จากกรณีที่วัคซีนไฟเซอร์นำไปฉีดให้กับบุคคลภายนอกโดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จนแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมาเข้าพบ นายแพทย์จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมยอมรับว่า ได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสดังกล่าวให้กับพี่สาวจริง ส่วนแม่ยังไม่ได้ฉีด เนื่องจาก ผอ.รพ.นบพิตำ สั่งห้ามฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคคลภายนอกเด็ดขาด จากนั้น แพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าวได้ยื่นใบลาออกต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว
แพทย์กฤตยาณี เปิดเผยกรณีดราม่าที่เกิดขี้นว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด่านหน้า จะต้องเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคัม จ.นนทบุรี ทาง รพ.จึงได้เบิกวัคซีนไฟเซอร์มา 1 ขวดทำการฉีดให้กับบุคลากรเป็นโดสที่ 3 จำนวน 6 คนที่จะเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคุม และพบว่า เมื่อฉีดครบแล้ว มีวัคซนเหลือก้นขวดที่จะต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ตนมองจึงคิดว่า น่าสจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ดีกว่าทิ้งถังขยะไปเฉยๆ จนกระทั้งวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง รพ.นบพิตำ จะทำการฉีดวัคซีนให้บุคลากรดานหน้า จำนวน 66 คน โดยเบิกวัคซีนไฟเซอร์มา จำนวน 11 ขวด จนกระทั้งเวลาประมาณบ่ายโมงเศษ ตนเองได้เดินมาที่จุดฉีดวัคซีน ก่อนจะถามทีมฉีดวัคซีนว่า มีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดวัคซีนก็ตอบว่า บางขวดก็เหลือบางขวดไม่เหลือ โดยวัคซีนที่เหลือ ไม่มีใครรับรองว่ามีคุณภาพหรือไม่ เขาจะไม่ฉีดให้ใครเพราะไม่ได้คุณภาพ
“โดยหมอบอกว่าขวดที่เหลือ หมอขอได้ไหม เพื่อจะฉีดให้แม่กับพี่สาว จึงโทรไปให้พี่สาวที่ช่วยงานในคลินิกหน้า ม.วลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ให้ขับรถมาและพาแม่มาด้วย โดยบอกกับพี่สาวและแม่ว่า มีวัคซีนก้นขวดที่เขาทิ้งแล้วจะเอาไหม ฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา วัคซีนอะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีด และด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ให้ทีมฉีด เอาวัคซีนก้นขวดที่จะต้องทิ้งถังขยะมาฉีดให้พี่สาว จนกระทั้งมีเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องให้ ผอ.รพ.ทราบ ท่าน ผอ.จึงสั่งระงับการฉีดวัคซีนให้บุคคลภายนอก ดังนั้นแม่จึงยังไม่ได้ฉีด ฉะนั้นข่าวที่บอกว่าหมอเบียดเบียนวัคซีนโดสที่ 6 ฉีดให้แม่นั้นไม่เป็นความจริง “
แพทย์หญิงกฤตยาณี กล่าวอีกว่า เมื่อพี่สาวมาถึง หมอจึงให้เข้าไปนั่งในจุดที่ฉีดวัคซีน เพราะหมอมีความบริสุทธิ์ใจในการฉีดวัคซีนก้นขวดให้พี่สาว บุคลากรด่านหน้าที่ต้องรับวัคซีนทุกคนก็นั่งอยู่ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะเบียดเบียนแย่งวัคซีนเอาของคนอื่นมาฉีดให้พี่สาวและแม่อย่างแน่นอน อีกทั้งยืนยันว่า วัคซีนที่ฉีดให้พี่สาวเป็นวัคซีนที่ทิ้งแล้ว และเขาจะไม่แนะนำให้เอามาฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้า หากมีเหลือก็ทิ้ง หมอคิดว่า อย่าทิ้งเถอะมันเสียดาย หากหมอไม่บริสุทธิ์ใจจริง ๆ หมอก็บอกพยาบาลว่า หมอเอาไปฉีดให้พี่สาวเอง ฉีดในห้องหมอ ในรถก็ได้ หรือจุดไหนก็ได้ไม่ให้ใครเห็น ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความที่หมอบริสุทธ์ใจ และคิดน้อยไปจึงให้พยาบาลฉีดให้พี่สาวนะจุด ๆ นั้น จนเป็นเหตุให้คนบางคนที่เห็นเหตุการณ์อาจจะไม่เข้าใจ และวิตกกังวลลว่าหมอไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้ามาหรือเปล่า
“มันเป็นวัคซีนที่เหลือก้นขวดทิ้งถังขยะจริง ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ก็เห็น บุคลากรด่านหน้า 66 คน ทุกคนได้รับวัคซีน ยอมรับว่า หมอให้พี่สาวพาคุณแม่มาด้วย แต่แม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่อย่างใด เพราะหลังฉีดให้พี่สาวก็มีบุคลากรบางท่านรายงานให้ ผอ.รพ.นบพิตำ ว่า มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรด่านหนาให้กับบุคคลภายนอก ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ.กำชับไม่ให้ฉีดให้บุคคลภายนอก แต่หมอเองก็น้อยใจว่าแอะ เราทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาวัคซีนก้นขวดทิ้งไปแล้ว กลับมาฉีดให้กับแม่และพี่สาวของเราไม่ได้ เพื่อให้เขาปลอดภัย เพราะทุกวันที่หมอมาทำงานที่ รพ.นบพิตำ คลุกคลีกับผู้ป่วยรวมทั้งบุคลากรที่ติดเชื้อก็มี และหมอต้องกลับไปนอนกับแม่ กับพี่สาว ที่ผ่านมาหมอเองเป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้าแต่หมอไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้เลย นี่คือความเห็นแก่ตัวของหมอเอง หมอก็ขอโทษประชาชนทุกคนจริง ๆ ที่หมอเห็นแก่ตัว มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวจริง ๆ”
แพทย์หญิงกฤตยาณี กล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า หมอน้อยใจ เสียใจมาก ที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น จึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกและกลับไปบ้าน คิดทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่หมอทำมันถูกไหม เราชิงลาออกแบบนี้เราได้อะไรกับการลาออก ประกอบกับหมอที่ รพ.นบพิตำ มีน้อยมาก ส่วนหนึ่งต้องไปช่วย รพ.บุษราคัม และยังจะต้องเปิด รพ.สนามนบพิตำ ถ้าหมอออกจะมีหมอไม่เพียงพอ เพราะเป็น รพ.ขนาดเล็ก มีหมอไม่กี่คน หากหมอออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดตัดสินใจกลับมาโรงพยาบาลและไปเอาใบลาออกกลับคืนมา
“ฉันจะสู้ ฉันจะสู้ก่อนเพื่อคนนบพิตำ สู่เพื่อคนไข้และจรรยาบรรณ แม้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นและถูกโจมตีอย่างหนักมันบั่นทอนความรู้สึก บั่นทอนจิตใจตัวหมอเอง จากความเห็นแก่ตัวของหมอที่อยากให้คนที่เรารักคือแม่และพี่สาวได้ปลอดภัย มีชีวิตอยู่กับเราไปนาน ๆ หมอกราบขออภัยด้วย และยืนยันว่าหมอไม่ได้ไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้า เพราะทุกคนเป็นคนที่หมอรัก หมอรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมหมอ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะแย่งของเขามาอย่างแน่นอน หมอขอโทษนะค่ะ ที่หมอคิดน้อยไป ที่ว่าการที่เราไปหยิบวัคซีนที่เขาทิ้งถังขยะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ดี แพทย์หญิงกฤตยาณี กล่าวขอโทษพร้อมยกมือไหว้ด้วยน้ำตาไหลอาบแก้ม
พร้อมกันนี้แพทย์หญิงกฤตยาณี ยังกล่าวต่อไปอีกว่า หมอเรียกร้อง ต่อสู้ขอวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้ามาตลอด วันนี้ถ้าใครได้เห็นคลิปนี้ ไม่ว่ารัฐบาลหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องรีบนำวัคซีนมาฉีดให้บุคลากรด่านหน้าเถอะค่ะ ตัวหมอเองไม่อยากฉีดเข็ม 3 อยากเอาเข็มที่ 3 ไปฉีดให้แม่หรือคนที่เรารัก ทุกคนรักแม่รักครอบครัว โดยก่อนหน้านี้หมอกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน หมอมีแม่เพียงคนเดียว หมอจึงนำแม่และพี่สาวมาอยู่ด้วย จนเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ หมอเป็นห่วงแม่เพราะหมอต้องรักษาคนไข้โควิดเมื่อกลับมาบ้านก็ต้องนอนกับแม่ ใกล้ชิดกับพี่สาว หมอเป็นบุคคลเสี่ยงสูงคนหนึ่ง จึงตัดสินใจไปเช่าบ้านแยกให้แม่ไปอาศัยเพื่อความปลอดภัย ส่วนหมอนอนที่คลินิกกับพี่สาว หมอ“หมอกุ๊บกิ๊บ” กล่าว.