“หมอมนูญ” แนะเร่งฉีดผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ลดการเสียชีวิต

"หมอมนูญ" แนะเร่งฉีดผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เพื่อลดการเสียชีวิต

วันที่17 สิงหาคม 2564 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” มีเนื้อหาดังนี้

 

คนสูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัว 7 โรคยังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 น้อยเกินไป

 

ประเทศไทยฉีดวัคซีนให้คนไทยไปแล้ว 23.5 ล้านโดส

-ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มคนสูงอายุมากกว่า 60 ปี 3.7 ล้านคนได้เข็มแรก (เพียงร้อยละ 31 จากทั้งหมด 11.7 ล้านคน) และ 297,000 คนได้ครบ 2 เข็ม

 

-เป็นกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว 7 โรค โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน 1.9 ล้านคนได้เข็มแรก (เพียงร้อยละ 44 จากทั้งหมด 4.3 ล้านคน) และ 347,000 คนได้ครบ 2 เข็ม

 

-หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปได้รับการฉีดเข็มแรก 9,800 โดส

 

หากดูตัวเลขการฉีดเข็มแรกจนถึงวันที่ 14 ส.ค.2564 ประชาชนทั่วไปฉีดไปแล้วเข็มแรก 9.6 ล้านคน 2.8 ล้านคนได้ครบ 2 เข็ม รวม 12.4 ล้านโดส (ร้อยละ 54 ของวัคซีนทั้งหมด) ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุฉีดไปรวม 4 ล้านโดส (ร้อยละ 21 ของวัคซีนทั้งหมด) และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรครวม 2.3 ล้านโดส (ร้อยละ 11 ของวัคซีนทั้งหมด)

 

จากเดิมที่เป้าหมายเน้นฉีดให้กลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ตามด้วยผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัวให้มากที่สุด เนื่องจากมีแรงกดดันจากหลายกลุ่มจากภาคการท่องเที่ยว คมนาคม แรงงาน ทำให้คนวัยทำงาน และคนในพื้นที่มีการระบาดได้วัคซีนก่อน ประกอบกับวัคซีนมีจำกัดและมาช้า ทำให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงได้วัคซีนช้าเกินไป สวนทางกับยุทธศาสตร์ที่ตั้งไว้เดิม

 

ประเทศไทยกำลังจะได้วัคซีนเพิ่มอีก 10 ล้านโดส ครั้งนี้ตั้งเป้าจะเร่งฉีดให้กลุ่มคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว 7 โรคและหญิงตั้งครรภ์ก่อนกลุ่มอื่น จากนั้นจึงจะเริ่มกลับมาฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป เพื่อลดการเสียชีวิตที่มีแน้วโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ร้อยละ 84 เป็นคนกลุ่มนี้ (ดูรูป) แต่คนหนุ่มสาววัยทำงานอัตราตายต่ำกว่า 1 ใน 1,000 เราต้องลดจำนวนคนป่วยหนักและเสียชีวิตให้มากที่สุด ระบบสาธารณสุขกำลังรับจำนวนผู้ป่วยหนักไม่ไหว รัฐควรส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปฉีดคนสูงอายุ คนป่วยติดเตียงที่บ้านมากขึ้น เพราะคนสูงอายุไม่สะดวกทึ่จะออกมาฉีดที่ศูนย์ฉีดวัคซีน

 

รัฐต้องให้ความรู้แก่ลูกหลานว่า คนแรกๆในครอบครัวที่ต้องฉีดวัคซีนคือคนสูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัว ไม่ต้องกลัวว่าพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย จะป่วยมีผลข้างเคียงจากวัคซีน เพราะถ้าไม่ฉีด เมื่อติดเชื้อโอกาสจะเสียชีวิตสูงมาก

 

เดิมทีคิดว่าการฉีดวัคซีนให้กับคนวัยทำงานที่ต้องออกนอกบ้าน จะสามารถป้องกันไม่ให้นำเชื้อมาแพร่ให้กับคนสูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัวซึ่งอยู่แต่ในบ้าน ปัจจุบันทราบดีแล้วว่าถึงฉีดวัคซีนครบ 2โดสคนวัยทำงานก็ยังติดเชื้อและแพร่เชื้อให้คนสูงอายุในบ้านได้ วัคซีนมีประโยชน์ในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต เพราะฉะนั้นคนสูงอายุและคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังรวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ต้องเป็นกลุ่มแรกที่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดก่อนคนอื่นๆ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พ่อเมืองอุบลฯ" จัดรถพยาบาลรับ 14 ผู้บาดเจ็บสาหัส เหตุรถทัวร์ลาวชนต้นไม้ รักษาตัวฉุกเฉินในไทย
ทันเวลา "ฉก.ราชมนู" สกัดจับ "แก๊งโจรกรรมรถ" ส่งประเทศเพื่อนบ้าน แถบชายแดนตาก
ฮามาสค้านข้อเสนอทรัมป์ให้จอร์แดน-อิยิปต์รับผู้ลี้ภัยจากกาซา
ทรัมป์ขอจอร์แดน-อิยิปต์รับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์เพิ่มขึ้น
"ชัชชาติ" แจงเหตุผล อยากจับรถควันดำ แต่ไม่มีอำนาจ 100 % จ่อเสนอ 4 ข้อรบ. ร่วมมือแก้ PM 2.5
นอภ.ภูกระดึง แจ้งจับคนเผาป่าภูค้อ ภูกระแต พบป่าโดนเผาวอด เสียหาย 300 ไร่
อีกแล้ว จยย.พุ่งชน "นทท.ชาวเกาหลีใต้" ขณะข้ามทางม้าลาย ซ้ำรอย "หมอกระต่าย"
ฝ่ายต่อต้านร้องลั่น! อ้าง “ทัพพม่า” สาดระเบิดเคมี-ทหาร PNLA ป่วยอื้อ
“ภูมิธรรม” กำชับกองทัพ เร่งช่วยแก้ฝุ่น PM 2.5 เตรียมประชุมร่วมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หาทางออกร่วมกัน
"พิชัย" รับนโยบาย "นายกฯ" เดินหน้าเจรจาตกลงการค้าเสรี FTA สหภาพยุโรป ให้เสร็จในปี 68 เติมแกร่งศก.ไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น