นักดาราศาสตร์ พบแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นในที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ล้อมรอบ "ดาวฤกษ์" Fomalhaut สุดทึ่งใหญ่กว่าแถบไคเปอร์ของระบบสุริยะถึง 2 เท่า
ข่าวที่น่าสนใจ
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ อัปเดตข่าวในวงการดาราศาสตร์ เผย นักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ เผยให้เห็นแถบดาวเคราะห์น้อยล้อมรอบ “ดาวฤกษ์” Fomalhaut แห่งกลุ่มดาวปลาใต้
นักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ศึกษาแถบฝุ่นที่โคจรอยู่รอบดาว ฤกษ์ Fomalhaut (ฟอร์มาล็อท) และได้เปิดเผยภาพถ่ายของแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นในที่สลับซับซ้อน และใหญ่กว่าแถบไคเปอร์ (Kuiper’s belt) ของระบบสุริยะถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเผยให้เห็นโครงสร้างแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นในที่ยังไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนเป็นครั้งแรกอีกด้วย
Fomalhaut เป็นดาว ฤกษ์ที่อยู่ห่างออกไป 25 ปีแสง สังเกตได้ด้วยตาเปล่า ปรากฏเป็นดาว ฤกษ์สีน้ำเงินที่สว่างที่สุดในทิศทางของกลุ่มดาวปลาใต้ (Piscis Austrinus) ดาว ฤกษ์ Fomalhaut นี้เป็นดาว ฤกษ์ขนาดยักษ์สีฟ้า และเคยค้นพบกันมาก่อนว่า มีแถบของเศษดาวเคราะห์น้อย (debris disk) โคจรล้อมรอบอยู่
ครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 2008 เคยมีการค้นพบวัตถุที่คาดว่าจะเป็นดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงแรก ที่สามารถสังเกตเห็นได้โดยตรงในช่วงความยาวคลื่นแสงโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
ภายหลังต่อมาในปี ค.ศ. 2014 พบว่า วัตถุดวงนี้หายไป จึงเป็นไปได้ว่าวัตถุที่เห็นอาจจะเป็นเศษฝุ่นที่กระจายตัวออกเมื่อดวงจันทร์ภายในแถบดาวเคราะห์น้อยชนกัน และค่อย ๆ จางหายไปตามเวลา
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างที่บ่งชี้ให้เห็นว่า แถบดาวเคราะห์น้อยรอบดาว Fomalhaut นั้นมีความสลับซับซ้อนเพียงใด แล้วเพราะเหตุใดแถบดาวเคราะห์น้อยนี้ จึงไม่ได้รวมตัวกันเกิดขึ้นเป็นดาวเคราะห์ การศึกษาระบบนี้อาจจะช่วยให้เราเข้าใจในกระบวนการเกิดดาวเคราะห์ได้
แถบฝุ่นเหล่านี้ มีความสว่างน้อยกว่า “ดาวฤกษ์” เป็นอย่างมาก โดยปกติจึงถูกบดบังโดยแสงสว่างจากดาว ฤกษ์ แต่สามารถสังเกตได้ง่ายกว่ามากในช่วงรังสีอินฟราเรด บวกกับขนาดหน้ากล้องที่ใหญ่กว่ากล้องใดที่เคยมีมา จึงทำให้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ เป็นกล้องที่เหมาะที่สุดที่จะศึกษารายละเอียดของแถบดาวเคราะห์น้อยนี้
การสังเกตการณ์โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ไม่เพียงแต่เปิดเผยให้เห็นแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นนอกทั้ง 2 ชั้นในรายละเอียดที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อนเพียงเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นถึงแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นใน ที่ยังไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมาก่อนอีกด้วย
โดยรวมแล้ว แถบดาวเคราะห์น้อยทั้ง 3 นี้กระจายตัวอยู่รอบดาว ฤกษ์ออกไปถึง 23,000 ล้านกิโลเมตรจากดาว ฤกษ์ หรือคิดเป็น 150 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ และขอบเขตของแถบดาวเคราะห์น้อยชั้นนอกนั้นออกไปไกลกว่าแถบไคเปอร์ของระบบสุริยะกว่า 2 เท่า
นอกจากนี้ ด้วยกำลังการสังเกตของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ จึงทำให้สามารถสังเกตเห็นช่องว่างระหว่างแถบดาวเคราะห์น้อยเหล่านี้ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เราพบแถบที่หายไปภายในวงแหวนของดาวเคราะห์น้อยหรือฝุ่น นั่นย่อมหมายถึงความเป็นไปได้ที่จะมีดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่กำลังก่อตัวอยู่ ที่คอยดูดหินและฝุ่นเหล่านั้นให้หายไป การศึกษาภาพเช่นนี้โดยละเอียด จึงเป็นใจความสำคัญที่จะทำให้นักดาราศาสตร์สามารถเข้าใจได้ว่า ระบบดาวเคราะห์ เช่น ระบบสุริยะของเรา นั้นถือกำเนิดขึ้นมาอย่างไร
เรียบเรียง: ดร. มติพล ตั้งมติธรรม นักวิชาการดาราศาสตร์ สดร.
ข้อมูล : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ และ nasa
ข่าวที่เกี่ยวข้อง