พปชร.ปราศรัยใหญ่ “บิ๊กป้อม” ลั่นภารกิจสุดท้าย ขอตอบแทนคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศ

เวทีพปชร.ปราศรัยใหญ่สุดคึก “บิ๊กป้อม” ลั่นภารกิจสุดท้าย ขอตอบแทนคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศ เผยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เพราะไม่มีภาระและธุรกิจ ด้าน “วราเทพ” เผยพวกย้ายพรรคเริ่มต่อสายหา โอดถูกหลอก ขณะที่ “สกลธี” พร้อมชนพรรคไม่เอาสถาบันหลักชาติ แม้จุดยืนพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง

12 พ.ค.2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และแกนนำพรรครวมถึงผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรค มีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยแน่นอาคารกีฬา พร้อมชูป้ายส่งเสียงเชียร์ผู้สมัครเขตตัวเองและพรรค ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

 

 

 

 

 

 

 

 

โดยพลเอกประวิตร กล่าวปราศรัยว่า วันนี้สำคัญ ปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ขอบคุณประชาชนที่รับฟังปราศรัย ยืนยันทุกนโยบายที่เสียงไว้เราจะทำให้สำเร็จ เพราะตนเองไม่มีภาระ ไม่มีธุรกิจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง มีเพียงภารกิจเดียว ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิตคือ การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้ประเทศ ทั้งนี้ 8 ปีในการเป็นรัฐบาล ตนสามารถคุยกับทุกคน รับฟังความเห็นต่างจากทุกฝ่าย ไม่มีอคติ และตลอดชีวิต ตนมีหน้าที่ปกป้องประเทศจากศัตรู ภัยอันตรายในรูปแบบต่าง ๆ ป้องกันสถาบันหลักชาติ วันนี้ประเทศของเรายังมีปัญหาอีกมาก ความยากจน ปากท้อง การก้าวข้ามความขัดแย้ง และการร่วมสถาบัน การแทรกแซงการเมืองจากภายในและนอกประเทศ ตนและพลังประชารัฐจะเอาชนะปัญหาของประชาชนในเรื่องเหล่านี้ให้ได้

 

พลเอกประวิตร กล่าวอีกว่า ทุกนโยบายที่ตนรับปาก ตนเป็นนายกฯ ทำทันที ให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นว่าผมทำได้ ตนและพรรคพลังประชารัฐจะนำพาประเทศไปสู่ความรุ่งเรือง นอกจากนี้เลือกตนและพลังประชารัฐ ประเทศชาติจะไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจเดินหน้า ค้าขายรุ่งเรือง ดังนั้นขอให้เลือกพลังประชารัฐ ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน ถ้าประเทศสงบ ความเจริญรุ่งเรืองจะมาสู่ประเทศของเรา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่นายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่ส.ส.และตนที่ยังอยู่กับพลังประชารัฐ เพราะพรรคนี้ไม่มีนายทุน ไม่มีนายใหญ่ และไม่มีครูใหญ่ พรรคนี้มีแต่หัวใจ ใจบันดาลแรง ซึ่งตลอดเวลาหาเสียง 60 กว่าวันที่ผ่านมาในเวทีต่างๆ ต่างมีวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง ใส่ร้าย แต่พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายดี ไม่ต้องมีวาทกรรม มีวาทกรรมเดียวคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง บางพรรคบอกว่า

 

 

กา…ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าประชาชนกาพลังประชารัฐ ประเทศไทยจะดีกว่าเดิม ทั้งนี้ 20 กว่าปี เราหาผู้นำที่เหมาะสมกับสถานการณ์วิกฤตทางการเมืองและสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งตนเห็นอยู่คนเดียวคือ พลเอกประวิตร ตนจึงไม่ย้ายไปไหน และอยู่ที่นี่ ตนถามหลายคนที่ไปย้ายไป วันนี้เริ่มโทรมาแล้วว่า ถูกหลอก ถ้าไม่ชนะเลือกตั้ง พรรคอาจจะพิจารณาให้กลับมา เพราะลุงป้อมใจดี ให้อภัยทุกคน มีผู้นำคนไหนเป็นแบบนี้บ้าง

 

 

นายวราเทพ กล่าวอีกว่า จะเลือกผู้นำที่คิดว่าหนุ่มสาว ประสบการณ์อาจจะเสี่ยงได้ แต่ยังมีความเคลือบแคลงว่า ผู้นำที่ทำประโยชน์เพื่อตนเองและครอบครัว หรือจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม แบบนี้เรารับไม่ได้ หากพลเอกประวิตรมีโอกาสเป็นนายกฯ สิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ในอดีต แต่พลเอกประวิตรทำได้ในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง ขณะเดียวกันมีคนบอกว่าคนกรุงเทพไม่ชอบเลือกส.ส.ฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้ตนขอให้คนกรุงทพพิสูจน์ให้เห็นด้วยการเลือก ส.ส.พลังประชารัฐกลับมาเป็น 2 เท่า และตนเชื่อมั่นทางออกของประเทศมี ถ้าได้พลเอกประวิตรเป็นผู้นำ

ด้านนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ปราศรัย ย้ำจุดยืนพรรคพลังประชารัฐ พร้อมก้าวข้าวความขัดแย้ง แต่ก็พร้อมขัดแย้งกับพรรคหรือกลุ่มการเมืองที่ไม่เอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเรื่องนี้เป็นจุดยืนที่แข็งที่สุดของพลังประชารัฐ พร้อมชี้ว่าประเทศไม่มีเวลาให้คนไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเวลาให้คนที่จะสร้างแต่ความแตกแยก มาบริหารประเทศ และประเทศไม่มีเวลาให้ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ที่เห็นประเทศเหมือนห้างร้านบริษัท หมุนเวียนครอบครัว พ่อไม่ได้ เอาอา เอาลูกมาปกครองประเทศ เรายอมไม่ได้ ประเทศไม่ใช่ของเล่น

เลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้อยากให้ทุกคนเลือกด้วยหัวใจ ที่เห็นว่าคนที่เราเลือกจะไปทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่ใช่เลือกด้วยความเกลียด หรือความกลัว กลัวว่าเลือกพลังประชารัฐ พรรคอื่นจะได้ไป พรรคนั้นจะมา ซึ่งไม่ใช่ มันเหมือนเอาความขัดแย้งของประชาชนมาหากิน แบบนี้เราไม่ทำ ตนมั่นใจผู้สมัครส.ส.กทม.พลังประชารัฐ หากไปเทียบกันตัวต่อตัวกับผู้สมัครพรรคอื่น ไม่มีทางแพ้แน่นอน ซึ่งจะเสียดายมากหากพวกเขาต้องแพ้ เพราะการเลือกแบบยุทธศาสตร์ที่กำลังรณรงค์อยู่ในตอนนี้ ดังนั้นอาทิตย์ 14 พฤษภาคม หากเลือกพลังประชารัฐทั้งแบบเขตและแบบปาร์ตี้ลิสต์ ยืนยันประชาชนจะได้ผู้นำและพรรคการเมืองที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง และความยากจน เพื่อคนไทยทุกคน

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น