“การบินไทย”ไตรมาสแรกพลิกกำไร 1.25 หมื่นล้าน เพิ่มความถี่บินญี่ปุ่น-เกาหลี-จีน

การบินไทย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2566 บริษัทและบริษัทย่อย พลิกมีกำไรสุทธิ 12,523 ล้านบาท รายได้รวม โต 271% มาที่ 41,507 ล้านบาท จากการเดินทางที่เพิ่มขึ้นและเพิ่มความถี่เส้นทางยอดนิยม ยังคงเป้าหมายออกจากแผนฟื้นฟูไม่เกินปลายปี 67 พร้อมเตรียมเสนอแผนควบรวม “ไทยสมายล์แอร์เวย์” ต่อเจ้าหนี้สัปดาห์หน้า คาดดำเนินการแล้วเสร็จสิ้นปีนี้

วันนี้ (12 พ.ค.66) นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 11,181 ล้านบาท หรือ 271.2% จากการเติบโตของรายได้การขนส่งผู้โดยสาร และการกลับมาให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

โดยการเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยม อาทิ ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงกลับมาเริ่มให้บริการในเส้นทางสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในเส้นทางทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และประเทศญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่สูงมาก

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30,502 ล้านบาท เติบโต 681.5% เนื่องจากไตรมาสนี้ บริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในตารางการบินฤดูหนาว ปี 2565 – 2566 รองรับการเดินทางของผู้โดยสารสู่ 34 เส้นทางบินทั่วโลก

 

 

 

ขณะที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายรวม 28,473 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนหน้าซึ่งมีค่าใช้จ่าย 14,348 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 9.7%

 

โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทาง การเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 13,034 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ขาดทุน 3,167 ล้านบาท โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 3,549 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่ส่วนใหญ่มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ การจำหน่ายสินทรัพย์ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นรายได้รวม 2,987 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 12,523 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนหน้าขาดทุน 3,243 ล้านบาท เป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 12,514 ล้านบาท มี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบินรวมค่าเช่าเครื่องบินจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hours) 14,054 ล้านบาท

ในขณะที่บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 172 ล้านบาท แต่มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการกลับรายการค่าใช้จ่าย 517 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 65 ลำ มีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 12.3 ชั่วโมงต่อวัน มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 121.4% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 469.2% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 83.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 32.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 245.1% มีสินทรัพย์รวมจำนวน 208,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 10,267 ล้านบาท (5.2%) หนี้สินรวมจำนวน 266,948 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 2,254 ล้านบาท (0.8%) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยติดลบจำนวน 58,503 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 12,521 ล้านบาท

 

 

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2 ของปี 2566 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 80 % จากตลาดญี่ปุ่น จีน รวมถึงตลาดยุโรป โดยจะเพิ่มเที่ยวบินไปอังกฤษกับแฟรงก์เฟิร์ต ส่วนตลาดจีนคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10-15 % เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 โดยทั้งปี 2566 คาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเกิน 100 %

 

ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าหมายมีผู้โดยสารในปีนี้ กว่า 9 ล้านคน มีรายได้ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ส่วนปี 2567 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.5-1.6 แสนล้านบาท และมีผู้โดยสารใช้บริการกว่า 12 ล้านคน

 

ส่วนความคืบหน้า การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจการบินของบริษัท เพื่อลดภาระการขาดทุนจากการดำเนินงาน และแก้การขาดทุนสะสม ที่เกินทุนจดทะเบียนของบริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการและแผนการปฏิรูปธุรกิจ นั้น นายชาย ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอแผนให้แก่คณะกรรมการเจ้าหนี้เพื่อเห็นชอบในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากเห็นชอบก็จะดำเนินการต่อไป ทั้งในส่วนของหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องขออนุญาต และเเจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และยังคงเป้าหมายที่จะออกจากแผนฟื้นฟูไม่เกินปลายปี 2567 เช่นเดิม

 

นายชาย ระบุว่า ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการทั้งสิ้น 65 ลำ แบ่งเป็นของการบินไทย 45 ลำ และ ของไทยสมายล์ A320 จำนวน 20 ลำ ขณะที่เครื่องบินแอร์บัส A350-900 ที่จะนำเข้ามาให้บริการ จำนวน 11 ลำนั้น ในปีนี้จะทยอยนำเข้ามา 4 ลำ จาก 6 ลำ โดย 2 ลำแรก จะมารองรับเส้นทางจากไทยไปจีนเพิ่มขึ้น ส่วนอีก 2 ลำ ซึ่งจะมาในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 จะรองรับไปในเส้นตลาดนอร์ทเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น เช่น จะเพิ่มเส้นทางจาก 14 เป็น 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปญี่ปุ่น ส่วนอีก 2 ลำ เครื่องบินยังไม่มีความพร้อมโดยเฉพาะอะไหล่ ที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการจัดหา จึงทำให้ปีนี้มีเครื่องบินใหม่เพียง 4 ลำเท่านั้น

 

 

สำหรับเครื่องบินที่อยู่ระหว่างรอการขาย ล่าสุด บริษัทได้มีการขายโบอิ้ง 747 จำนวน 10 ลำ ขณะที่ แอร์บัส A340 อยู่ระหว่างการส่งมอบ 9 ลำ ส่วนโบอิ้ง 777-300 ได้ผู้ซื้อแล้ว อยู่ระหว่างการทำสัญญา จำนวน 6 ลำ โดยขณะนี้ บริษัทมีเครื่องบินที่อยู่ระหว่างรอขาย ทั้ง โบอิ้ง 777-200 6 ลำ และ โบอิ้ง A380 จำนวน 6 ลำ โดยเครื่องบินทั้งหมด ได้จอดเก็บรักษาไว้ที่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น