการปกครอง พร้อมแจงคดีครอบงำต่อกกต.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น