“บิ๊กตู่” ขอบคุณ “พลังแห่งความสามัคคี” ของคนไทย ร่วมนำชาติฝ่าวิกฤตโควิด-19

"บิ๊กตู่" ขอบคุณ "พลังแห่งความสามัคคี" ของคนไทย ร่วมนำชาติฝ่าวิกฤตโควิด-19

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผลการประเมินโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 1 จำนวน 10 โครงการ (จากกำหนดเป้าหมายประเมินผลทั้งสิ้น 250 โครงการ) วงเงินอนุมัติ 184,410.22 ล้านบาท เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 42,322.44 ล้านบาท รายได้จากการจัดเก็บภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อมที่รัฐคาดว่าจะได้รับกลับคืนสูงสุดภายใน 3 ปี จำนวน 8,168.23 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. แก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 1 โครงการตัวอย่างจาก 45 โครงการ (วงเงิน 8,616.08 ล้านบาท ผลการเบิกจ่าย 8,616.08 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 100) จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดสและจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้ครอบคลุมประชากรกลุ่มเป้าหมายร้อยละ 100 สามารถช่วยป้องกันการเสียชีวิต ป้องกันอาการป่วยรุนแรง กระตุ้นการตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของวัคซีนสนับสนุนอุตสาหกรรมวัคซีนให้มีศักยภาพมากขึ้นในอนาคต

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

2. ช่วยเหลือเยียวยาและชดเชยให้กับภาคประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 6 โครงการตัวอย่างจาก 31 โครงการ (วงเงินอนุมัติ 115, 494.95 ล้านบาท ผลการเบิกจ่าย 114,576. 03 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.20) ได้แก่ โครงการเยียวยาผู้ประกันตน ม.39 (1.37 ล้านราย) ผู้ประกันตน ม.40 (7.21 ล้านราย) และนายจ้าง (0.16 ล้านราย) ผู้ประกันตน ม. 33 (3.36 ล้านราย) การเพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 (13.36 ล้านบาท) และ 4 ( 13.20 ล้านราย) รวมทั้ง การลดค่าไฟฟ้า (บ้านอยู่อาศัย/กิจการขนาดเล็ก (21.3 ล้านราย) มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 42,292.35 ล้านบาท รายได้ที่คาดว่าภาครัฐจะได้กลับคืนในระยะเวลาสามปีสูงสุด 8,162.42 ล้านบาท ซึ่งสามารถลดความเครียด และชะลอการเกิดหนี้เสียและไม่ต้องขายทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้จ่าย

3. มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 3 โครงการตัวอย่าง จาก 2,432 โครงการ (วงเงิน 60,299.19 ล้านบาท ผลเบิกจ่าย 60, 299.19 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 100) ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ผู้ได้รับประโยชน์ ได้แก่ ประชาชนทั่วไป (27.98 ล้านราย) ผู้ประกอบการ (1.3 ล้านราย) นายจ้าง SME รับเป็นเงินอุดหนุน (0.24 ล้านราย) รักษาระดับการจ้างงาน (3.26 ล้านราย) และการจ้างงานใหม่ (0.18 ล้านราย) เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 30.09 ล้านบาท รายได้ที่คาดว่าภาครัฐจะได้กลับคืนในระยะเวลาสามปีสูงสุด 5.81 ล้านบาท ลดการเลิกจ้างงาน เพิ่มความตระหนักรู้ด้านดิจิทัล ส่งเสริมสังคมไร้เงินสดของไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการประเมินภาพรวมของแผนงาน/โครงการที่มีการดำเนินการทั้ง 10 โครงการ ได้ระดับ “ดีมาก” ภายใต้ตัวชี้วัดทั้ง 5 มิติ ได้แก่ ความสอดคล้อง-เชื่อมโยง ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ผลกระทบและความยั่งยืน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่นชม และขอบคุณ “พลังแห่งความสามัคคี” ของคนไทยทุกคน ที่ได้ร่วมกันช่วยประเทศฝ่าวิกฤตโควิด – 19 และสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร" นำกำลังจนท.บุกทลาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เมืองมหาชัย ให้บริการเฉพาะแรงงานพม่า เปิดเสรีอัพยาเสพติด
พระราม 2 อีกแล้ว! ก้อนปูนทางด่วนร่วงใส่รถ กระจกแตกยับ คนขับเจ็บหนัก
"อัษฎางค์" ชี้ชัด พฤติกรรม "กมธ.การทหาร" ใช้อำนาจ ป้องคดี 112 เข้าข่ายละเมิดกม.จริยธรรมอย่างร้ายแรง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แพนด้ายักษ์ 'เม่ยจู' เอนกายพักใจสบายอุราที่สวนสัตว์จีน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) BYD เปิดตัว 'เรือขนส่งยานยนต์' ใหญ่สุดในโลก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ไทยติดโผเที่ยว 'เซี่ยงไฮ้' มากสุดในไตรมาสแรกปี 2568
นาทีระทึก ไฟไหม้ร้านเหล้าดัง กลางเมืองภูเก็ต จนท.ช่วยดับเพลิงอลหม่าน เร่งตรวจสอบความเสียหาย
ตร.รวบจีนเทาเช่าโกดังเก็บไส้หมูหมัก สภาพสุดโทรม ส่งกลิ่นเหม็น เตรียมส่งขายทั่วไทย ยึดของกลางรวมกว่า 10 ล้านบาท
"อุตุฯ" เตือน 46 จังหวัด รับมือพายุฝนฟ้าคะนอง กทม.ก็ไม่รอด
"รมว.สุดาวรรณ" ชูชุมชนต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี บ้านนาถ่อน" จ.นครพนม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น