ชวนรู้จัก "ยาดักจับไขมัน" หรือยาลดการดูดซึมไขมัน ไอเทมยอดฮิตในกลุ่มสาว ๆ เปิด 6 ข้อควรรู้ศึกษาให้ดีก่อนใช้ ยานี้เหมาะกับใครบ้าง ย้ำ ใช้ยาผิดอันตรายกว่าที่คิด
ข่าวที่น่าสนใจ
“ยาดักจับไขมัน” ใช้กับใครได้บ้าง?
- ยาลดการดูดซึมไขมัน (Orlistat) เป็นยาสำหรับการรักษาในระยะยาวในผู้ป่วยโรคอ้วน หรือ ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน
- รวมทั้งผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสัมพันธ์กับความอ้วน
- ใช้ร่วมกับอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ ออกฤทธิ์ป้องกันไม่ให้ไขมันบางส่วนจากอาหารที่รับประทานเข้าไปถูกดูดซึมในทางเดินอาหาร
- โดยให้รับประทานยาพร้อมกับอาหารหลักที่มีไขมันหรือหลังอาหารไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
- ไขมันไม่ถูกย่อยและไม่ถูกดูดซึม
- ทำให้มีไขมันออกมาพร้อมอุจจาระและระบบขับถ่ายผิดปกติ
นอกจากนี้ ยาลดการดูดซึมไขมันยังมีผลต่อยาอื่น ๆ รวมถึงมีข้อควรระวังอีกด้วย
6 ข้อควรรู้ต้องระวังจาก “ยาดักจับไขมัน” ศึกษาให้ดีก่อนใช้
- หากมื้อไหนไม่ได้รับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมัน สามารถเว้นการกินยาลดการดูดซึมไขมันได้
- ห้ามปรับขนาดยาให้มากขึ้นหรือลดลงกว่าที่แพทย์กำหนดหรือที่ระบุไว้ในเอกสารกำกับยา
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาลดการดูดซึมไขมันใน
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีภาวะท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน
- และมีการดูดซึมอาหารผิดปกติ
- ยาลดการดูดซึมไขมันมีผลต่อการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน (Vitamin A,D,E และ K) และเบต้าแคโรทีนของร่างกาย ทำให้ได้รับวิตามินดังกล่าวลดลง
- มีผลต่อยาที่ละลายในไขมัน เช่น
- รักษาอาการหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ (Amiodarone)
- ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporine) ทำให้ระดับยาดังกล่าวในเลือดลดลง ลดประสิทธิภาพในการรักษา
- รบกวนการดูดซึม Vitamin K อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Warfarin) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกได้
ผู้ที่มีโรคประจำตัวสัมพันธ์กับการรับประทานอาหาร เช่น
- เบาหวาน
- นิ่วในไต
- นิ่วในถุงน้ำดี
- หรือต่อมไทรอยด์ ควรแจ้งแพทย์ก่อนการใช้ยา
ก่อนเลือกใช้ยาลดการดูดซึมไขมัน
- ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อหาสาเหตุและแนะนำวิธีรักษาได้อย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการซื้อผลิตภัณฑ์ยาลดน้ำหนักผ่านช่องทางออนไลน์หรือสื่อโฆษณาด้วยถ้อยคำและภาพชวนเชื่อต่าง ๆ เพราะ อาจเสี่ยงได้รับอันตรายจากสารปนเปื้อน
- ควรพึงระวังไว้ว่ายาลดการดูดซึมไขมันไม่จำเป็นต้องใช้ในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินทุกคน อย่านำมาใช้พร่ำเพรื่อ เพื่อหวังผลในการลดน้ำหนัก
- รวมถึงคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องโรคอ้วน แต่อยากหุ่นดี ผอมเพรียวแต่หวังผลควบคุมน้ำหนักด้วย เพราะ มีผลเสียที่ต้องพึงระวังตาม ซึ่งรวมถึง
- ท้องอืด
- แน่นท้อง
- ท้องเสีย
- การควบคุมน้ำหนักที่ดีควรมีการดูแลภาวะโภชนาการให้ถูกต้องและออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีแรกที่ปลอดภัยและควรเลือกใช้
ดังนั้น แม้ว่า “ยาดักไขมัน” จะทำให้เห็นผลว่าขับไขมันออกมาได้จริง แต่ก็เป็นเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้น แต่สำหรับผลเสียนั้นจะเกิดขึ้นในระยะยาว หากต้องการมีสุขภาพและรูปร่างที่ดี การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะ และออกกำลังกายเป็นประจำจึงเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัยที่สุด
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง