นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่ง เชื่อมโยงกับผู้ใช้แรงงานและแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยในแคมป์ที่พัก โรงงาน หรือสถานประกอบการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุม จึงลงนามคำสั่ง กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)ในแคมป์ที่พัก โรงงาน หรือสถานประกอบการ โดยมีข้อกำหนดออกมาทั้งหมด7ข้อ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
กำหนดให้แคมป์ที่พัก โรงงาน สถานประกอบการ ที่มีแรงงานไทยและต่างด้าวพักอาศัยหรืออยู่ในความดูแล ให้ทำงานประจำในสถานที่ทำงานที่ใดที่หนึ่ง หลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานไปทำงานหลายที่ในคราวเดียวกัน และให้ สถานประกอบการ ทำการสุ่มตรวจแรงงานโดยวิธี ATK (Antigen Test Kit)ตามแนวทาง Bubble & Seal เพื่อป้องกันและควบคุม COVID – 19 ในสถานประกอบกิจการ โดยแรงงานที่ผลเป็นบวกให้ออกมาพักกักตัวในสถานที่ที่เตรียมไว้ สำหรับแรงงานที่ผลการตรวจเป็นลบ ให้สามารถทำงานต่อได้ และให้มีการสุ่มตรวจทุกหนึ่งสัปดาห์
ขณะที่ โรงงาน สถานประกอบการ ต้องมีการเตรียมสถานที่พักกักตัวแรงงาน กรณีพบผู้มีผล เป็นบวก ในสถานประกอบการ มากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนแรงงานในสถานประกอบการ ต้องจัดที่พักกักตัวในลักษณะห้องแยกหรือห้องรวม ในแต่ละพื้นที่ โดยให้มีการพักกักตัวของแรงงานทุกคนเป็นระยะเวลา 14 วัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม เป็นต้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ