"บิ๊กตู่" ย้ำรักคนไทยทั้งประเทศ มีความจริงใจ สุจริตต่อประเทศชาติและประชาชน ย้อนคนวิจารณ์ดีแต่กู้ กลับไม่ดูหนี้โครงการเก่าที่สร้างไว้

วันที่ 11 พ.ค.66.- ที่โรงเรียนวัดพิศาลนฤนิต อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ุ เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรค ช่วยผู้สมัครหาเสียง ที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาพบกันเอากำลังใจมาฝาก เอากำลังใจคนทั้งประเทศมาฝาก เราต้องส่งใจกับเขาได้ไปให้ทางจังหวัดชุมพรอีกด้วย เราทุกคนมีหัวใจเดียวกัน หัวใจแห่งความรักความสามัคคี รักสถาบันหลักของประเทศ เพราะความรักความสามัคคีเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จ หลายปีที่ผ่านมาอาจจะมีหลายคนที่พอใจ ไม่พอใจ แต่ผมก็รักทุกคนนั่นแหละ แต่มาวันนี้รู้สึกว่า ตื้นตัน เมื่อเช้าไปเจอลูกเด็กเล็กแดงมัธยมเขาก็ให้กำลังใจนายกทุกคน ที่ทำเพื่อประเทศชาติของเรา ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของผม ผมทำเพื่อต้องการให้คนไทยมีฐานะดีขึ้นและต้องการให้ประเทศไทยมีรายได้สูงขึ้นตามที่ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นต้องหาเงินเข้าประเทศให้มากขึ้นใช่หรือไม่

ขณะเดียวกันมีประชาชนตะโกนบอกให้พลเอกประยุทธ์ ช่วยดูแลเรื่องราคายางพารา พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ผมรับปากว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยประชาชนตะโกนว่าขอราคายางเท่าอายุลุงตู่ก็พอ ทางพลเอกประยุทธ์ จึงตอบว่าตนอายุ 40 ซึ่งขณะนี้ กำลังปรับแผนการใช้ยางในประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น โดยหาวิธีการกำหนดพื้นที่ในการ ผมเป็นนายกมา 8 ปีไม่รู้หรือว่าเราต้องการอะไร ผมรู้ ไม่ใช่ผมไม่อยากให้ ถ้าเราจะต้องใช้เงินอุดหนุนทั้งหมดเราจะไม่มีเงินไปทำอย่างอื่น พร้อมย้ำว่าที่ผมพูดถึง อยากให้เข้าใจ ไม่ได้อยากแก้ตัว ผมแค่อยากพูดความจริง พร้อมยังระบุอีกว่า ตนทำงานได้มากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา 3 เท่าเต็มๆ รัฐบาลผมทำสำเร็จมากกว่าเกือบ 300 โครงการลงไปทั่วประเทศ วันนี้ต้องย้อนกลับมาดูภาคใต้ของเรา ผมร่างให้ภาคใต้ไปแล้วหลายโครงการตามถนนหลายสิ่งที่ท่านเดือดร้อน ขอให้เราได้เป็นรัฐบาล จะได้ทำต่อ

ขณะเดียวกันพลเอกประยุทธ์ ยังแซว บรรดาผู้สมัครว่า เวลาผมตรวจเช็คการเข้าพื้นที่ต้องดูใครหน้าขาวหน้า ดำหน้าดำคือการลงพื้นที่ หน้าขาวคืออยู่แต่บ้าน ยืนยันถึงความตั้งใจของรัฐบาลถ้าเราได้เป็น ก่อนที่ประชาชนจะตะโกนบอกว่า ต้องได้เป็น พลเอกประยุทธ์จึง ยื่นกระดาษให้แล้วบอกให้เซ็นตั้งตนเลย มันง่ายอย่างนั้นก็คงดีแต่ต้องกากบาทอย่างเดียววันอาทิตย์นี้วันที่ 14 ต้องกาทั้ง 2 ใบ

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ผมจริงใจ ผมไม่ใช่คนปากหวาน ผมเป็นคนพูดความจริงและต้องมีความสุจริตต่อประเทศชาติและประชาชน เพราะแผ่นดินผืนนี้ ผมรักษามาด้วยชีวิต ผมเป็นทหารมา 30 กว่าปี จนเป็นผู้บัญชาการทหารบก สิ่งต่างๆที่อยู่ในจิตใจของผมตลอดมา 30 กว่าปี คือเห็นประชาชนมาตลอดอยู่กับชาวบ้านมาโดยตลอด บางครั้งผมนอนกลางคืนยังนั่งนึกหากว่าเป็นชาวบ้านวันๆจะหาเงินได้สัก 10 บาทไหม

พร้อมกับยอมรับว่า อะไรหลายๆอย่างต้องใช้ระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควร อะไรที่จะต้องการให้เกิดความมั่นคง ยั่งยืนจะต้องร่วมมือกัน การเปลี่ยนแปลงที่ให้เกิดความขัดแย้งกัน มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ไหม เราทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราคือเป้าหมายสำคัญของต่างประเทศในการลงทุน คนไทยยิ้มเก่ง ยิ้มสยาม อย่าทำให้ยิ้มสยามไปยิ้มสยอง เพราะทะเลาะกัน หากมัวแต่จะเกลียดกัน ผมไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เราต้องเปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปด้วยความสงบเรียบร้อยไปสู่โลกยุคใหม่ วันนี้เขาเรียกว่าโลกแห่งความวุ่นวาย โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงสับสนอลหม่าน พอเป็นโลกที่เจริญด้วยดิจิทัลและเทคโนโลยี เข้ามาตัวแทนคน

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยพลเอกประยุทธ์ยังกล่าวย้ำว่า ขอให้สนใจ ได้อ่าน ได้ฟัง ได้แต่ใช้หัวใจในการตัดสินว่ามันใช่หรือไม่ ทุกคนต้องมีภูมิต้านทาน สมมุติว่าคนด่าผมเยอะๆ ผมโกรธไหม ประชาชนจึงตะโกนขึ้นมาว่าไม่โกรธ พลเอกประยุทธ์ จึงกล่าวว่า ผมอย่างไรก็มีสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ มีความเป็นมนุษย์อยู่ มีอารมณ์ต่างๆ แต่ผมก็ทำอะไรมากไม่ได้ ใครจะด่าผมๆก็ด่าตอบไม่ได้ เพราะผมเป็นใคร เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนมีเกียรติยศมีชื่อเสียง มีความภาคภูมิใจในการทำงานในการป้องกันชายแดน วันนี้ทหารถูกโจมตีไปหมดมันดีหรือไม่ดี ไม่มีทหารจะอยู่กันได้หรือไม่ เขาดูแลชายแดนให้เรา เขาเสี่ยงอันตรายให้เรา ขาขาด แขนขาดกันเท่าไหร่ นอนอยู่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นลูกหลานของเราทั้งนั้นเขาทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของเขา หน้าที่ของลูกผู้ชายทุกคน แต่วันนี้ก็ดีใจที่หลายคนสมัครเข้ามา 30-40% นี่เป็นหลักการของทุกประเทศประเทศใดไม่มีทหารก็ขาดความแข็งแรงความเข้มแข็งประเทศอื่นเขามีหน้าที่น้อยกว่าเรา ของเขามีไว้รบสงครามอย่างเดียว ว่าเรามีการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ ต้องให้เกียรติเขาใช่หรือไม่ ทหารคือความมั่นคงของประเทศ ผมไม่ได้หมายความว่าต้องเอางบประมาณมาทุ่มเทให้มากเกินไป เอาแค่ให้เขาอยู่ได้ป้องกันตัวเองได้เพราะเขาคือลูกหลานของท่าน

หลายคนบอกว่าไม่ต้องซื้อเรือรบก็ได้ เอาเรือประมงมาสู้กับเรือดำน้ำ หมายถึงเวลามันมีการรบกันกลางทะเล ผมขอเรือประมงพี่น้องมาด้วยก็แล้วกัน แล้วเอาปืนใหญ่ใส่เรือ แล้วให้คนพูด ขับเรือไปสู้กับเขา จะพูดอย่างนี้ไม่ได้

ข้าราชการก็มี เขาก็เสียเงินเสียทองภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะมันหัก ณ ที่จ่าย ก็ต้องเพิ่มเงินลงไปด้วยไม่ใช่เมื่อเขาเกษียณก็ต้องควรมีเงินบำนาญ เขาทำงานมากี่ 40 ปี อยู่ๆจะไปยกเลิกเขาบอกเขาเป็น ช้างป่วยมันใช่ไหม ดูถูกกลุ่มนี้ไม่ได้ ผมไม่ได้ทะเลาะกับเขาแต่การพูดแบบนี้มันทำให้เกิดความบาดหมางซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นช้างเราจะต้องไม่ป่วย ช้างเราต้องแข็งแรง ช้างเราต้องเป็นช้างศึก และเป็นพ่อแม่ของเราทั้งสิ้น

ส่วนที่มีคนบอกว่า ผมกู้เงินนู่นนี่ มีโครงการเก่าๆสร้างหนี้ไว้ให้ผมเต็มเลย ผมไม่พูดไม่ว่าใครนี่คือยอดที่เพิ่มมาวันนี้ที่เราเป็นหนี้อยู่ในเรื่องการลงทุน

นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ปกติผมเป็นคนพูดเพราะอยู่แล้ว ยิ่งหนุ่มๆพูดเพราะกว่านี้อีก คนเราพูดด้วยวาจาที่ไพเราะใส่กันก็ดีกว่าด่ากันทุกวัน ไม่มีอะไรดีขึ้นทะเลาะกันไอ้ที่ด่ากันไปกันมา ก็เข้าตัวหมด จำไว้อย่าไปสาปแช่งใคร ให้แต่ความรักแผ่เมตตาไปให้เขา ไปไหนผมไหว้พระไหว้เจ้าทุกที่ ขอให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ปลอดภัยและขอให้ประชาชนมีความสุขมีความยั่งยืน และขอให้ครอบครัวมีความสุขหน่อยผมขอให้ 3- 4 อย่างเท่านั้นเอง เพราะหัวใจของผมคือประชาชน

โดยช่วงท้ายพลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ผมมาไม่ใช่มาแค่ในนามนายกรัฐมนตรีแต่ ผมมาในนามคนไทยคนหนึ่งที่จะต้องแบกคน 70 ล้านไปด้วยและนึกถึงว่าจะทำอย่างไรให้พร้อมสัญญาจะทำให้ดีที่สุด ถ้าเลือกนายสนั่น พิบูลย์ เป็นส.ส.ของเขต และทุกเขตมีความสำคัญต่อลุงตู่ หากได้ส.ส.เขตได้น้อยลุงตู่ก็กลับบ้านนอน เวลาไม่อยู่ก็อย่าคิดถึง อย่าร้องไห้นะ ก็อยู่ที่พวกเรา

บิ๊กตู่, หาเสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง