เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยจนแน่นอิมแพ็ค อารีน่า
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สาเหตุที่พรรคเพื่อไทยต้องมีแคนดิเดตถึง 3 คน เป็นเพราะเกมการเมืองที่ประมาทไม่ได้ เพื่อไม่ให้ถูกเล่นงานทางการเมือง และเสี่ยงยุบพรรคอีก แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่สนับสนุนกติกาที่ไม่ยุติธรรม แต่ก็ต้องสู้กับกติกาที่ไม่ยุติธรรม พร้อมย้ำไม่ต้องกลัวผิดหวังเพราะแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย พร้อมช่วยกันแก้วิกฤตให้คนไทยแน่นอน
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้พูดถึงสาเหตุที่เข้าสู่เส้นทางการเมือง เพราะต้องการเป็นตัวแทนโอกาสของคนรุ่นใหม่ เพื่อคนรุ่นใหม่จะได้รับโอกาสที่หลากหลาย จากโอกาสที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
.
น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวถึง 4 โอกาสหลักไว้ด้วยกัน ได้แก่ โอกาสการเรียนรู้เทคโนโลยีการเงิน, โอกาสในการค้นหาตัวเอง, โอกาสทางการศึกษา, โอกาสในการเป็นผู้ประกอบการ เพื่อให้โอกาสประชาชนมีรายได้มากพอในการดำรงชีวิต
น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้ายถึง นายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ฝากความคิดถึง และคำขอบคุณถึงพี่น้องประชาชนที่ยังคงนึกถึงกันตลอด “ท่านพูดว่า ถ้าพ่อกลับมาติดคุก แล้วระหว่างที่พ่ออยู่ในคุก ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วเพื่อไทยขอคำแนะนำ หวังว่า มันสมองท่านจะช่วยให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้” นางสาวแพทองธาร กล่าว พร้อมย้ำ 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ พาพรรคเพื่อไทยเข้าทำเนียบ เปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้นได้ทันที
หากเราย้อนไปตรวจสอบตลอดระยะเวลา ที่ ครอบครัว ชินวัตร ได้ ตัดสินใจ เดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง นั้นสร้างความเสียหายอย่าง เหลือ คณานับ ให้กับประเทศไทยของเรา
ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร พูดพร่ำเรื่องจะกลับบ้านมาหลายครั้ง และมีความพยายามหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การกดดัน สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเอากระแสมวลชนคนเสื้อแดงโครงการพรรคการเมืองเพื่อไทยมากดดัน แต่เมื่อไม่ได้ดังหวัง จนผลักดันยกระดับการชุมนุมให้เป็นการเผาบ้านเมือง มีการใช้กองกำลังเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ในรัฐบาลเพื่อไทย ก็เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมแบบสุดซอยอีก ที่สุดแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นได้ตัดสินใจทำรัฐประหารเพื่อหยุดยั้งความรุนแรง และปัญหาทุจริตคอรัปชั่น จึงถือเป็นการดับฝันทักษิณ ชินวัตรที่จะกลับบ้าน